“พิพัฒน์” ลงพื้นที่นครศรีธรรมราช เร่งฟื้นฟูแก้ปัญหา ถนนสาย 4189 “พิปูน–นบพิตำ” ที่ชำรุดทรุดโทรกว่า 37 ปี ตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่ปี 31 ทล.ชงของบปี 69 เร่งซ่อมและศึกษา EIA พร้อมบูรณาการทุกหน่วยงานเดินหน้า “ถนนแห่งโอกาส” เพื่อคุณภาพชีวิตประชาชน
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอำเภอพิปูน โดยเฉพาะโครงการปรับปรุง ถนนทางหลวงหมายเลข 4189 (พิปูน–นบพิตำ) ซึ่งเป็นเส้นทางที่ประชาชนรอคอยการฟื้นฟูมานานกว่า 37 ปี หลังจากได้รับความเสียหายจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2531 ณ อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช
นายพิพัฒน์กล่าวว่า ถนนสาย 4189 ถนนสายนี้สร้างมาตั้งแต่ปี 2528 แต่หลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่ในปี 2531 ได้รับความเสียหายอย่างหนักและไม่สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบจนถึงปัจจุบัน ทำให้ประชาชนต้องเผชิญปัญหาความไม่สะดวกมานานกว่า 37 ปี เนื่องจากเป็นเส้นทางสำคัญของภาคใต้ตอนบน เชื่อมโยงอำเภอพิปูน – นบพิตำ และสามารถเข้าสู่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษา การแพทย์ และพื้นที่เศรษฐกิจของภูมิภาค และประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ใช้เป็นเส้นทางที่เยาวชนในพื้นที่เดินทางเพื่อการศึกษา ผู้ป่วยเดินทางไปโรงพยาบาล และชาวบ้านขนผลผลิตทางการเกษตรออกขาย
“รัฐบาล นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล จะไม่ปล่อยให้ประชาชนต้องรอต่อไป ได้กำชับ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกัน กระทรวงคมนาคมและ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมายและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน”
นายพิพัฒน์กล่าวว่า โครงการนี้ไม่ใช่การก่อสร้างใหม่ แต่เป็นการซ่อมบำรุงถนนเดิมเพื่อกลับมาใช้ประโยชน์ อีกครั้ง จากที่ทรัพย์สินเสียหายยังสร้างใหม่ได้ แต่ชีวิตที่สูญเสียไปไม่สามารถกลับมาได้ ซึ่งการพัฒนาถนนสายนี้ จะเป็นการช่วยเหลือประชาชนกว่าครึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช ประมาณ 12 อำเภอ ที่จะได้รับประโยชน์โดยตรง ผมยืนยันว่าจะเร่งรัดให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนกว่าครึ่งจังหวัดได้รับประโยชน์อีกครั้ง
โดยโครงการปรับปรุงถนนสาย 4189 ระยะทางกว่า 33 กม. แบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 กม. ที่ 0+000 - 6+250 อยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง (ทล.) ปัจจุบันสามารถใช้งานได้ตามปกติ ช่วงที่ 2 กม. ที่ 6+250 - 24+65 อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ทล. ได้รับอนุญาตเข้าพื้นที่บางส่วนแล้ว (กม. ที่ 6 - 8) เพื่อซ่อมแซมเร่งด่วน และอยู่ระหว่างเสนอของบประมาณในปีงบประมาณ 2569 - 2570 ส่วนที่เหลือ (กม. ที่ 8 - 24) จะต้องขออนุญาตเข้าพื้นที่และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะใช้เวลา 3 ปีในการศึกษา และอีก 3 ปีในการก่อสร้าง และช่วงที่ 3 กม. ที่ 24+658 - 33+154 อยู่ในพื้นที่กรมป่าไม้ กรมชลประทาน และเทศบาลเขาพระ ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานขอรับมอบพื้นที่เพื่อจัดทำแผนบูรณะและเสนอของบประมาณดำเนินการต่อไป
นายพิพัฒน์เกล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้หารือกับ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอความร่วมมือให้อนุญาตเข้าพื้นที่ซ่อมบำรุงถนน ซึ่งได้มีการตอบรับและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการศึกษาข้อมูลและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ ซึ่งหากเป็นไปได้ จะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอยกเว้นการจัดทำ EIA เนื่องจากพื้นที่เดิมมีถนนอยู่แล้ว และประชาชนรอคอยการแก้ปัญหานี้มานานถึง 37 ปี
ทั้งนี้ ในการดำเนินงาน จะเป็นการบูรณาการร่วมกันของหลายหน่วยงาน ได้แก่ กรมทางหลวง, กรมทางหลวงชนบท, กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, กรมป่าไม้, กรมชลประทาน, สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5, ผู้นำท้องถิ่น และภาคประชาชนพร้อมขอบคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช, ส.ส.ในพื้นที่, และ กองทัพภาคที่ 4 ที่ให้การสนับสนุนให้ถนนสาย 4189 จะกลับมาเป็น “ถนนแห่งความภูมิใจของคนพิปูน” เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ หน่วยงานท้องถิ่น และ ประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ มี นายอารี ไกรนรา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายก นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ นายทรงยศินทร์ ชนปทาธิป ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง นายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ผู้บริหารสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมคณะ และมีนายสมชาย ลีหล้าน้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้การต้อนรับ


