xs
xsm
sm
md
lg

ขสมก.เปิดวิจารณ์ TOR ประมูลเช่ารถเมล์ EV 1,520 คัน 1.5 หมื่นล.พร้อมระบบชาร์จ สเปควิ่งไม่ต่ำกว่า 200 กม.ต่อชาร์จ ส่งมอบ 3 ล็อต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ขสมก. เปิด TOR เช่ารถโดยสารปรับอากาศไฟฟ้า 1,520 คัน วงเงิน 1.53 หมื่นล้านบาท ฟังคำวิจารณ์ ถึง 26 ก.ย. ระยะเช่า 7 ปี พร้อมระบบชาร์จ ราคากลาง 19.70 บาทต่อกม. สเปกรถความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 70 กม./ชม. วิ่งได้ไม่ต่ำกว่า 200 กม.ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ส่งมอบ 3 ล็อต ใน 360 วัน

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2568 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้เดินหน้าโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) จำนวน 1,520 คัน และระบบอัดประจุไฟฟ้า ระยะเวลาการเช่า 7 ปีกรอบวงเงินงบประมาณ 15,355.6 ล้านบาท โดย นำร่างขอบเขตของงานและรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะโครงการ (Terms of Reference :TOR) ขึ้นบนเว็บไซต์เพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) ถึงวันที่ 26 ก.ย. 2568 กำหนดราคากลางอัตราเช่า 19.70 บาทต่อกม.ต่อวันต่อคัน เป็นเงินทั้งสิ้น 15,301.380 ล้านบาท

ทั้งนี้ อ้างอิงที่มาราคากลางจาก 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด ,บริษัท เฟิสท์ ทรานสปอร์ต จำกัด, บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด ,บริษัท เนก็ซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน)

นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า หลังจากนำร่ง TOR ขึ้นเว็บไซด์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ หรือประชาพิจารณ์ เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน หากไม่มีผู้วิจารณ์ ก็จะเข้าสู่กระบวนการประกวดราคาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถประมูลได้ภายในเดือน ต.ค. 2568 และคาดว่าจะได้ตัวผู้ชนะ ลงนามสัญญาได้หลังจากนั้นประมาณ 4 เดือน และเริ่มส่งมอบรถได้ปลายปี 2569


สำหรับเหตุผลที่จำเป็นต้องเช่ารถโดยสารใหม่ เนื่องจาก ปัจจุบัน ขสมก.ให้บริการจำนวน 107 เส้นทางครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯต่อเนื่อง จ.ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร มีผู้โดยสาร มากกว่า 7 แสนคน/วัน มีรถโดยสารให้บริการ จำนวน 2,883 คัน ซึ่งมีอายุใช้งานตั้งแต่ 7-34 ปี ส่งผลให้ ขสมก.มีต้นทุนค่าใช้จ่ายต่อปีสูงมาก ทั้ง ต้นทุนค่าเชื้อเพลิง ค่าเหมาซ่อม ค่าบุคลากร ทำให้ขสมก.มีหนี้สะสมต่อเนื่องทุกปี และรถโดยสารที่มีอายุใช้งานนานก่อมลพิษในด้านต่างๆอีกด้วย

โดยตามมติครม.เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2568 เห็นชอบให้ขสมก.ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโครงการฯ โดยคำนึงถึง ประเด็นต่างๆและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการของไทยที่มีศักยภาพเข้าร่วมแข่งขันอย่างเป็นธรรมกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการผลิตรถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาดใช้วัตถุดิบหรือชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศคอนเทนท์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 หรือในสัดส่วนที่เหมาะสม

สำหรับรายละเอียดสาระสำคัญ ในร่างทีโออาร์ ในส่วนคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ได้แก่ ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีความสามารถตามกฎหมาย ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ โดยผู้ยื่นข้อเสนอต้องลงทะเบียนที่มีข้อมูลถูกต้องครบถ้วนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) ของกรมบัญชีกลาง

ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ 1.มีผลงานการให้เช่าหรือเช่าพร้อมซ่อมบำรุงรถยนต์หรือรถโดยสาร วงเงินไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อสัญญา เป็นผลงานในสัญญาเดียวเท่านั้น
และเป็นสัญญาที่ผู้ยื่นข้อเสนอได้ทำงาน โดยมีเอกสารยืนยันการทำงาน เช่น สัญญาจ้าง เป็นต้น ซึ่งผลงานดังกล่าวต้องเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานเอกชนที่ขสมก.เชื่อถือ หรือ
 
2. เป็นผู้มีรายได้จากการเช่าหรือเช่าพร้อมซ่อมบำรุงรถยนต์หรือรถโดยสารหรือประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสาร วงเงินไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี โดยอ้างอิงเอกสารที่ยื่นกับกรมสรรพากร

นอกจากนี้ ผู้ยื่นข้อเสนอราคาต้องส่งคุณลักษณะเฉพาะของรถโดยสารที่นำเสนอและแจ้งรายละเอียดให้ชัดเจนเป็นภาษาไทยระบุยี่ห้อ รุ่นของรถโดยสาร ระบบอัดประจุไฟฟ้า พร้อมทำตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติที่เสนอตามข้อกำหนดของขสมก. หากผู้ยื่นข้อเสนอไม่จัดทำข้อมูลตารางเปรียบเทียบให้ครบถ้วน ถือว่าขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้เข้ายื่นข้อเสนอในการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้

ด้านหัวข้อขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษระเฉพาะ ได้แก่ 1.ต้องจัดหารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) จำนวน 1,520 คัน และระบบอัดประจุไฟฟ้า มีระยะเวลาการเช่า 7 ปี นับแต่วันที่คณะกรรมการตรวจรับรถโดยสารในงวดการส่งมอบของรถโดยสารคันดังกล่าว

2. ต้องจัดให้มีประกันภัยรถโดยสารสาธารณะ ประเภท 3 และประกันภัยภาคบังคับตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535

3.ต้องเพิ่มความคุ้มครองค่าเสียหายส่วนแรกในกรณีที่ ขสมก. เป็นฝ่ายผิดซึ่งครอบคลุมถึง รถโดยสาร ทรัพย์สิน และผู้โดยสารโดยจ่ายตามจริงในวงเงินไม่เกิน 10,000 บาทต่อครั้ง

โดยกำหนดระยะเวลาการส่งมอบรถโดยสาร และระบบอัดประจุไฟฟ้าภายในระยะเวลา 360 วัน นับถัดจากวันที่ผู้ยื่นข้อเสนอมีหน้าที่เริ่มจัดหารถโดยสารตามที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งให้ผู้ยื่นข้อเสนอเริ่มดำเนินการ

งวดที่ 1 ส่งมอบจำนวน 500 คัน และระบบอัดประจุไฟฟ้าจะต้องมีหัวจ่ายไม่น้อยกว่า 144 หัว ภายใน 180 วัน

งวดที่ 2 ส่งมอบจำนวน 500 คัน และระบบอัดประจุไฟฟ้าต้องมีหัวจ่ายไม่น้อยกว่า 144 หัว ภายใน 270 วัน

งวดที่ 3 ส่งมอบจำนวน 520 คัน และ ระบบอัดประจุไฟฟ้าจะต้องมีหัวจ่ายไม่น้อยกว่า 146 หัว ภายใน 360 วัน

โดยผู้เสนอราคาจะต้องยืนราคาไม่น้อยกว่า 180 วัน นับตั้งแต่วันเสนอราคา กำหนดค่าปรับกรณี ไม่ส่งมอบรถตามกำหนดแต่ละงวด จะปรับตามจำนวนรถโดยสารที่ส่งไม่ครบเป็นรายวัน อัตรา ร้อยละ 0.20 ของราคารถที่ยังไม่ได้ส่งมอบ และผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องชดเชยความเสียหายจากการขาดรายได้ค่าโดยสาร จำนวน 10,000 บาทต่อคันต่อวัน ส่วนระบบอัดประจุไฟฟ้า ที่ส่งไม่ครบเป็นรายวัน ปรับในอัตรา ร้อยละ 0.20 ของราคาระบบอัดประจุไฟฟ้าต่อวันตามจำนวนที่ส่งไม่ครบ

ตามเอกสารแนบท้าย 3 กำหนดคุณลักษณะเฉพาะของรถโดยสารปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) ดังนี้

1. คุณลักษณะทั่วไป

เป็นรถพลังงานไฟฟ้าพื้นต่ำ (Low Floor) ความยาวตัวรถไม่นอยกว่า 10.5 มตร ขับเคลื่อนรถโดยสารมีน้ำหนักบรรทุกรวม (GVW) ไม่น้อยกว่า 17,000 กิโลกรัม เป็นรถใหม่ไม่เคยใช้งานมาก่อน ,มีค้อนทุบกระจกไม่น้อยกว่า 6 อัน ,มีเครื่องดับเพลิงอย่างน้อย 4 เครื่อง,ติดตั้งม่านบังแสงแดดแบบหีบแพลงหรือแบบชัก เป็นวัสดุอย่างดีไม่ลามไฟ ,มีที่นั่งผู้โดยสาร ที่นั่งสำหรับผู้พิการ และที่นั่งพับเก็บได้ ไม่รวมคนขับ รวมกันไม่น้อยกว่า 31 ที่นั่ง

2.คุณสมบัติเฉพาะของโครงสร้างรถโดยสาร

รถโดยสารมีความสูงไม่น้อยกว่า 3 น้อยกว่า 3.35 เมตร , โครงสร้างและผนังทุกด้านต้องผ่านกระบวนการ Salt Spray Test โครงสร้างตัวรถต้องป้องกันสนิม (การกัดกร่อน) โดยวิธีเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน ( Hot-dip galvanized ) ทั้งคัน , โครงคัสซีต้องเป็นโครงคัสซีใหม่ ทำด้วยโลหะแข็งแรงตลอดความยาวของตัวถังรถและต้องมีอุปกรณ์ส่วนควบเมื่อต่อตัวถังแล้วสามารถรับน้ำหนักเต็มอัตราบรรทุกได้ทุกสภาพการใช้งานของรถ เป็นต้น

3.คุณลักษณะเฉพาะของระบบขับเคลื่อน

ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเครื่องยนต์ไม่มีเชื้อเพลิง กำลังมอเตอร์รวมกันไม่น้อยกว่า 159 กิโลวัตต์ (maximum power ) รถโดยสารทำความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง

4.คุณสมบัติเฉพาะ ชนิด และขนาดของแบตเตอรี่ และชุดควบคุมของแบตเตอรี่ที่ใช้นการขับเคลื่อน มีความจุไม่น้อยกว่า 250 กิโลวัตต์ และสามารถวิ่งได้ที่ระยะทางทำการไม่ต่ำกว่า 200 กิโลเมตรต่อการอัดประจุไฟฟ้าเต็มหนึ่งครั้ง ตลอดอายุสัญญา

โดยผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องจัดหาระบบอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งประกอบไปด้วย ตู้ควบคุมกำลังไฟฟ้า (Power Cabinet), เครื่องอัดประจุไฟฟ้า (EV Dispenser), หัวจ่าย (Connector) สายไฟสำหรับใช้ในการเชื่อมต่อตู่ควบคุมกำลังไฟฟ้าและเครื่องอัดประจุไฟฟฟ้า และระบบเทคโระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อควบคุมการอัดประจุไฟฟ้า (Software) ที่มีมาตรฐานสอดคล้องกับระเบียบ


กำลังโหลดความคิดเห็น