เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาแบรนด์น้องใหม่อย่าง "เกตเวย์" ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ภายหลังจากเอเซอร์ อิงค์ได้เข้าซื้อกิจการ ซึ่งก่อนหน้านี้แบรนด์เกตเวย์เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆในสหรัฐอเมริกา ที่มีจุดเด่นเรื่องของการผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างเทคโนโลยี กับแฟชันดีไซน์ จึงทำให้ในเวลานี้เกตเวย์เป็นผลิตภัณฑ์ของเอเซอร์ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ไอทีที่ต้องการไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง
สำหรับโน้ตบุ๊กเกตเวย์ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 4 คอลเลกชัน ซึ่งทั้ง 4 คอลเลกชันนี้ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากกระเป๋าถือของทั้งสุภาพสตรี และสุภาพบุรุษ ที่ผสมผสานการออกแบบอุปกรณ์ไอทีและแฟชันเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทั้งนี้ 4 คอลเลกชันประกอบด้วย คอลเลกชันแรกชื่อว่า"เดอะ วินเทอร์ สโนว์ คอลเลกชัน", คอลเลกชันที่สอง "เดอะ เพอร์เฟกต์ สตอร์ม คอลเลกชัน", คอลเลกชันที่สาม "เดอะ ออทัมน์ เฉด คอลเลกชัน" และคอลเลกชันสุดท้าย "เดอะ ซัมเมอร์ บริซ คอลเลกชัน"
โดยรุ่นที่ทีมงานนำมารีวิวให้ชมกันในครั้งนี้จัดอยู่ในคอลเลกชันของ "เดอะ วินเทอร์ สโนว์ คอลเลกชัน" ที่มีดีไซน์บ่งบอกถึงรสนิยม ด้วยลวดลายคลาสสิกพิมพ์บนฝาตัวเครื่องพร้อมกับฉาบความมันวาวบ่งบอกถึงความทันสมัย และด้านในที่มีปุ่มคีย์บอร์ดให้ความรู้สึกนุ่มเมื่อได้สัมผัส ซึ่งกลยุทธ์การตลาดของเกตเวย์จะมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมเป็นหลัก โดยทางเกตเวย์ให้เหตุผลว่าตลาดในระดับพรีเมียมนี้ มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของตลาดไอทีโดยรวม ซึ่งความพิเศษของตลาดในกลุ่มนี้คือ ผู้บริโภคมีกำลังซื้อ และมีความเชื่อมั่นในแบรนด์สูง หรืออาจจะเรียกได้ว่าราคาไม่ใช่ปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อ แต่ต้องการมองหาผลิตภัณฑ์ที่โดนใจ มีดีไซน์ไม่ซ้ำใคร จุดนี้เองทางเกตเวย์จึงเชื่อใจว่าจะสามารถตอบสนองควมต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มนี้ได้อย่างลงตัว
Design of Gateway NV4806t/X002
Gateway NV4806t/X002 มีรูปทรงคล้ายๆกับยี่ห้อเอเซอร์อยู่หลายประการเลยทีเดียว ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่มีการดีไซน์ให้ดูบึกบึน หนาๆบวมๆ บ่งบอกถึงว่าความทนทานเป็นอย่างดี เมื่อสังเกตดูโดยรวมพบว่าตัวเครื่องถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย แต่แอบแฝงความหรูหราไว้เล็กน้อยที่บนตัวเครื่อง ด้วยลวดลายคลาสสิกพร้อมกับฉาบความมันวาวอีกชั้นหนึ่ง ตัวเครื่องใช้วัสดุที่ทำจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ ผสมกับพลาสติกคุณภาพสูงเป็นส่วนใหญ่ โดยมีขนาดรอบตัวอยู่ที่ 342 x 241 x 24-38.6 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักค่อนข้างหนักนิดนึง ประมาณ 2.45 กิโลกรัม มีให้เลือก 2 สี คือสีดำ กับสีน้ำตาล
เริ่มจาก ด้านหน้าฝาหลัง ลักษณะของพื้นผิวทางด้านนี้เรียบเนียนมันวาวด้วยสีดำ พร้อมด้วยลวดลายสีขาวเต็มพื้นที่ทางด้านนี้ ฝั่งขวาค่อนไปทางบนมีโลโก้พร้อมชื่อ "Gateway" สีเงินวางพาดสะดุดตาอยู่ในกรอบอะลูมิเนียมอีกทีหนึ่ง
เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาบริเวณตรงกลางจะพบกับเลนส์กล้องเว็บแคมความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล (640 x 480) ถัดมาฝั่งซ้ายจะพบกับช่องไมโครโฟนภายใน ซึ่งมีสัญลักลักษณ์รูปไมค์บอกอย่างชัดเจน ถัดลงมาเป็นส่วนของหน้าจอ LCD แบบ LED ขนาด 14 นิ้ว ให้ความละเอียดสูงสุด 1366x768 พิกเซล แสดงผลแบบไวด์สกรีนในอัตราส่วน 16:9 ใต้จอฝั่งขวามีชื่อ"NV Series" บ่งบอกถึงซีรีส์รุ่นนี้กำกับอยู่
ส่วนของข้อพับมีลักษณะเป็นตัวยึดติดเข้ากับเครื่องขนาดใหญ่ทั้งฝั่งซ้ายและขวา เมื่อลองขยับเปิด-ปิดหน้าจอพบว่าดูแน่นหนาดี ซึ่งภายในตัวยึดฝั่งซ้ายมีช่องสำหรับล็อกโน้ตบุ๊ก(Kensington Lock)ฝังมาให้ใช้งาน ส่วนฝั่งขวาถูกดีไซน์ให้เป็นที่อยู่ของปุ่มเพาเวอร์ (ถ้าใครหาไม่เจอตอนแรกก็ไม่ต้องตกใจนะครับ)
ถัดลงมาดูที่ตัวเครื่องเริ่มจากส่วนบนสุดจะพบช่องลำโพงเสียงขนาบอยู่าทางซ้าย-ขวา ถัดมาไล่จากฝั่งซ้ายจะพบกับไฟแสดงสถานะการใช้งานของเครื่องเริ่มจาก สถานะไฟแสดงการอ่านฮาร์ดดิสก์, Caps Lock, Numlock และบลูทูธ (ตามลำดับ) ถัดมาตรงกลางเครื่องเป็นปุ่มลัดแบบสัมผัส ประกอบไปด้วย PowerSave, Backup, ไวเลสแลน, ปิดทัชแพด, ปิดเสียง, ลดเสียง และเร่งเสียง(ตามลำดับ) ไฟแสดงสถานะทั้งหมดของส่วนนี้จะโชว์สีแดงเมื่อมีการใช้งาน และพื้นผิวส่วนนี้ทั้งหมดถูกออกแบบให้มีความมันวาว
ตัวคีย์บอร์ดปุ่มกดเป็นสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาวซึ่งค่อนข้างใหญ่พอสมควร พื้นผิวปุ่มมีลักษณะเรียบด้าน การวางปุ่มอักขระต่างๆเหมือนคีย์บอร์ดมาตรฐานทั่วไป หลังจากลองสัมผัสคีย์บอร์ดพบว่าปุ่มมีความนุ่ม และด้วยความที่ปุ่มค่อนข้างใหญ่จึงช่วยให้การพิมพ์งานเป็นไปอย่างคล่องตัว ซึ่งถือว่าถนัดมือเลยทีเดียว
ด้านล่างใต้คีย์บอร์ดมี "ทัชแพด" อยู่ตรงกึ่งกลางค่อนไปทางซ้าย ลักษณะของทัชแพดเป็นแบบเดียวกับพื้นผิวของตัวเครื่องบริเวณนี้ รวมถึงปุ่มคีย์บอร์ดด้วย กล่าวคือ เป็นผิวสีดำด้านมีส่วนเว้าบอกให้รู้ว่าเป็นพื้นที่ทัชแพดอย่างชัดเจน ซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควร ส่วนปุ่มกดซ้าย-ขวาอยู่ถัดลงมาทางด้านล่าง ซึ่งออกแบบให้เป็นแถบปุ่มใสยาวเพียงปุ่มเดียว มองทะลุเห็นโลโก้ "Gateway" อยู่ด้านในปุ่ม เมื่อละสายตามาทางด้านล่างซ้ายบริเวณขอบเครื่องจะพบกับไฟแสดงสถานะเปิด-ปิดเครื่อง(สีฟ้าเปิดเครื่อง) รวมถึงการสแตนบายของเครื่องด้วย(สีแดงกระพริบ) กับไฟแสดงสถานะการชาร์จแบตฯ(สีฟ้าชาร์จเต็ม)
เมื่อพลิกดูใต้เครื่องจะพบช่องใส่แบตเตอรี่ขนาด 4752 mAh อยู่ด้านบนสุด ส่วนบริเวณมุมด้านขวาบนเป็นที่อยู่ของพัดลมระบายความร้อน ซึ่งจะปรับรอบการหมุนโดยอัตโนมัติ เมื่อความร้อนของเครื่องมากขึ้นก็จะหมุนแรงตามอัตราที่ตั้งมาจากโรงงาน ทางด้านล่างจะเป็นที่อยู่ของเมนบอร์ด กับฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 นิ้ว สามารถไขน็อตเพื่อเปลี่ยนได้
Input and Output Ports
คราวนี้ลองมาดูช่องเชื่อมต่อของเครื่องรุ่นนี้กันบ้างเริ่มจากด้านซ้าย ไล่จากริมในสุดฝั่งซ้าย ประกอบไปด้วย พัดลมระบายความร้อน, VGA Out, ช่องเสียบสายแลน, HDMI, พอร์ตยูเอสบี 1 พอร์ต, ช่องเสียบไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟัง
ทางด้านขวาเริ่มจากริมในฝั่งขวา ประกอบไปด้วย พอร์ต USB อีก 2 พอร์ต ถัดมาเป็นออพติคัลไดร์ฟ เป็นแบบ SuperMulti DVD&RW Double Layer
ส่วนด้านหน้าเครื่องไล่จากฝั่งซ้ายจะพบช่องใส่การ์ดรีดเดอร์ ถัดมาเป็นช่องพัดลมระบายอากาศ
ด้านหลังฝั่งขวาใกล้กับแบตฯ มีช่องเสียบสายโทรศัพท์สำหรับต่อกับโมเด็ม 56K กับช่องสำหรับเสียบชาร์จเท่านั้น
นอกจากการเชื่อมต่อผ่านพอร์ตต่างๆแล้วยังมีการเชื่อมต่อผ่านระบบไวเลส แลน ที่รองรับมาตรฐาน 802.11a/b/g/n รวมไปถึงการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 2.0+EDR ซึ่งจะถือว่าให้มาครบเครื่องเลยทีเดียวสำหรับโน้ตบุ๊กรุ่นนี้
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพจะอยู่ในหน้าถัดไปนะครับ
Performance And Benchmark
หลังจากได้ทำความรู้จักรูปลักษณ์กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คราวนี้มาดูประสิทธิภาพของ Gateway NV4806t/X002 กันบ้างว่าผลที่ออกจะเป็นอย่างไร ลองไปไล่ดูทีละสเต็ปพร้อมกันเลย
เริ่มจากประสิทธิภาพของซีพียู ที่ใช้แพลตฟอร์มเซนทริโน 2 Intel Core 2 Duo P7350 @ 2.0GHz เมื่อใช้งานปกติคอร์สปีดจะอยู่ที่ 1596 MHz แต่ถ้าใช้งานเต็มประสิทธิภาพจะขึ้นไปอยู่ที่ 2.0 GHz แบบเต็มๆ ส่วน FSB 1064 MHz L1 D-Cache 32KB x2, L1 I-Cache 32KB x2 และ L2 Cache ที่ 3MB
ด้านเมนบอร์ดเป็นของที่ทาง Gateway ผลิตเอง ชื่อโมเดล SJV40-MV ใช้ชิปเซ็ต Intel PM45/82801iM(ICH9-M) ในส่วนของหน่วยความจำใส่ให้มา 2 GB โดยเป็นแบบ DDR2 2GB Bus 667 MHz จำนวนแถวเดียว จากจำนวนช่องที่รองรับได้ทั้งหมด 2 แถว ซึ่งสามารถใส่เพิ่มได้สูงสุด 4 GB
สำหรับการทดสอบคะแนนผ่าน PCMark05 คะแนนออกมาอยู่ที่ 4709 คะแนน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับปานกลางจนถึงดี ตามมาตรฐานของซีพียูระดับนี้ หลังทดลองใช้งานจริงพบว่าความลื่นไหลในการใช้งานตอบสนองได้ดี
สำหรับด้านหน่วยประมวลผลภาพหรือการ์ดจอใช้ของ NVDIA รุ่น GeForce G 105M กราฟิกแรมขนาด 512MB
เมื่อทดสอบจากโปรแกรม 3DMark06 ที่ความละเอียด 1280 x 768 ผลออกมาอยู่ที่ 2222 ซึ่งค่าที่ได้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเช่นเดียวกัน สามารถรองรับงานทางด้านกราฟิกได้อย่างสบาย และใครที่จะนำไปใช้เล่นเกมที่มีความละเอียดสูงๆก็ยังสามารถตอบสนองได้ดีอยู่
มาดูกันที่อัตราการเข้าถึงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์กันบ้าง ซึ่งที่ให้มามีขนาดความจุถึง 320 GB rpm 5400 จาก Hitachi ความเร็วสูงสุดในการอ่านข้อมูลอยู่ที่ 78.4 MB/s ส่วนอัตราการเข้าถึงข้อมูลอยู่ที่ประมาณ 20.7 ms ถือว่าเป็นอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ค่อนข้างอืดไปสักนิดสำหรับฮาร์ดดิสก์ตัวนี้
ด้านการเชื่อมต่อผ่านไวเลสนั้น ใช้การ์ดไวเลสจาก Intel Wireless WiFi Link 5100 AGN ที่รองรับมาตรฐาน 802.11a/b/g/n เมื่อทดสอบการใช้งานโดยการเชื่อมต่อห่างจาก Access Point ระยะประมาณ 10 เมตร พบว่า การจับสัญญาณอยู่ในเกณฑ์ดี คือ กราฟแสดงสัญญาณ 100% ไม่มีสัญญาณแกว่งให้เห็น
Speaker
เสียงที่ได้จากการต่อออกลำโพงอยู่ในระดับมาตรฐาน เมื่อต่อผ่านพอร์ต HDMI จะเปลี่ยนซาว์นการ์ดไปเป็น NVIDIA HDMI Audio แทน
สำหรับลำโพงภายในตัวเครื่องที่ให้มานั้นเป็นลำโพงแบบสเตริโอ หลังการทดลองเปิดฟังภายในห้องขนาดกว้าง 4 x 6 พบว่าเสียงที่ขับออกมาดังชัดเจน ลำโพงแยกซ้าย - ขวาทำงานได้อย่างลงตัวมีมิติ ออกโทนนุ่มใสฟังสบายลื่นหูดี
Battery and Heat
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นมีเป็นแบบ Li-ion ขนาด 6 เซลล์ ซึ่งระยะเวลาของแบตฯขึ้นอยู่กับการใช้งานแต่ละประเภท โดยรุ่นนี้มีฟังก์ชัน "POWERSAVE" ให้เลือกใช้บนแถบคีย์ลัดเหนือแป้นพิมพ์อีกด้วย ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานให้สามารถใช้งานได้อึดขึ้นอีกสักระยะหนึ่ง
เมื่อทดลองโดยการใช้งานแบบปกติ คือ เล่นอินเทอร์เน็ต พิมพ์งานไปด้วย เปิดเพลงฟัง ใช้ความสว่างหน้าจอ 50% ความดังเสียง 50% โดยใช้จนแบตเตอรี่เหลือประมาณ 5% พบว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 3 ชั่วโมง 07 นาที ส่วนเวลาในการชาร์จใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงพอดิบพอดี สำหรับการชาร์จ 1 - 95%
ส่วนการดูภาพยนตร์ผ่านแผ่นDVD โดยเปิดความสว่างหน้าจอสูงสุด 100% ความดังเสียงสูงสุด 100% โดยใช้จนแบตเตอรี่เหลือประมาณ 5% ปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 2 ชั่วโมง 52 นาที
มาดูกันในส่วนของความร้อนถ้าใช้งานปกติความร้อนของเครื่องจะอยู่ประมาณ 45 - 46 องศาเซลเซียส ซีพียูที่ประมาณ 36 - 39 องศาเซลเซียส ความร้อนการ์ดจออยู่ที่ประมาณ 45 องศาเซลเซียส และความร้อนของฮาร์ดดิสก์ที่ประมาณ 41 องศาเซลเซียส
เมื่อลองรันซีพียู 100% ให้เครื่องทำงานเต็มประสิทธิภาพเป็นเวลานาน 1 ชั่วโมง ปรากฏผลอุณหภูมิดังนี้ ความร้อนของเครื่อง 71 องศาเซลเซียส ความร้อนซีพียู 62 องศาเซลเซียส การ์ดจอ 58 องศาเซลเซียส และฮาร์ดดิสก์ 41 องศาเซลเซียส จะเห็นได้ว่าค่าตัวเลขที่ออกมานั้นไม่ค่อยสูงมาก ซึงแสดงให้เห็นว่าระบบระบายความร้อนของเครื่องรุ่นนี้ทำได้ค่อนข้างดี นอกจากนี้ ภายหลังการรันซีพียูเสร็จพบว่า ตัวเลขที่พุ่งกว่า 70 องศาเซลเซียสนั้นลดลงมาอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที
สำหรับ Rate จากวินโดวส์ วิสต้าแสดงผลตามรูปครับ
สำหรับฟีเจอร์ที่มี และบทสรุปจะอยู่ในหน้าถัดไปนะครับ
Feature of Gateway NV4806t/X002
ฟีเจอร์ที่ใส่มาให้ใช้ในโน้ตบุ๊กรุ่นนี้แทบไม่แตกต่างจาก ที่ใส่มาให้ใช้งานในยี่ห้อเอเซอร์เท่าไรนัก หรืออาจจะเรียกว่าเหมือนกันเลยก็ว่าได้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เราลองไปดูรายละเอียดของแต่ละฟีเจอร์พร้อมกันเลยดีกว่า
ฟีเจอร์ตัวแรก "Gateway GAMES" เป็นฟีเจอร์ที่รวบรวมเหล่าบรรดาเกมทุกรูปแบบ ทั้งเกมแบบออนไลน์ และออฟไลน์ ซึ่งฟีเจอร์นี้เปรียบเสมือนเป็นคลังเกมดีๆนี่เอง มีหมวดหมู่ให้เลือกใช้งาน ได้แก่ Home, My GAMES, FIND GAMES และCOMMUNITY
"Gateway Recovery Management" ตัวนี้เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยในเรื่องการสำรองข้อมูล(Backup)โดยสามารถเลือกได้ว่าจะให้จัดเก็บลงไดรฟ์ไหน หรือแม้จะสำรองลงแผ่นซีดี ดีวีดี ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ ยังมีการเรียกค่าเดิมคืนกลับมา (Restore) ไว้ให้เรียกใช้ด้วย โดยแบ่งเป็นหมวดให้เลือกใช้งาน ได้แก่ Backup, Restore และSetting
ฟีเจอร์ "Gateway Backup" จากรูปจะเห็นหลักการทำงานของโปรแกรมนี้ ที่สามารถทำได้ง่ายเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น คือ ให้เลือกไฟล์ที่ต้องการสำรองข้อมูล เลือกสถานที่เก็บไฟล์ และสุดท้ายกำหนดเวลาสำรองข้อมูล
ขั้นตอนแรกเป็นการเลือกรูปแบบของไฟล์ที่ต้องการ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆให้เลือก คือ 1. ตามชนิดของไฟล์ มีหมวดย่อยให้เลือกดังต่อไปนี้ มัลติมีเดีย, Favorites, Mails และOffice 2. เลือกไฟล์ที่อยู่บนหน้าจอเดสก์ท็อป (Desktop) 3. เลือกหลายๆไฟล์ใน My Computer
ขั้นตอนที่ 2 คือ การเลือกแหล่งเก็บไฟล์ที่ต้องการสำรองข้อมูล มีให้เลือกตามไดร์ฟที่ผู้ใช้แบ่งไว้ และสามารถบันทึกลงใน Removeable Storage ได้ด้วย
ขั้นตอนสุดท้าย คือ เป็นการกำหนดค่า การตั้งเวลาสำรองข้อมูล ว่าจะเครื่องทำงานในลักษณะไหน ซึ่งมีให้เลือกใช้งานอยู่ด้วยกัน 4 ลักษณะ ได้แก่ กำหนดเอง(Manually), ทุกวันตามเวลาที่กำหนด(Daily), ทุกๆสัปดาห์ตามวันเวลาที่กำหนด(Weekly) และเดือนละครั้งตามวันเวลาที่กำหนด(Monthly) เมื่อตั้งค่าต่างๆเสร็จเรียบร้อยโปรแกรมก็พร้อมจะทำงานทันทีตามที่ได้กำหนดเอาไว้
ฟีเจอร์สุดท้าย "Video Web camera" เป็นฟีเจอร์เรียกการใช้งานกล้องเว็บแคมทางด้านหน้า ซึ่งให้ความละเอียดที่ 0.3 ล้านพิกเซลเรียกใช้งานได้ง่ายๆโดยการเลื่อนเมาส์ไปทางด้านบนของจอ จากนั้นจะมีแถบสไลด์ฟังก์ชันนี้ลงมาให้เลือกใช้งาน
เมื่อเปิดฟังก์ชันนี้มาใช้งาน จะพบกับหน้าต่างกล้องซึ่งแบ่งออกเป็น 2 โหมดให้เลือกใช้งาน คือ โหมดภาพนิ่ง กับโหมดวิดิโอ
มีให้เลือกปรับค่าการใช้งานในส่วนของกล้อง ดังต่อไปนี้ ตามลักษณะของภาพ มีให้ลือกทั้งแนวตั้ง แนวนอน, Brightness, Contrast, Gamma, Hue, Saturation และSharpness
ส่วน"การตั้งค่า" สามารถเลือกปรับเรื่องของตำแหน่งภาพซึ่งส่วนนี้ใช้งานได้ทั้ง 2 โหมด และมีให้เลือกปรับเฉพาะโหมดได้ดังนี้ โหมดภาพนิ่ง มีให้เลือกปรับในส่วนของขนาด, ชนิดไฟล์ และแหล่งเก็บ โหมดวิดิโอ มีให้เลือกปรับจำนวนเฟรม, ขนาด และแหล่งเก็บเช่นเดียวกัน
บทสรุป
สำหรับโน้ตบุ๊ก "Gateway NV4806t/X002" จัดว่าเป็นโน้ตบุ๊กระดับพรีเมียมที่น่าใช้อีกหนึ่งยี่ห้อ ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่างทำให้ชวนสัมผัสตั้งแต่แรกเห็น ประกอบไปด้วยการดีไซน์ที่ดูหรูหราลงตัว พอร์ตการเชื่อมต่อที่ให้มาอย่างครบครัน และประสิทธิภาพของเครื่องภายหลังการทดสอบที่ไม่ทำให้ผิดหวัง ซึ่งทั้งหมดทำออกมาได้น่าประทับใจ และเกินเป้าที่ได้คาดหวังเอาก่อนทดสอบเสียด้วยซ้ำไป เรียกได้ว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ถ้ายังไม่ได้ลองอย่าได้ดูถูกของเขาเชียวหล่ะ หุหุ
ขอชม
- มีช่องต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่างๆมาให้ใช้อย่างครบครัน
- ระบบระบายความร้อนทำได้ค่อนข้างดี
- ปุ่มคีย์บอร์ดให้ความสัมผัสที่นุ่มสบายนิ้ว สมกับที่ได้คุยไว้
ขอติ
- ความมันวาวของฝาเครื่องทำให้ดูหรูหราก็จริง แต่ก็อาจทำให้หมองได้ด้วยคราบนิ้วมือ
- ตัวเครื่องดูเทอะทะ และมีน้ำหนักค่อนข้างมาก
สำหรับราคาเปิดตัวของ Gateway NV4806t/X002 อยู่ที่ 36,900 บาท
Company Relate Link :
Gateway
