“จ่าเอก ยศสิงห์” ลงพื้นที่ค้นคลังสินค้าย่านบางเสาธง สมุทรปราการ ขยายผลการตรวจสินค้าไม่ได้มาตรฐานโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้ายึดเป็นมูลค่ากว่า 6.3 ล้านบาท
จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันนี้(3 พฤศจิกายน 2568) ได้ลงพื้นที่ตรวจคลังสินค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พบสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่มี มอก. จำนวน 4,068 ชิ้น มูลค่ากว่า 6.3 ล้านบาท
“ตนได้กำชับให้ สมอ. ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมาย เร่งขยายผลเพื่อกวาดล้างสินค้าไม่ได้มาตรฐานที่ลักลอบผลิต จำหน่าย หรือนำเข้าผิดกฎหมาย และต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด กระทรวงอุตสาหกรรม จะไม่ยอมปล่อยให้สินค้าอันตรายเหล่านี้ไปถึงมือประชาชนโดยเด็ดขาด ขณะเดียวกัน ขอย้ำเตือนให้ประชาชนระมัดระวังการเลือกซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า หากไม่มีเครื่องหมาย มอก. คู่กับ QR code ไม่มีชื่อผู้ผลิต ผู้นำเข้า ไม่ระบุแหล่งที่มาให้ตรวจสอบได้ หรือราคาถูกผิดปกติ อย่าซื้อมาใช้ เพราะอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตดังที่ปรากฏเป็นข่าว”
นายเอกนิติ รมยานนท์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เป็นการขยายผลจากกรณีไดร์เป่าผมช็อตเด็ก 10 ขวบ เสียชีวิตที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่ง สมอ. ได้ตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ระบบ “มอก.ว็อทช์” สแกนตรวจสอบการโฆษณาจำหน่ายไดร์เป่าผมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ รวม 1,531 URL ตรวจพบการกระทำผิด จำนวน 374 URL จึงสั่งการให้ทุกแพลตฟอร์มระงับการจำหน่ายสินค้าโดยทันที
สำหรับคลังสินค้าดังกล่าว เป็นหนึ่งในแหล่งกระจายสินค้าที่ถูกระงับการจำหน่าย จากการตรวจสอบพบสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภทไดร์เป่าผม ที่หนีบผม ที่ม้วนผม หวีไฟฟ้า เครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ เครื่องนวดไฟฟ้า หม้อทอดไฟฟ้า เตาไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า เครื่องฟอกอากาศ หลอดไฟแอลอีดี และหมวกกันน็อก ที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. รวมจำนวน 4,068 ชิ้น มูลค่ากว่า 6.3 ล้านบาท จึงยึดอายัดไว้ทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งโทษของผู้ประกอบการรายนี้ คือ จำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หลังจากนี้ สมอ. จะขยายผลต่อเพื่อดำเนินการสืบหาผู้นำเข้าสินค้าดังกล่าวต่อไป สำหรับผู้นำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้าน หรือทั้งจำทั้งปรับ



