“ธนกร” รมว.อุตฯ เผยภาระกิจเร่งด่วน ช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะSME พร้อมสานต่อนโยบายอดีตรมว.เอกนัฏ “สุดซอย” เอาจริงสั่งปิดโรงงานที่ทำผิดกฎหมาย ด้านรมช.อุตฯ ลั่นเน้นลงพื้นที่ เดินหน้า “ปิดเร็ว เปิดเร็ว พึ่งพาได้”
วันนี้ (26 ก.ย. 2568) เวลา 09.09 น. นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม เดินทางเข้ากระทรวอุตสาหกรรมเป็นวันแรก และเข้าสักการะเดินทางเข้ากระทรวงอุตสาหกรรมเป็นวันแรก และสักการะองค์พระนารายณ์ ไหว้ศาลพระภูมิ โดยมีนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมให้การต้อนรับ
นายธนกร กล่าวว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมมีปัญหาค่อนข้างเยอะ ดังนั้นภารกิจสำคัญเร่งด่วนคือการช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อน โดยเฉพาะ SME ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ และสินค้าจีนที่ดัมป์ตลาดเข้ามาไทย ดังนั้นต้องดำเนินการออกมาตรการต่างๆเพื่อเสริมสภาพคล่อง หาแหล่งเงินกู้ให้กับSME และการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคตก็ได้เตรียมไว้ อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
ส่วนนโยบายที่ดีของอดีตรัฐมนตรีอุตสาหกรรมของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ก็พร้อมสานต่อโดยเฉพาะทีมสุดซอย เพื่อจัดการโรงงานอุตสาหกรรมที่ทำผิดกฎหมาย
เนื่องจากตนเข้ามาทำงานเพียงช่วงเวลาสั้น 4เดือน ดังนั้นตนจะทำงานทุกวัน และจะพยายามลงพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา และปัญหาปากท้อง
นายธนกร กล่าวต่อไปว่า ให้ความสำคัญกับการเร่งผลักดัน พ.ร.บ.กากอุตสาหกรรม ฉบับแก้ไขที่อดีต รมว.อุตสาหกรรมทำไว้ เนื่องจากมีเวลา 4 เดือนในการทำงาน ดังนั้น ระยะสั้นจะทำเรื่องที่จับต้องได้ ซึ่งตนชื่นชมมาตรการ “คนละครึ่ง” ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง โดยตนเห็นว่าควรมีคนละครึ่ง เฟส2
เบื้องต้นรมว.อุตสาหกรรม ได้แบ่งงานให้
จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม ดูกรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
จ่าเอกยศสิงห์ กล่าวว่า ตนจะเน้นลงพื้นที่ ซึ่งเคยเป็นนายก อบต.บางผึ้ง จ.ฉะเชิงเทรา ดังนั้นเมื่อลงพื้นที่ดูนิคมฯก็จะเชิญท้องถิ่นเข้าร่วมงานด้วย เพื่อรับรู้ร่วมกัน
เนื่องจากมีเวลาทำงานสั้นเพียง 120วัน จะดำเนินการ “ปิดเร็ว เปิดเร็ว พึ่งพาได้” โดยระยะสั้นจะพิจารณาโรงงานที่ถูกสั่งปิด ไม่ว่าจะสาเหตุใด หากโรงงานแก้ไขได้แล้ว ก็จะดำเนินการอนุญาตให้เปิดโรงงานได้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ