“เอกนัฏ” อำลาตำแหน่งรมว.อุตสาหกรรม ฝากรัฐมนตรีคนใหม่สานต่อภารกิจทลายทุนเทา กากอุตสาหกรรม ดัน พ.ร.บ. จัดการกาก-กฎหมายโรงงานในสภาฯ พร้อมให้คะแนนทีมสุดซอย-ข้าราชการเกิน 100 หวังวันนึงกลับมาทำงานร่วมกันใหม่
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า วันนี้ (12 ก.ย. 2568 )คือวันที่ผมทำงานวันสุดท้าย หลังเข้ามาตำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2567 ครบ1 ปีเต็ม ที่ผ่านมาตนหมกมุ่นกับการทำงานมาตลอด จนลืมว่าทำอะไรไปบ้าง แต่ถือว่าเป็นความสำเร็จเป็นชัยชนะ ทำให้อุตสาหกรรมมีสภาพดีขึ้น ตนให้คะแนนการทำงานของทีมและข้าราชการเต็ม ซึ่งให้เกินถึง 101 คะแนนเลย เพราะที่ทำงานทั้งหมดมันเกินความคาดหมาย ทั้งปราบทุนเทาที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ปราบของด้อยคุณภาพช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ดีทำให้เป็นมาตรฐานสากล
จากนี้ไปเชื่อมั่นว่ารัฐมนตรีคนใหม่จะสานต่อหลายงานที่ต้องทำต่อ เพราะทุกอย่างที่ถูกเปิดโปงขึ้น ไม่ว่าใครมาทำหน้าที่ต่อจะละเลยเรื่องนี้ไม่ได้ ขณะที่ชุดสุดซอยจะแปลงสภาพเป็นคณะสุดซอย ทำงานกับหน่วยงานอื่นๆ ต่อตามภาระกิจที่เคยได้ทำมา ในบริบทที่อยู่ในสภา ซึ่งตนดีใจที่ครั้งนึงได้ดำเนินงานร่วมกัน และหวังว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกันอีกครั้ง
ส่วนคดีของบริษัท ซินเคอหยวน สตีล จำกัด ล่าสุดผมโดนฟ้องหมิ่นประมาทเรื่องอยู่ที่ศาลระยอง และทางซินเคอหยวนยังเรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐจากการถูกปิดโรงงาน 2,700 ล้านบาท เรื่องนี้มันก็ทำให้รู้ว่าอะไรที่ไม่ถูกต้อง อะไรที่ทำผิดไว้ถูกปิดไปแล้วก็ต้องมีเหตุผล ตนเห็นความผิดปกติทำด้วยเหตุด้วยผล ไม่ได้ทำโดยพละการ ทำตามกติกา ทำตรงไปตรงมา เจ้าหน้าที่ปิดเพราะอะไร ดังนั้นผมยังมีเสียงในสภาความถูกต้องมันต้องกลับมา
ที่ผ่านมาได้วางรากฐานไว้แล้ว ทำให้เกิดการรับรู้ อย่าถอยโดยเฉพาะ พ.ร.บ. จัดการกากอุตสาหกรรม ที่ผมจะดันต่อในสภาแม้ว่าผมไม่มีตำแหน่งใน ครม. แต่ยังเป็นตำแหน่งในสภากฎหมายนี้ผมทำต่อล้านเปอร์เซ็นเตอร์จะไม่หยุดแน่นอน เช่นเดียวกับ พ.ร.บ. โรงงาน ที่ผมมาในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญซึ่งทั้งทีมจะช่วยกันดันเรื่องนี้ต่อเพื่อปฎิรูปอุตสาหกรรม ให้การเปิดโรงงานไม่ยุ่งยาก ตรวจสอบโปร่งใส ปิดให้เร็วสำหรับคนที่ทำผิด เปิดให้ไวเพื่อกระตุ้นลงทุนการผลิต
นายเอกนัฏ กล่าวว่าขอฝากแนวคิดและวิธีการทำงาน เพื่อผลักดันอุตสาหกรรม ดึงการลงทุน พัฒนาผู้ประกอบการ คือ 1.ต้องมีวิสัยทัศทิศทางที่ชัดเจน 2.การทำงานเป็นทีม สร้างบรรยากาศและแรงบันดาลใจในการทำงาน 3.ต้องกล้าเผชิญรับและแก้ปัญหาโดยเฉพาะปัญหาใหญ่ๆ 4.ต้องนำทีมพาไปสู่เส้นชัยต้องทำงานให้จบ 5.ต้องมีความซื่อสัตว์สุจริต
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่าตลอด 1 ปีที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมได้คืนพื้นที่ให้โรงงานอุตสาหกรรมที่ถูกต้องคืนมา ทำให้อ้อยไฟไหม้หายไปมีแต่อ้อยสด สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและข้าราชการ นักลงทุนที่เคยขาดความเชื่อมั่นในเรื่องเศรษฐกิจ ได้กลับมาดำเนินการต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน อุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังชะลอทำให้มันเดินต่อ เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่กำลังจะเกิดในไม่ช้า มีกฎหมายหลายฉบับที่ทำขึ้น ขณะที่ทีมสุดซอยทำให้คนรู้ว่ากระทรวงอุตสาหกรรมทำจริง