xs
xsm
sm
md
lg

ทล.พร้อมใช้ "สมุดพกผู้รับเหมา" รอกรมบัญชีกลางประกาศกฎกระทรวง คุมเข้ม "พระราม 2" ปิดจ็อบก่อนสงกรานต์ 69

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

อธิบดีกรมทางหลวงคนใหม่เผย "สมุดพก" คุม "ผู้รับเหมา" รอกรมบัญชีกลางประกาศใช้ พร้อมบังคับโครงการใหม่ที่ยังไม่ประมูล แต่ไม่มีย้อนหลัง เผยล่าช้ากว่าเป้า เหตุเปลี่ยนรัฐบาล ต้องรอ รมว.คลังคนใหม่ลงนาม ย้ำ "พระราม 2" เข้มปลอดภัย มั่นใจปิดจ็อบก่อนสงกรานต์ 69

นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ในโอกาสที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมทางหลวงคนใหม่เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2568 นโยบายที่วางไว้ยังคงเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างต่างๆ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 คือ มอเตอร์เวย์ M82 สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว โดยในช่วงต่างระดับบางขุนเทียน -เอกชัย ระยะทาง 8.3 กม. งานเสร็จ 100% แล้ว เตรียมเปิดทดลองให้บริการภายในเดือน ต.ค. 2568 ส่วนช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 16.3 กม. งานโยธาคืบหน้า 88.43% ล่าช้าช่วงสัญญา 4, 7 ตั้งเป้าเปิดบริการให้ทันเทศกาลสงกรานต์ 2569

ภาพรวมผู้รับจ้างในแต่ละสัญญาได้มีการปรับตัวและปรับการทำงานพอสมควร เพื่อให้มีความปลอดภัยสูงสุด ในขณะเดียวกันจะต้องพยายามเร่งรัดให้เสร็จโดยเร็ว คือแม้จะมีการเร่งรัดงาน แต่จะไม่ยอมในเรื่องความปลอดภัยเด็ดขาด

“ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมมีตั้งทีมเฉพาะกิจที่มีวิศวกรร่วมด้วย ไปตรวจสอบและคอมเมนต์ว่าการทำงานและขั้นตอนต่างๆ มีอะไรไม่ปลอดภัย ถ้าพบก็ปรับแก้ ซึ่งทำให้การทำงานก็ดีขึ้นมาก จึงอยากให้มั่นใจว่าทีมกรมทางหลวงได้ทำเต็มที่และไม่อยากให้มีเหตุที่ไม่อยากให้เกิด” นายปิยพงศ์กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการสมุดพกที่ดำเนินการมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วเพื่อให้สามารถลงโทษผู้รับเหมากรณีเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงนั้น นายปิยพงษ์กล่าวว่า มาตรการสมุดพกผู้รับเหมานั้น โดยอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายจะขึ้นอยู่กับกรมบัญชีกลางเป็นหลัก โดยกรมบัญชีกลางจะต้องออกกฎหมาย 2 ฉบับ ได้แก่ กฎกระทรวงที่เกี่ยวกับคุณสมบัติผู้ประกอบการที่สามารถปรับเพิ่มหรือลดชั้นได้ และปรับแก้ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประเมินการก่อสร้างและผู้ประกอบการ

สำหรับความคืบหน้าของการร่างกฎกระทรวงนั้น ปัจจุบันได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว อยู่ระหว่างรอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ลงนามเพื่อประกาศใช้ต่อไป ซึ่งเมื่อมีการประกาศใช้กฎกระทรวง จากนั้นกรมบัญชีกลางจะต้องนำระเบียบที่กล่าวถึงข้างต้นนำเสนอสู่คณะกรรมการภายในกรมฯ เพื่อนำไปสู่การประกาศใช้ต่อไป ซึ่งระเบียบฉบับนี้ไม่จำเป็นต้องนำเสนอสู่ที่ประชุม ครม. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสามารถลงนามรับประกาศใช้ได้เลย

“ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้ เพราะกรมทางหลวงเป็นผู้ปฏิบัติตาม ต้องรอให้กฎกระทรวงและระเบียบดังกล่าวจะมีผลก่อน ซึ่งต้องดูการประกาศ และกำหนดบังคับใช้ว่าเป็นเมื่อใด ซึ่งโครงการใหม่ที่มีการประกาศทีโออาร์ หลังกฎกระทรวงฯประกาศใช้ก็จะสามารถบังคับใช้ได้เลย แต่จะไม่มีผลย้อนหลังกับโครงการที่ประกาศประมูลไปก่อน หรือโครงการที่ได้ลงนามก่อสร้างไปแล้ว” อธิบดีกรมทางหลวงกล่าว


นายปิยพงษ์กล่าวถึงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมได้ประกาศจะไม่มีการก่อสร้างอีกแล้วนั้น ในแผนงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่น่าจะไม่มีแล้ว แต่หากเป็นกรณีถนนชำรุดเสียหายก็ต้องซ่อมตามปกติ ซึ่งการก่อสร้างเล็กๆ แบบนี้ก็ยังคงมีอยู่ รวมถึงการก่อสร้างจุดที่เป็นสะพานคู่ขนานเพิ่มเติมเพราะปัจจุบันมีสภาพเป็นคอขวด หากไม่ดำเนินการจะทำให้การจราจรติดขัด

“ดังนั้นไม่อยากให้ตีความตามตัวอักษรเคร่งครัดขนาดนั้น เพราะเจตนาที่หมายถึงคือ การทำทางยกระดับที่ตอนนี้เหลือเพียงช่วงที่จะต่อไปวังมะนาว ส่วนนี้จะไม่มี แต่การปรับปรุงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดอุบัติเหตุเราก็ยังต้องทำ ถนนเสียก็ต้องซ่อมใช่ไหมครับ ก็ขออนุญาตสื่อสารให้เข้าใจด้วย แต่กรมกำลังศึกษาว่าในส่วนที่เหลือนี้จะต้องทำอย่างไรนอกจากการสร้างทางยกระดับอย่างเดียว” อธิบดีกรมทางหลวงกล่าว


รายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เวลา 23.00 น. นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง พร้อมวิศวกรใหญ่ด้านควบคุมการก่อสร้าง ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างสะพาน ผู้แทนบริษัทผู้รับจ้าง และทีมวิศวกรของโครงการฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติงานก่อสร้างโครงการมอเตอร์เวย์ M82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว บนถนนพระราม 2 พร้อมทั้งได้สั่งการและกำชับบริษัทผู้รับจ้าง ให้เข้มงวดการควบคุมและยกระดับด้านความปลอดภัยในทุกมิติ ตามนโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบการทำงานของผู้รับจ้างระหว่างการก่อสร้างจริงในช่วงเวลากลางคืน และการตรวจสอบมาตรการความปลอดภัยระหว่างก่อสร้าง พบว่า ยังมีเรื่องที่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติม ได้แก่
1. การทำแผนการยก (Lifting Plan) เพื่อป้องกันอุบัติเหตุรถเครนล้ม
2. การตรวจสอบเครื่องจักร เช่น Launching Gantry ให้มีความพร้อมก่อนใช้งาน
3. การเพิ่มไฟฟ้าแสงสว่างในพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ก่อสร้าง




กำลังโหลดความคิดเห็น