"บ้านเพื่อคนไทย" รอจับฉลาก “พิพัฒน์” ขอดูข้อมูลก่อน ชี้ประชาชนต้องได้ประโยชน์ ด้าน SRTA เผยกำลังออกแบบ-ศึกษา EIA และเร่งทำแผนวิสาหกิจฯ พัฒนาที่อยู่อาศัยรอบสถานีรถไฟ ลุยปั้น บางซื่อ "เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ"
รายงานข่าวแจ้งว่า จากที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้มีการเปิดตัว "โครงการบ้านเพื่อคนไทย" ไปเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2568 โดยใช้พื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มาดำเนินการ นำร่อง 4 แห่ง ได้แก่ 1. พื้นที่บางซื่อ กม.11 (วิภาวดี) 2. พื้นที่เชียงใหม่ 3. พื้นที่เชียงราก (ปทุมธานี) 4. พื้นที่ธนบุรี รวมจำนวน 5,700 ยูนิต และมีการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน ซึ่งมีผู้ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจากธนาคารอาคารสงเคราะห์แล้วกว่า 1.4 หมื่นคนเพื่อเข้าสู่การจับฉลากในเดือน พ.ย. 2568 แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล จะทำให้โครงการต้องหยุดไปด้วยหรือไม่
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เรื่องนี้จะขอให้ รฟท.มารายงานข้อมูลก่อน ซึ่งล่าสุด รฟท.เพิ่งมีการแต่งตั้งรักษาการผู้ว่าฯ รฟท.เพื่อทำหน้าที่แทนผู้ว่าฯ รฟท.ที่ลาออกไป หากเป็นไปได้ภายในสัปดาห์นี้จะเชิญมาหารือว่าจะเดินหน้าต่อหรือไม่อย่างไร มีประเด็นข้อปัญหาอุปสรรคหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่โครงการบ้านเพื่อคนไทยเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดที่แล้ว มีผลต่อการพิจารณาหรือไม่ นายพิพัฒน์กล่าวว่า เป็นนโยบายของรัฐบาลไหนไม่ใช่ประเด็น หากโครงการเป็นประโยชน์ ต่อประชาชน รัฐบาลชุดนี้ก็ไม่ขวาง และจะนำมาต่อยอดให้ประชาชนด้วย แต่ต้องขอดูข้อมูลก่อน
@SRTA เผยจ้างออกแบบ-รายงาน EIA นำร่อง 4 แห่ง และต่อเนื่อง 21 พื้นที่แล้ว
ด้านนายกษพล บวรศรีการ รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจ ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (อทส.) หรือ SRTA เปิดเผยว่า การดำเนินการโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบสถานีรถไฟที่มีศักยภาพ ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2568 (งบกลาง) วงเงิน 151 ล้านบาท และรับทราบแนวทางการดำเนินงานโครงการฯ โดย SRTA ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อออกแบบรายละเอียดงานสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม และจัดทำรายงาน EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) โครงการนำร่องระยะที่ 1 จำนวน 4 พื้นที่ รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study), งานออกแบบทางแนวคิด (Conceptual Design) และรายงาน IEE (ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น) จำนวน 21 พื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตามแผน สำหรับแผนปฏิบัติด้านการพัฒนาพื้นที่บริเวณบางซื่อ ในระยะ 14 ปี (พ.ศ. 2569-2582)
@ปั้นบางซื่อ "เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ" นำร่อง แปลง E1, G9
ปัจจุบัน SRTA ได้จัดทำแผนปฏิบัติการฯ เสร็จสิ้นแล้ว ภาพรวมโครงการฯ ตั้งเป้าหมายหลักในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็น “เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ (Livable Smart City)” ต้นแบบ และเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) ซึ่งแผนฉบับนี้อยู่ระหว่างนำเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาในลำดับต่อไป หากได้รับการอนุมัติเชื่อว่าจะสร้างประโยชน์ในทุกมิติ และสร้างรายได้มหาศาลต่อ รฟท.ในอนาคต
ภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ระยะที่ 1 SRTA ได้เดินหน้าดำเนินโครงการสำคัญในพื้นที่บริเวณบางซื่ออย่างต่อเนื่อง เช่น การขอเช่าพื้นที่แปลง E1 เพื่อก่อสร้างที่ทำการกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่ การขอเช่าพื้นที่แปลง G9 เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในพื้นที่ ตลอดจนการประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง (District Utility System) ซึ่ง SRTA มีแผนจะดำเนินการเพื่อรองรับการพัฒนาตามแผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าว
นอกจากนี้ SRTA ยังเดินหน้าพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) โดยร่วมมือกับองค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองแห่งประเทศญี่ปุ่น (UR) เพื่อพัฒนาให้สถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์กลางการเดินทางระบบรางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและอาเซียน และพัฒนาพื้นที่บริเวณบางซื่อให้เป็น “เมืองอัจฉริยะบางซื่อ” ตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพื้นที่บริเวณบางซื่อ และคาดว่าจะเริ่มลงนามสัญญาเพื่อดำเนินงานร่วมกันได้ในช่วงต้นปี 2569
@ทำแผนวิสาหกิจงบปี 69-70 มุ่งเพิ่มรายได้ที่ดินรถไฟ
สำหรับ เอสอาร์ที แอสเสท เป็นรัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีพันธกิจในการดำเนินงาน คือ เพิ่มประสิทธิภาพการหารายได้เชิงพาณิชย์จากที่ดินที่ไม่ได้ใช้ในการประกอบกิจการรถไฟ (Non-Core Asset) ทั้งด้านการบริหารสัญญาเช่า การจัดหาผู้ลงทุน และการเช่าพื้นที่ เพื่อพัฒนาโครงการบนที่ดินของ รฟท. รวมทั้งพัฒนาด้วยตนเอง การซื้อหรือเช่าที่ดินจากบุคคลภายนอก เพื่อพัฒนาหรือร่วมทุน เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวให้แก่ รฟท.อย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน เอสอาร์ที แอสเสท อยู่ระหว่างจัดทำแผนวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569-2570 เพื่อกำหนดทิศทางกลยุทธ์ที่ชัดเจน และเหมาะสม สามารถรองรับและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว จนนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ การจัดทำแผนวิสาหกิจของเอสอาร์ที แอสเสท ดังกล่าว ยังมุ่งเน้นให้มีความเชื่อมโยงกับแผนปฏิบัติการและแผนวิสาหกิจของ รฟท. โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของ เอสอาร์ที แอสเสท ภายใต้กรอบแผนของ รฟท. ซึ่งคาดว่าแผนดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2569
                    

