ผู้จัดการรายวัน 360 - OSUKA (โอซูกะ) แบรนด์เครื่องมือช่างและสวนไร้สายคุณภาพสูง สัญชาติไทย สร้างปรากฏการณ์เติบโต กว่า 300% ในรอบ 6 ปี ด้วยจุดเด่นเครื่องมือไร้ ผสานกลยุทธ์ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และ ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ใช้งานง่าย ปลอดภัย ล่าสุดเปิดตัว “ชาคริต แย้มนาม” พรีเซนเตอร์คนแรกของแบรนด์ รุกตลาด พ่อบ้าน เกษตรกร ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20 % พร้อมเปิดเกมรุกตลาดผ่านกลยุทธ์สื่อสารแบบ Omni-channel ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ มุ่งขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศและตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็น หนึ่งในสามผู้นำตลาดเครื่องมือไร้สายของประเทศไทยภายในปี 2569
นายธนภูมิ สถิตสุขสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด OSUKA (โอซูกะ)แบรนด์เครื่องมือช่างและสวนไร้สายคุณภาพสูง สัญชาติไทย โดย บริษัท ไอแม็กซ์ เพาเวอร์ทูล จำกัด แบรนด์ OSUKA กล่าวว่า ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา OSUKA เติบโตทั้งในด้านยอดขายประมาณ 300 %และจำนวนผู้ใช้งาน โดยเฉพาะการขยายฐานจากกลุ่มช่างมืออาชีพ ไปสู่ผู้ใช้ในครัวเรือน (DIY/Home User) และเกษตรกรยุคใหม่ที่เลือกใช้เครื่องมือไฟฟ้าไร้สายแทนระบบเครื่องยนต์น้ำมัน เพื่อเพิ่มความสะดวกและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ปีที่ผ่านมา OSUKA มีอัตราการเติบโตของยอดขายกว่า 50% จากการเปิดตัวสินค้าใหม่กลุ่มเกษตร และในปีนี้ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มอีก กว่า 20% พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายสู่ผู้นำตลาดTOP3เครื่องมือไร้สายของประเทศไทยภายในปี 2569 พร้อมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น เครื่องฉีดล้าง และเครื่องเชื่อม รวมถึงลงทุนใน R&D และฐานการผลิตของตนเอง เพื่อยกระดับสู่แบรนด์เครื่องมือช่างและสวนไร้สายของคนไทย ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาค
ล่าสุด OSUKA ได้เปิดตัว “ชาคริต แย้มนาม” เป็นพรีเซนเตอร์คนแรกของแบรนด์ เพื่อรุกตลาดกลุ่มพ่อบ้าน คนทำสวน และเกษตรกรรุ่นใหม่ อย่างเต็มรูปแบบ ส่งเสริมแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง สะท้อนแนวคิดของแบรนด์ที่มุ่งเป็น “เครื่องมือคู่ใจของคนทำงานจริงทุกอาชีพ”และ “ต้องการสื่อสารให้คนเห็นว่าเครื่องมือช่างและสวน ไม่ใช่แค่ของใช้ แต่คือ ‘พลังของคนทำงานจริง’ และเน้นภาพลักษณ์ของ “เครื่องมือคู่ใจผู้ใช้งานในบ้าน” ที่เข้าใจความต้องการของผู้ใช้ทุกระดับ ตั้งแต่ช่างมืออาชีพ , พ่อบ้าน , DIYers ไปจนถึงเกษตรกรรุ่นใหม่
กลยุทธ์การตลาด OSUKA ใช้รูปแบบ Omni-channel เชื่อมโยงทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์อย่างไร้รอยต่อ โดยออนไลน์เน้นสร้างคอนเทนต์ให้ความรู้ผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมการสาธิตจากพรีเซนเตอร์และทีมช่างจริง ส่วนออฟไลน์จัดกิจกรรม Roadshow และ “OSUKA Workshop” ให้ลูกค้าได้ทดลองใช้งานสินค้าจริงทั่วประเทศ ปัจจุบัน OSUKA มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ พร้อมแผนขยายศูนย์บริการระดับจังหวัดและจุดรับประกันสินค้าผ่านร้านคู่ค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ให้สามารถเข้าไปเปิดประสบการณ์ทดลองใช้งานสินค้าจริง ตัวแทนยังมีช่องทางขายผ่านออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มยอดนิยม อาทิ Tiktok Facebook และครอบคลุมทุก E-Marketplace ชั้นนำ
นอกจากนี้ OSUKA ยังมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly) เน้นผลิตภัณฑ์ที่ประหยัดพลังงาน ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นเครื่องมือที่ใช้พลังงานไฟฟ้าไร้สายจากแบตเตอรี่ แทนเครื่องยนต์แบบเดิม มีเสียงเบาไม่มีมลพิษทางเสียง ไม่ปล่อยควันจากการใช้น้ำมัน โดยจุดแข็งของแบรนด์อยู่ที่ การพัฒนาแบตเตอรี่คุณภาพสูง ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง และออกแบบให้แบตเตอรี่ 1 ก้อน สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือทุกชนิดของ OSUKA เพื่อความสะดวกและคุ้มค่าของผู้ใช้ พร้อมดีไซน์เครื่องมือให้มีความปลอดภัยสูง ใช้งานง่าย และลดความเสี่ยงในการทำงาน เช่น เครื่องตัดแต่งกิ่ง เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย และอุปกรณ์ดูแลสวนที่ออกแบบให้ใช้งานได้สะดวกโดยไม่ต้องปีนป่าย
“เราเชื่อว่า ‘การทำธุรกิจให้ยั่งยืน’ ต้องเริ่มจากการเข้าใจลูกค้าจริง ๆ และพัฒนาสินค้าจากสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ใช่จากสิ่งที่เราคิดว่าดีเท่านั้น OSUKA ไม่ได้แค่ขายเครื่องมือ แต่เรากำลังสร้างแบรนด์ไทยที่มีนวัตกรรมเทียบเท่ามาตรฐานระดับโลก และเติบโตบนความภาคภูมิใจของคนทำงานจริง” นายธนภูมิ กล่าว
OSUKA เกิดขึ้นมาจาก เกิดขึ้นมาจากผู้ประกอบการไทยที่อยู่ในวงการเครื่องมือช่างมากว่า 30 ปี จึงเข้าใจ Pain Point ของผู้ใช้เชิงลึก และเห็นช่องว่างระหว่างเครื่องมือคุณภาพแต่ราคาสูงเกินเอื้อม กับสินค้าราคาถูกแต่ไม่ทนต่อการใช้งานจริง และ จึงเกิดแนวคิดสร้างแบรนด์ “เครื่องมือที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน ใช้งานง่าย คุณภาพดี และบริการหลังการขายที่มั่นใจได้” จากแนวคิดนั้น OSUKA วางจุดยืนชัดเจนในตลาดว่าเป็น “แบรนด์เครื่องมือช่างไร้สายสำหรับคนทำงานจริง” มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องมือช่างและสวนไร้สายให้มีคุณภาพเทียบเท่าแบรนด์ระดับโลก แต่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานจริงของผู้ใช้ไทย ทั้งความง่ายในการใช้งาน ความทนทาน และอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ โดยทุกผลิตภัณฑ์ของ OSUKA ถูกพัฒนาโดยทีม R&D ภายในประเทศ ยึดผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง (Customer - Centric Concept) จากการรับฟังเสียงจากผู้ใช้จริง นำมาพัฒนาให้เครื่องมือทุกชิ้นตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความทนทาน และความสะดวกสบายในการใช้งาน


