xs
xsm
sm
md
lg

Review : G-Net G101 มิวสิกโฟนสุดจิ๋ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




เมื่อเอ่ยถึงแบรนด์ "G-Net" เชื่อว่าชื่อนี้คงติดตาหลายคนอยู่ไม่น้อย ซึ่งพบได้บ่อยตามสื่อเคลื่อนที่อย่าง 'รถประจำทาง' ที่ทางจีเน็ทโหมแปะป้ายโฆษณาอยู่แทบทุกเส้นทางทั่วกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่โทรศัพท์มือถือของจีเน็ทที่เห็นออกมาช่วงแรกๆจะเน้นหนักไปทางทีวีโมบาย และการใช้งาน 2 ซิม 2 สายในเครื่องเดียวกัน แต่ระยะหลังทางจีเน็ทเริ่มออกผลิตภัณฑ์ครอบคลุมและหลากหลายมากยิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับ "G-Net G101" ที่ทางทีมงานนำมารีวิวให้ชมกันวันนี้ จัดเป็นมิวสิกโฟนที่เน้นหนักไปทางเครื่องเล่นMP3เสียส่วนใหญ่ ตั้งแต่รูปร่างหน้าตาที่เห็นแว้บเรกก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเครื่องเล่นเพลงพกพาแน่ๆ ยันฟังก์ชันภายในตัวเครื่อง พร้อมด้วยขนาดตัวเครื่องเล็กกะทัดรัดเหมาะแก่การพกพาไปยังสถานที่ต่างๆ ส่วนที่ต่างกับเครื่องเล่นMP3พกพาทั่วไปก็เห็นจะตรงที่สามารถใช้โทร.ติดต่อเพื่อนฝูงได้นั่นเอง

Design of G-Net G101



ยังไม่ทันเปิดกล่องก็ต้องตะลึงกับบรรจุภัณฑ์ที่ดีไซน์ได้เก๋ไม่เหมือนใครดี พอเปิดกล่องออกมาก็พบเจ้า G-Net G101 วางไว้อยู่ด้านบนสุดของกล่อง ส่วนด้านล่างเป็นที่เก็บอุปกรณ์ต่างๆและคู่มือ "G101" ตัวเครื่องถูกดีไซน์ให้เป็นรูปทรงไข่(วงรี) ดีไซน์สะดุดตาไม่แพ้แพกเกจบรรจุภัณฑ์ ซึ่งหน้าตาคล้ายๆเครื่องเล่นเพลงยี่ห้อดังค่ายผลไม้ ขนาดตัวเครื่องเล็กกะทัดรัด ขนาด 79.57 x 33.9 x 19.2 มม. น้ำหนัก 70 กรัม มีสีให้เลือก 7 แบบ ได้แก่ ชมพู (Pink), เหลือง (Yellow), ชมพูอ่อน (Light Pink), เขียว (Green), ส้ม (Orange), น้ำเงิน (Blue), ม่วง (Purple)



ด้านหน้า : ผิวตัวเครื่องด้านนี้ลักษณะเรียบมัน ไล่จากด้านบนสุดจะพบกับช่องขนาดจิ๋ว ซึ่งเป็นทั้งลำโพงสนทนาและลำโพงเสียง ถูกวางอยู่ตรงกึ่งกลางของตัวเครื่อง ถัดลงมาเป็นจอแสดงผลแบบ TFT-LCD 65,536 สี ขนาด 1.36 นิ้ว (ความละเอียด 176 x 220 พิกเซล)



ใต้จอแสดงผลมียี่ห้อ 'G-Net' วางพาดอยู่ตรงกึ่งกลาง ถัดลงมาเป็นปุ่มควบคุมทิศทางแบบวงล้อ(Wheel Key) ซึ่งหลักการทำงานคล้ายกับเครื่องเล่นเพลงสุดฮิตจากค่ายผลไม้ทุกอย่าง ที่ทำงานโดยการใช้นิ้วหมุนเพื่อเข้าเมนู, เลือกฟังก์ชันต่างๆ รวมถึงควบคุมเครื่องเล่นเพลง ปรับระดับเสียงต่างๆได้ด้วย




เมื่อใช้นิ้วดันสไลด์ออกด้านข้างไปทางขวา ตัวเครื่องจะดีดกางออก 180 องศา จะพบกับแผงปุ่มควบคุมที่ซ่อนอยู่ด้านใน ซึ่งปุ่มควบคุมด้านในประกอบไปด้วย ปุ่มรับสาย, ปุ่ม C ใช้ยกเลิก/ย้อนกลับ, ปุ่มวางสาย (กดค้างเปิด-ปิดเครื่อง) ด้านล่างเป็นแผงปุ่มกดตัวอักษร และตัวเลขตามมาตรฐานโทรศัพท์มือถือทั่วไป ลักษณะปุ่มค่อนข้างเล็กตามตัวเครื่อง ใต้แผงปุ่มมีช่องไมโครโฟนสนทนาอยู่ที่มุมล่างซ้าย

***หมายเหตุ ในการดันสไลด์ตัวเครื่องออกแต่ละครั้ง ต้องระวังตัวเครื่องหลุดมือด้วยนะครับ เนื่องจากตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างเล็กพอสมควร



ด้านหลัง : พื้นผิวมีลักษณะเรียบมันเหมือนกับด้านหน้า แต่สีที่เคลือบไว้จะสดเข้มกว่าอย่างเห็นได้ชัด และมีเพียงกล้องดิจิตอลแบบ VGA ถูกวางให้อยู่มุมขวาบนของตัวเครื่องเท่านั้น




เมื่อเปิดฝาหลังออกโดยการสไลด์ออกไปทางด้านหน้า จะพบกับช่องวางแบตเตอรี่ขนาด 370 mAh และช่องใส่ซิมการ์ดอยู่ด้านใต้ถัดจากแบตฯ นอกจากนี้ ยังมีสติกเกอร์ระบุหน่วยความจำในตัวเครื่องแปะไว้ด้านข้างตัวซิมด้วย ซึ่งรุ่นที่ทีมงานนำมาทดสอบมีขนาด 2 GB

***หมายเหตุ ฝาหลังทำมาจากสแตนเลสทำให้ทนทาาน และถ่วงน้ำหนักเครื่องได้ดีพอสมควร




ด้านขวา และด้านซ้าย : ไม่มีปุ่มใดๆหรือช่องต่อใดๆถูกออกแบบไว้ส่วนนี้




ด้านบน และด้านล่าง : ด้านบนมีเพียงพอร์ตเชื่อมต่อ USB ถูกดีไซน์ไว้ตรงกึ่งกลางของตัวเครื่อง ซึ่งเป็นพอร์ตอเนกประสงค์ใช้ทั้งชารจ์แบตเตอรี่, เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ รวมถึงใช้กับชุดหูฟังที่ให้มากับเครื่องด้วย และด้านขวาเป็นช่องสำหรับร้อยสายคล้องมือ - คอ ส่วนทางด้านล่างถูกปล่อยไว้แบบราบเรียบไม่มีปุ่มใดๆทางด้านนี้

Feature on G-Net G101




หลังจากหลงเสน่ห์ดีไซน์ของเจ้า G-Net G101 จนต้องหยิบยกมาเกริ่นนำล่วงหน้าไปก่อนแล้ว คราวนี้มาดูฟีเจอร์ภายในกันบ้าง เริ่มจากสำรวจเมนูที่ให้มาภายในเครื่องกันก่อนเลย ซึ่งพบว่าเครื่องรุ่นนี้มีเมนูให้เลือกใช้งานทั้งหมด 9 เมนูหลักด้วยกัน โดยผู้ใช้สามารถเข้าเมนูได้โดยกดปุ่มกลางบริเวณปุ่มควบคุมแบบวงล้อ (Key Wheel) ก็จะพบกับเหล่าเมนูทั้งหมด ประกอบไปด้วย ข้อความ(Messages), ศูนย์บริการ(Call Center), สมุดโทรศัพท์(Phonebook), มัลติมีเดีย(Multimedia), เครื่องเล่นMP3(Audio Player), ตารางเวลา(Organiser), เกมส์(Fun&Games), บริการ(Services) และตั้งค่า(Settings)

Audio Player



แน่นอนครับ ด้วยรูปร่างดีไซน์ที่ออกแบบให้เป็นเครื่องเล่นเพลงพกพาขนาดจิ๋ว แต่สามารถโทรศัพท์ได้ด้วยนั้น ทำให้ฟีเจอร์ที่เด่นที่สุดของเครื่องรุ่นนี้ต้องยกให้ "เครื่องเล่นเพลงMP3" (Audio Player) ไปครอง ซึ่งฟีเจอร์นี้ถูกแยกออกมาเป็นเมนูเดี่ยวๆอย่างชัดเจน เมื่อกดเข้าใช้งานจะพบกับรูปร่างหน้าตาของเครื่องเล่นเพลงทันที ประกอบไปด้วย ชื่อเพลงอยู่ส่วนบนสุด, รูปปกอัลบั้ม(ถ้ามี), สัญลักษณ์แสดงการเลือกใช้งานเล่นเพลง(แหล่งเก็บเพลง, เล่นวนซ้ำ, เล่นเรียง/สุ่ม), ระดับเสียง, แถบเวลาการเล่นเพลง และแถบแสดงปุ่มควบคุม



การเข้ารายชื่อเพลงทำได้โดยการกดที่ 'เมนู' บนปุ่มควบคุมทิศทางแบบวงล้อ และถ้าต้องการย้อนกลับให้กดปุ่ม 'C' บนแผงปุ่มกดตัวอักษร-ตัวเลข เมื่อเลือกเพลงที่ต้องการได้แล้วให้กด 'เล่น' ซึ่งสามารถใช้งานปุ่มควบคุมทิศทางแบบวงล้อ เพื่อใช้ควบคุมเครื่องเล่นเพลงได้โดยตรง ทั้งเล่นเพลง/พักเพลง, ย้อนกลับ, เล่นเพลงถัดไป ส่วนการปรับระดับเสียงทำได้ 2 วิธี คือ ใช้นิ้วหมุนที่วงล้อโดยตรง(ตามเข็มนาฬิกาเพิ่มเสียง, ทวนเข็มนาฬิกาลดเสียง) กับกดปุ่ม '#' เพื่อเพิ่มระดับเสียง และกดปุ่ม '*' เพื่อลดระดับเสียง



ส่วน"การตั้งค่า" มีให้เลือกปรับแต่งดังต่อไปนี้ แหล่งเล่นเพลง(ตัวเครื่อง กับการ์ดหน่วยความจำ), สร้างรายการอัตโนมัติ(เปิด/ปิด), เล่นซ้ำ(ครั้งเดียว/ปิด/ตลอด), เล่นแบบสุ่ม(เปิด/ปิด), เล่นเพลงเป็นพื้นหลัง(เปิด/ปิด), ตั้งเพลงเป็นเสียงเรียกเข้า(เปิด/ปิด) นอกจากนี้ ยังมีให้เลือกฟังเพลงผ่านชุดหูฟังสเตอริโอบลูทูธ และปรับรูปแบบเสียง หรืออีควอไลเซอร์ได้ทั้งหมด 8 แบบด้วยกัน ได้แก่ ปกติ, เบส, แดนซ์, คลาสิก, เสียงโทนแหลม, ปาร์ตี้, ป๊อป และร็อก

หลังการใช้งานพบว่า เสียงที่ขับผ่านทางลำโพงเสียงด้านหน้าตัวเครื่องนั้น ระดับความดังอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง โทนเสียงออกไปทางแหลมสูง แบนแห้งๆไม่มีมิติเท่าที่ควร เมื่อลองเร่งจนสุดมีเสียงอู้อี้และซ่าเป็นบางช่วง แต่ถ้าดูภาพรวมแล้วสำหรับโทรศัพท์มือถือเครื่องขนาดเท่านี้ถือว่าทำได้ดีทีเดียว ปุ่มควบคุมแบบวงล้อทำงานได้ตรงกับฟังก์ชันที่เซ็ตมา แต่ตัวเซ็นเซอร์ไวต่อการสัมผัสไปนิดต้องใช้เวลาในการปรับตัวพอสมควร และสามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้ประมาณ 9 ชั่วโมงต่อแบตฯ 1 ก้อน

Multimedia



ฟีเจอร์ถัดมา คือ มัลติมีเดีย(Multimedia) ที่เป็นศูนย์รวมความบันเทิง นอกเหนือจากเครื่องเล่นเพลงที่ได้ทำความรู้จักไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งในเมนูนี้ประกอบไปด้วย กล้อง, โชว์ภาพ, ถ่ายวิดีโอ, เล่นวิดีโอ, บันทึกเสียง, วิทยุFM และจัดการข้อมูล

Camera



หมวดนี้เรามาเริ่มต้นกันที่ "กล้องถ่ายภาพนิ่ง" ซึ่งเลนส์กล้องหลักทางด้านหลังตัวเครื่องนั้นให้ความละเอียด 1.3 พิกเซล เมื่อกดเข้าใช้งานจะพบกับสัญลักษณ์รายละเอียดแสดงการเลือกใช้งานวางเรียงอยู่บนสุด ด้านล่างเป็นจอแสดงภาพพร้อมบันทึกทุกเวลา เมื่อกดเลข '0' ส่วนการซูมขยายภาพสามารถหมุนปุ่มควบคุมแบบวงล้อ หรือกดปุ่มขึ้น-ลง(เมนู กับปุ่มเล่นเพลง) เพื่อซูมขยายภาพได้



การตั้งค่าการใช้งานกล้องสามารถใช้คีย์ลัดบนตัวเลขได้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ เลข 1 เป็นการปรับโหมดของค่าเอฟเฟกต์ต่างๆ(Normal, Grayscale , Sepia , Sepia Green , Sepia Blue และ Color Invite), เลข 2 ปรับโหมดการถ่าย (อัตโนมัติ, กลางวัน, ธรรมดา , แสงสะท้อน, เมื่อมีเมฆ และแดดจัด), เลข 4 โหมดหน่วงเวลา (5, 10, 15 วินาที และปิด), เลข 5 โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง (ครั้งเดียว, 3, 5 ครั้ง และปิด), เลข 6 โหมดถ่ายภาพ (กลางคืน กับอัตโนมัติ), เลข 7 ปรับความละเอียดภาพ (ธรรมดา , ละเอียด และต่ำ), เลข 8 ปรับขนาดภาพ (1280 x 960, 320 x 240, 160 x 120, 128 x 160 และ80 x 60)



ส่วน "กล้องถ่ายวิดีโอ" ให้ความละเอียด 176 x 144 พิกเซล ในรูปแบบไฟล์นามสกุล AVI หลักการทำงานเหมือนกับกล้องถ่ายภาพนิ่งทุกประการ แต่การตั้งค่าถูกลดทอนลง ซึ่งมีให้เลือกใช้งานดังต่อไปนี้ ค่าเอฟเฟกต์ต่างๆ(Normal, Grayscale, Sepia , Sepia Green, Sepia Blue และ Color Invite), ปรับโหมดการถ่าย (อัตโนมัติ, กลางวัน, ธรรมดา, แสงสะท้อน, เมื่อมีเมฆ และแดดจัด), โหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืน(เปิด/ปิด) และความคมชัด (ธรรมดา, ละเอียด, ตํ่า)

FM Radio



"วิทยุ FM" รุ่นนี้สามารถรับฟังได้โดยอาศัยชุดหูฟังที่ให้มาพร้อมกับเครื่องเป็นตัวรับสัญญาณ การค้นหาคลื่นสามารถกดเลื่อนปุ่มควบคุม ซ้าย-ขวา ได้ด้วยตัวเอง หรือจะให้เครื่องค้นหาแบบอัตโนมัติก็ได้ และยังสามารถกำหนดคลื่นความถี่เองในรูปแบบของการป้อนค่าตัวเลข สามารถจัดเก็บสถานีได้ทั้งหมด 20 สถานีด้วยกัน การเพิ่มระดับเสียงใช้วิธีเดียวกับในเครื่องเล่นเพลง ส่วนการตั้งค่ามีให้เลือกปรับใช้ 2 ค่าด้วยกัน คือ แบบเล่นเครื่องเล่นเป็นพื้นหลัง(เปิด-ปิด) กับเลือกรับฟังเสียงผ่านลำโพง(เปิด-ปิด)

Video Player&Recorder



"เครื่องเล่นวิดีโอ" รองรับไฟล์รูปแบบ AVI, MP4 และ3GP สั่งเล่นไฟล์โดยการกด"Play" ที่ปุ่มควบคุม หรือกดเลข '0' สามารถขยายภาพให้เต็มจอได้โดยการกดเครื่องหมาย '*' ภาพจะแสดงในแนวนอนเต็มหน้าจอ ส่วนการเพิ่ม-ลดเสียงทำลักษณะเดียวกับเครื่องเล่นเพลงทุกประการ ทางด้าน"เครื่องบันทึกเสียง" สามารถกดบันทึกได้แบบไม่จำกัดเวลา ขึ้นอยู่กับหน่วยความจำที่เหลืออยู่ในตัวเครื่อง สามารถตั้งค่าได้ 3 ส่วน ได้แก่ เลือกการจัดเก็บ(เครื่อง, การ์ดหน่วยความจำ), รูปแบบไฟล์ (AMR, WAV, AWB), คุณภาพเสียง(สูง, ต่ำ)

หลังการใช้งานหมวดมัลติมีเดียพบว่า ในส่วนของการใช้งานกล้องนั้น ต้องใช้ระยะเวลาสร้างความคุ้นเคยกับฟังก์ชันลัดพอสมควร และขณะจับถือใช้งานค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเครื่องมีขนาดเล็กและต้องระวังนิ้วมือไปบังหน้าเลนส์ทางด้านหลัง ครั้นจะให้จับตรงปลายเครื่องก็ต้องระวังเครื่องหลุดจากมือได้ง่ายอีก ส่วนคุณภาพของภาพนั้นทำได้แค่พอใช้งานเท่านั้น ส่วนวิทยุ FM, เครื่องเล่นวิดีโอ, เครื่องอัดเสียง ถือว่าสามารถใช้งานได้ปกติเหมือนกับโทรศัพท์มือถืออื่นๆทั่วไป ไม่มีลูกเล่นเด่นเพิ่มเติมเข้ามา



บทสรุป

สำหรับ G-Net G101 เป็นโทรศัพท์มือถือที่เน้นการดีไซน์ให้ดูน่าค้นหาตัวตนที่อยู่ภายใน ทั้งตัวเครื่องที่มีขนาดกะทัดรัด และโฉมหน้าที่เป็นสไตล์เครื่องเล่นเพลง MP3 ตัวเครื่องใช้พลาสติกเป็นส่วนประกอบหลักเกือบจะทั้งหมดทำให้เบาเหมาะแก่การพกพา แต่ก็ต้องแลกกับความทนทานต่อการใช้งานเช่นกัน และเมื่อเครื่องมีขนาดเล็กผลที่ตามมาคือปุ่มกดต่างๆก็ถูกลดขนาดลงไปด้วย จุดนี้จึงเป็นอีกข้อจำกัดการใช้งานสำหรับคนนิ้วใหญ่

การตอบสนองของเครื่องทำได้ลื่นไหลและค่อนข้างไว ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น ตัวเซ็นเซอร์เมื่อหมุนใช้ปุ่มกดแบบวงล้อพบว่า การตอบสนองถือว่าตรงตามฟังก์ชันที่เซ็ตมา แต่ก็มีตอบสนองไวไปบ้าง-ช้าไปบ้างบางชั่วขณะ ส่วนการเชื่อมต่อมีบลูทูธ, พอร์ต USB เฉพาะของจีเน็ท รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน WAP 2.0 บน GPRS

การใช้งานโทรศัพท์เสียงเรียกเข้าดังในระดับปานกลาง เสียงสนทนาชัดเจนดี นอกจากนี้ ยังมีลูกเล่นให้ใช้งานขณะสนทนาอีกด้วย โดยสามารถใส่เสียงแบ็คกราวน์ได้กว่า 10 รูปแบบเสียง ได้แก่ เสียงจักรยานยนต์, เดินเท้า, รถไฟฟ้า 1, รถไฟฟ้า 2, โรงอาหาร, ผับ, ดนตรี, เสียงปลุก, เสียงวูด, เสียงรบกวน เท่านั้นยังไม่พอยังสามารถดัดเสียงผู้ใช้งานได้อีก ซึ่งมีให้เลือกใช้ 8 โทนเสียง ได้แก่ เสียงเด็ก, หญิงสาว, หญิงชรา, ผู้หญิง, ผู้ชาย, ชายชรา, เบื่อหน่าย และเสียงแหบ

ส่วนระยะการใช้งานของแบตฯสามารถใช้งานได้ค่อนข้างยาวนานทีเดียวแม้ว่าแบตฯจะมีขนาด 370 mAh ก็ตาม ซึ่งภายในกล่องมีใส่มาให้ใช้ทั้งหมด 2 ก้อนด้วยกัน หลังการทดสอบพบว่าสามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้นานประมาณ 9 ชั่วโมง และเมื่อลองใช้งานปกติทั่วไปแบบหนักๆ โดยการเปิดเล่นเพลง 3 ชั่วโมง ต่อด้วยฟังวิทยุอีก 2 ชั่วโมง, ถ่ายภาพประมาณ 30 นาที และสนทนาโทรศัพท์รวมแล้วประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า พบว่าสามรถใช้งานได้วันต่อวันได้สบาย

ขอชม

- ขนาดกะทัดรัดพกพาไปไหนได้สะดวก
- ดีไซน์ดึงดูดความสนใจจากผู้พบเห็นได้มาก
- เครื่องตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ และแบตฯอึด

ขอติ

- ด้วยความเล็กกะทัดรัดทำให้การใช้งานค่อนข้างลำบาก
- พอร์ต USB เอนกประสงค์จำกัดการใช้งานได้ครั้งละ 1 การใช้งานเท่านั้น
- เพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกไม่ได้

ส่วนราคาเปิดตัว G-Net G101 อยู่ที่ประมาณ 3,200 บาท (2GB) และ3,500 บาท (4GB)

Company Related Links :
Gnetmobile







ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายเมื่อใช้เอฟเฟกต์ที่ให้มา
กำลังโหลดความคิดเห็น