โน้ตบุ๊ก HP Pavilion dv4-1126tx เป็นรุ่นที่ออกมาเจาะตลาดกลุ่มคอนซูเมอร์ที่ต้องการโน้ตบุ๊กที่เป็นโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งความสามารถส่วนใหญ่แทบไม่ต่างจากรุ่น dv7 ที่เคยนำมาทดสอบให้ได้รับชมกัน จุดแตกต่างหลักๆอยู่ที่ขนาดหน้าจอลดลงมาอยู่ที่ 14 นิ้วทำให้พกพาได้สะดวกขึ้น ส่วนซีพียูและการ์ดจอ ปรับลดลงมาเล็กน้อย
ขณะนี้ตามเว็บบอร์ดสาธารณะต่างๆ ได้มีการพูดถึงปัญหาของโน้ตบุ๊กของเอชพีเป็นอย่างมาก ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ที่จะมีปัญหาหลังจากหมดประกัน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะแก้ปัญหาด้วยการซื้อประกันเพิ่ม ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้ามากขึ้น
ดังนั้นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นตรงนี้จากการพัฒนาศูนย์บริการทั่วประเทศของเอชพี ให้มีมาตรฐานมากขึ้น เพราะจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกที่จะจับจ่ายสินค้าภายใต้แบรนด์เอชพี ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ของโลก แน่นอนว่าถ้าศูนย์บริการในประเทศไทยอยู่บนมาตรฐานเดียวกับต่างประเทศแล้ว ผู้บริโภคจะเต็มใจที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์เอชพีเป็นแน่
Design Of HP Pavilion dv4-1126tx
ตัวเครื่องถูกถอดแบบมาจากรุ่นเก่าอย่าง HP Pavilion dv7 อย่างชัดเจน จะมีเพิ่มเติมตรงที่รุ่นนี้เป็น Special Edition มีลวดลายกราฟิกเป็นรูปเกลียวคลื่นบนพื้นผิวที่ทางเอชพีเรียกว่า "HP Intensity Imprint" ทั้งบริเวณฝาหน้าจนถึงภายในตัวเครื่อง โดยมีระบุภายในเว็บไซต์ว่าลวดลายนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก "พลังแห่งธรรมชาติ"
นอกจากลวดลายแล้วบริเวณฝาหลังยังมีสัญลักษณ์เอชพีติดอยู่บริเวณด้านขวาล่างที่เรียกว่า 'Magic Chrome' ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานเครื่องตรงสัญลักษณ์ดังกล่าวจะมีไฟติดขึ้นมาเพื่อบอกสถานะการใช้งานของเครื่อง วัสดุส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกผสมแมกนิเซียมอัลลอยด์ รวมกับโครเมียมในบางจุด ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 334 x 240 x 34 มิลลิเมตร นำหนักประมาณ 2.35 กิโลกรัม
เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาจะพบกับหน้าจอ WXGA ขนาด 14.1 นิ้ว ความละเอียดสูงสุด 1280 x 800 พิกเซล บริเวณด้านบนมีกล้องเว็บแคมและช่องไมโครโฟนอยู่ด้านข้าง ส่วนบริเวณมุมขวาบนมีตัวอักษรบอกรุ่นของเครื่องติดอยู่ ส่วนด้านล่างหน้าจอมีโลโก้ของเอชพีอยู่
ถัดลงมาในส่วนของข้อพับจะเป็นแนวยาวอยู่ตรงกลางรองรับตามขนาดของหน้าจอ สามารถกางหน้าจอได้ประมาณ 240 องศา ลงมาดูบริเวณตัวเครื่องกันบ้าง เริ่มจากลำโพงที่กินพื้นที่บริเวณด้านข้างของข้อพับ ลงมาถึงบริเวณข้างคีย์บอร์ด โดยจะเป็นของ "Altec Lansing" บริษัทผลิตลำโพงยี่ห้อดัง
ในส่วนของแถบควบคุมประกอบไปด้วย ปุ่มเปิดเครื่อง ปุ่ม QuickPlay สำหรับเรียกใช้งานฟังก์ชันมัลติมีเดีย ปุ่มปิดเสียง เพิ่ม-ลด เสียง แถบควบคุมการเล่นเพลง และ ปุ่มเปิด-ปิด ไวเลสกับบลูทูธ โดยในส่วนนี้จะเป็นระบบสัมผัสที่รับสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว
ถัดลงมาในส่วนของคีย์บอร์ด มีสีเงินเช่นเดียวกับตัวเครื่อง ขนาดเท่าคีย์บอร์ดมาตรฐานทั่วไป เป็นที่น่าสังเกตว่าปุ่มการใช้งานฟังก์ชันบนคีย์บอร์ดปุ่ม F9-F12 จะมีแถบควมคุมการเล่นเพลงเช่นเดียวกับแถบควมคุมระบบสัมผัสบริเวณด้านบน ปุ่ม Shift ด้านขวาจะมีขนาดเล็กกว่าด้านซ้ายเนื่องจากโดนปุ่มลูกศรกินพื้นที่เข้ามา ไฟแสดงสถานะปุ่ม Numlock และ Caps lock ซ่อนอยู่ติดกับปุ่มดังกล่าว
ทัชแพดจะเป็นสีเงินสะท้อนแสงที่มีลวดลายเกรียวคลื่นเช่นเดียวกับลายบนตัวเครื่อง มีสัญลักษณ์ Scroll Bar อยู่บริเวณด้านขวาของทัชแพดบอกพื้นที่ในการใช้งาน ปุ่มเมาส์ซ้าย-ขวา จะอยู่ถัดลงมาจากทัชแพด การรับสัมผัสอาจจะแข็งไปสักหน่อย เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กรุ่นอื่นๆ จุดที่น่าสนใจของเอชพีคือ มีปุ่มสำหรับล็อกการใช้งานทัชแพด อยู่บริเวณด้านบน เมื่อไม่ใช้งานสามารถกดปิดได้
ทางด้านหลังของเครื่องจะมีพัดลมระบายอากาศขนาดใหญ่ติดอยู่ทางด้านซ้าย ที่มีการปรับรอบความเร็วตามสภาวะการใช้งาน เมื่อเครื่องร้อนถึงจุดหนึ่ง พัดลมจะหมุนเร็วขึ้นพร้อมกับเสียงที่ดังขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตามถ้าใช้งานห้องในปรับอากาศคาดว่าจะไม่มีเสียงพัดลมดังรบกวนแน่นอน
บริเวณใต้เครื่องของเอชพีจะดีอยู่อย่างคือไม่มีวอยด์ติดอยู่บริเวณขอบต่างๆที่สามารถแกะออกมาเพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถแกะเครื่องที่แบ่งออกเป็นส่วนๆ อย่างการ์ดไวเลส แรม และฮาร์ดดิสก์ ได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้เครื่องรุ่นนี้ยังสามารถที่จะเปลี่ยนออปติคัลไดร์ฟด้วยตนเองได้จากแถบล็อกที่เห็นอยู่บริเวณกลางเครื่อง
จุดที่น่าสนใจอีกจุดคือเครื่องโมเดลนี้รองรับการใส่ซิมการ์ด โดยเมื่อแกะแบตเตอรี่ออกมาจะเห็นสัญลักษณ์ซิมการ์ดติดอยู่ ซึ่งเครื่อง dv4 ที่จำหน่ายในปัจจุบันก็มีรุ่นี้สามารถใส่ซิมการ์ดได้ออกวางจำหน่ายแล้ว แต่จะตัดออปติคัลไดร์ฟที่เป็นบลูเรย์ทิ้งไป ในราคาเท่าๆกัน
Input and Output Ports
มาดูในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่าเครื่องรุ่นนี้เป็นโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ทำให้มีพอร์ตรองรับการเชื่อมต่อต่างๆมาให้อย่างครบครัน
ทางด้านซ้ายไล่จากด้านในจะประกอบไปด้วย ช่องล็อกโน้ตบุ๊ก, VGA-Out, Expansion Port, ช่องเสียบสายแลน, พอร์ต HDMI, eSATA/ยูเอสบี, ExpressCard และ การ์ดรีดเดอร์แบบ 5-1
ทางด้านขวาจะมี ช่องเสียบสายชาร์จ, ช่องเสียบโมเด็ม, ทีวีจูนเนอร์, ยูเอสบี 2 พอร์ต และ ออปติคัลไดร์ฟแบบ Blu-ray ROM พร้อม SuperMulti DVD Drive
ด้านหน้าทางฝั่งขวาจะมีช่องเสียบหูฟังและไมโครโฟน บริเวณใกล้ๆกันจะมีตัวรับสัญญาณอินฟาเรตจากรีโมตในการสังการเครื่อง ส่วนฝั่งซ้ายจะมีไฟแสดงสถานะการทำงานของตัวเครื่อง แบตเตอรี่ และฮาร์ดดิสก์
สำหรับการเชื่อมต่อไร้สายจะมีมาให้ทั้งไวเลส WiFi Link 5100 ที่รองรับมาตรฐาน 802.11 a/b/g/n และบลูทูธ
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพจะอยู่ในหน้าถัดไป
Performance And Benchmark
HP Pavilion dv4 ที่วางขายอยู่ในปัจจุบันตามโบชัวเดือนล่าสุด จะมีอยู่ทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกันซึ่งแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันที่ความเร็วของซีพียู แรม และฮาร์ดดิสก์เป็นหลัก ส่วนประกอบอื่นๆจะเหมือนกับแทบทั้งหมดยกเว้นในเรื่องซิมการ์ดที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ถ้าต้องการรุ่นที่มีซิมการ์ดจะถูกตัดออปติคัลไดร์ฟบลูเรย์ออกไปนั่นเอง
สำหรับเจ้า dv4-1126tx ที่ได้มาทดลองนี้ เป็นรุ่น Special Edition ทำให้สเปกบางอย่างไม่เหมือนกับเครื่องทั่วไปที่วางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ โดยเมื่อตรวจสอบผ่านโปรแกรม CPU-Z พบว่าโน้ตบุ๊กรุ่นนี้ใช้ซีพียู Intel Core 2 Duo P8600 @ 2.4 GHz ใช้เทคโนโลยี 45 นาโนเมตรช่วยประหยัดพลังงาน คอร์สปีดสูงสุดอยู่ที่ 2393.4 MHz ส่วน FSB อยู่ที่ 1063.7MHz, L1 D-Cache 32KB x 2, L1 I-Cache 32KB x 2 และL2 Cache ขนาด 3 MB
ในส่วนของเมนบอร์ดผลิตจากโรงงาน Compal ภายใต้แบรนด์ Hewlett-Packard โดยเป็นเพลตฟอร์มเซนทริโน 2 ใช้ชิปเซ็ต Intel PM45/82801M (ICH9-M) ส่วนของหน่วยความจำจะเป็น DDR2 2GB Bus 800 สามารถใส่เพิ่มได้สูงสุด 8GB
ทดสอบผ่านโปรแกรม PCMark05 ผลออกมาอยู่ที่ 4855 คะแนน ถือได้ว่าคะแนนการประมวลผลของซีพียู อยู่ในอันดับต้นๆเลยทีเดียว
กราฟิกการ์ด หรือ การ์ดจอ ตรวจสอบผ่านโปรแกรม GPU-Z พบว่าใช้ NVIDIA GeForce 9200M GS พร้อมกราฟิกแรมขนาด 512MB ในส่วนนี้อาจจะไม่ใช่รุ่นท็อปที่สามารถเล่นเกมแบบฮาร์ดคอร์ได้ แต่เชื่อว่ารองรับการใช้งานด้านมัลติมีเดียได้ครบครันแน่นอน
ทดสอบผ่านโปรแกรมอย่าง 3DMark06 คะแนนออกมาอยู่ที่ 1748 ที่ความละเอียด 1280 x 800 ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ สามารถใช้งานในการรับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงจากบลูเรย์ หรือใช้งานในกราฟิกทั่วๆไปได้แน่นอน ส่วนถ้านำมาใช้เล่นเกมที่กินสเปกมากๆคงปรับได้ในระดับกลางๆเท่านั้น
ต่อไปมาดูกันถึงฮาร์ดดิสก์ขนาด 320GB จาก Western Digital ตัวนี้มีความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงสุดอยู่ที่ 61.8 MB/s ส่วนค่าเฉลี่ยของการอ่านข้อมูลจะอยู่ประมาณ 47.3 MB/s อัตราการเข้าถึงข้อมูลอยู่ที่ 17.7ms ซึ่งอยู่ในระดับมาตรฐาน
ทางด้านไวเลสการ์ดจะเป็นของ Intel Wireless WiFi Link 5100 ที่รองรับมาตรฐาน 802.11a/b/g/n ระดับสัญญาณเมื่อเชื่อมต่อห่างจากจุด Access Point ประมาณ 10 เมตร สัญญาณคงที่อยู่ในระดับสูงสุด
Speaker
ในส่วนของลำโพงอาจจะไม่สามารถเทียบเท่ากับ dv7 ที่มี Subwoofer มาให้ใต้เครื่องด้วยไม่ได้ แต่มาตรฐานของ Altec Lansing ยังคงมีอยู่ ทำให้เสียงที่ได้ออกมาจากโน้ตบุ๊กรุ่นนี้ให้เสียงดังกังวาน แยกซ้าย-ขวาชัดเจนดี ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือซาวน์การ์ดเป็นของ IDT High Definition
Battery and Heat
สำหรับแบตเตอรี่เมื่อทดลองโดยการใช้งานอินเทอร์เน็ต พิมพ์งานไปด้วย เปิดเพลงฟัง ใช้ความสว่างหน้าจอ 50% ความดังเสียง 50% พบว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 2 ชั่วโมง 9 นาที ส่วนเวลาในการชาร์จใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 37 นาที ส่วนการดูภาพยนตร์ดีวีดีเมื่อเปิดความสว่างหน้าจอสูงสุด 100% ความดังเสียงสูงสุด 100% สามารถใช้งานได้ประมาณ 1 ชั่วโมง 37 นาที เช่นเดียวกับเวลาชาร์จ
มาดูกันในส่วนของความร้อนถ้าใช้งานปกติความร้อนของเครื่องจะอยู่ประมาณ 50 องศาเซลเซียส ฮาร์ดดิสก์ 48 องศาเซลเซียส เมื่อทดลองใช้งานหนักๆประมาณ 1 ชั่วโมง ความร้อนสูงสุดขึ้นไปอยู่ที่ 73 องศาเซลเซียส ส่วนความร้อนการ์ดจอขึ้นไปอยู่ที่ 95 องศาเซลเซียส
แต่เมื่อกลับมาใช้งานปกติ ความร้อนจะลดลงมาเหลือประมาณ 59 องศาเซลเซียส ในเวลาไม่ถึง 1 นาที แสดงให้เห็นว่าการระบายความร้อนของเครื่องรุ่นนี้อยู่ในระดับดีมาก
สำหรับ Rate และ Basic Information จากวินโดวส์ วิสต้า แสดงผลตามรูปด้านบนนี้ครับ
สำหรับฟีเจอร์ที่มี และ บทสรุปจะอยู่ในหน้าถัดไปนะครับ
Feature of HP dv4-1126tx
สำหรับฟีเจอร์หลักอย่าง QuickPlay ไม่มีอะไรแตกต่างจากในรุ่น dv7 ดังนั้นท่านผู้อ่านสามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่นี่ ส่วนฟีเจอร์ที่แนะนำในครั้งนี้จะเป็นแอปพลิเคชันจัดการต่างๆของเอชพีดังนี้
HP Total Care Advisor เป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยในการจัดการด้านต่างๆของเครื่องไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การรับประกัน อัปเดตวินโดวส์และระบบแอนตี้ไวรัส สถานะแบตเตอรี่ การสำรองข้อมูล การตั้งค่าปริ้นเตอร์ และ แสดงพื้นเก็บข้อมูลที่เหลืออยู่
ถัดมาเป็น HP Battery Check ในการทำงานจำเป็นต้องเสียบสายชาร์จด้วย เพื่อที่โปรแกรมจะตรวจสอบสถานะของแบตเตอรี่ว่ายังทำงานได้ดีอยู่หรือไม่ รวมไปถึงแสดงอัตราของแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ด้วย
ต่อมาคือ HP Health Check แปลกันตรงตัวคือตรวจสุขภาพของเครื่อง เชื่อว่าโปรแกรมทนี้จะมีประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่ลงวินโดวส์ใหม่ เนื่องจากเครื่องของเอชพีส่วนใหญ่จะไม่ให้ไดร์ฟเวอร์มาด้วย โปรแกรมนี้จะช่วยตรวจสอบไดร์ฟเวอร์ต่างๆในเครื่องว่าต้องใช้ตัวใดบ้าง ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไดร์ฟเวอร์ที่ใช้อยู่ไม่มีหรือเก่าเกินไป ผู้ใช้สามารถกดเพื่อดาวน์โหลดมาลงได้เลยไม่ต้องไปนั่งหาเองตามเว็บไซต์ต่างๆ
โปรแกรม HP System Information จะมีประโยชน์มากสำหรับคนที่ซื้อเครื่องใหม่และต้องการตรวจสอบว่าฮาร์ดแวร์ภายในเครื่องตรงกับในโบชัว หรือตามที่เรากำหนดหรือไม่ ซึ่งภายในโปรแกรมนี้จะแสดงผลให้เห็นแทบทุกอย่างเลยทีเดียว
สุดท้าย HP Photosmart Essential โปรแกรมสำหรับดูรูปภาพรวมไปถึงสามารถใช้แชร์รูปภาพ หรือสร้างรูปสำหรับหน้าปกหนังสือ ปกซีดี การ์ด ปฏิทิน จากรูปภาพที่เรามีได้อย่างง่ายดาย
บทสรุป
โน้ตบุ๊กเอชพี Pavilion dv4 ที่มีวางขายอยู่ในขณะนี้ จะมีทั้งรุ่นที่สามารถใส่ซิมได้ และ ใส่ซิมไม่ได้ ดังนั้นจุดนี้น่าจะถือเป็นอีกหนึ่งตัวแปรในการตัดสินใจซื้อ เพราะค่ายอื่นๆในขณะนี้ ยังไม่นิยมที่จะทำโน้ตบุ๊กใส่ซิมการ์ดในหน้าจอขนาดใหญ่เท่าไหร่นัก จะเน้นที่ใส่ซิมได้ในเครื่องรุ่นเล็กๆอย่างเน็ตบุ๊กมากกว่า
สำหรับประสิทธิภาพการทำงานต่างๆถือว่าสามารถใช้แทนเดสก์ท็อปได้เลยทีเดียว เนื่องจากซีพียูและการ์ดจอที่ให้มา สามารถตอบสนองการใช้งานทั่วๆไปได้แน่นอน ทางด้านมัลติมีเดียที่มีก็ครบครันไม่ว่าจะใช้ดูทีวี ดูภาพยนตร์ความละเอียดสูง (บลูเรย์) มีพอร์ตการใช้งานอย่าง HDMI eSATA และพอร์ตยูเอสบีให้ใช้อย่างเพียงพอ
ขอชม
- ระบบมัลติมีเดียต่างๆที่ให้มาครบครัน สมชื่อเอนเตอร์เทนเมนต์โน้ตบุ๊ก
- พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ครบตามที่ต้องการใช้
- โปรแกรม HP Health Check ช่วยขจัดปัญหาสำหรับผู้ที่หาไดร์ฟเวอร์ของเครื่องไม่ได้ รวมถึงใช้ในการอัปเดตไดร์ฟเวอร์ต่างๆได้อีกด้วย
ขอติ
- มีการตัดฟังก์ชันสแกนลายนิ้วมือออกไป
- เนื่องจากเป็นรุ่น Special Edition ราคาจำหน่ายจึงแพงกว่าปกติพอสมควร
สนนราคาของ HP Pavilion dv4-1126tx อยู่ที่ 49,900 บาท
Company Relate Link :
HP