ผู้จัดการรายวัน 360- “ไทยสเตนเลสสตีล” แบรนด์เครื่องครัวไทยที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 55 ปี ปีนี้พร้อมขยับปีกครั้งใหญ่ ลงศึกเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก ภายใต้แบรนด์ "Seagull Electric" เจาะคนเมือง คนรุ่นใหม่ ตั้งเป้า 3 ปี ยอดขาย 500 ล้านบาท
นายอรุณ เรืองจรุงพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสเตนเลสสตีล จำกัด (เจ้าของแบรนด์ นกนางนวล) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเราเห็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่ต้องการสินค้าที่ใช้ง่าย ดีไซน์ทันสมัย และเชื่อถือได้ ที่ทำให้ชีวิตสะดวกขึ้น ง่ายขึ้น และทันสมัยขึ้น ทางบริษัทจึงพร้อมขยายกลุ่มสินค้าสู่การใช้ชีวิตในบ้านยุคใหม่ จาก 'เครื่องครัวคุณภาพ' สู่ 'เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านยุคใหม่' ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ Seagull Electric ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายพอร์ตโฟลิโอของเรา
แผนขยายธุรกิจสู่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กครั้งนี้ เนื่องจากพบว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก (Home Appliances)มีขนาดตลาดที่ใหญ่ มูลค่าไม่น่าจะต่ำกว่า 5,000-6,000 ล้านบาท ปีนี้น่าจะเติบโต 1 หลัก เพราะเศรษฐกิจไม่ดี แต่ในตลาดยังแข่งขันสูง มีหลายแบรนด์ ที่สำคัญมีแบรนด์จีนเยอะ ไม่มีคุณภาพ ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น เรามีจุดแข็งเรื่องคุณภาพจึงเข้ามาในตลาดนี้ ซึ่งเราศึกษาตลาดมา 1-2 ปี ปีนี้พร้อมทำตลาดอย่างจริงจัง และถือเป็นครั้งแรกในรอบ 55 ปี ที่ขยายธุรกิจ เพิ่มแบรนด์ใหม่
“การขยายพอร์ตจากเครื่องครัวมาสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กนั้น มีความท้าทายมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภครับรู้ว่า Seagull Electric จะรักษามาตรฐานคุณภาพ เช่นเดียวกับที่ผู้บริโภคได้รับจากแบรนด์ Seagull เอาไว้ แม้จะเป็นสินค้ากลุ่มใหม่ อีกทั้งตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กมีการแข่งขันสูง แต่บริษัทมีความมั่นใจและพร้อมรับมือด้วยการยึดจุดแข็งของแบรนด์ เรื่องความน่าเชื่อถือ คุณภาพ การรับประกัน และการบริการหลังการขาย พร้อมพัฒนาสินค้าให้มีดีไซน์และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งาน“ เบื้องต้นของการเปิดตัวแบรนด์ Seagull Electric ครั้งนี้ เป็นจ้างผลิตนำเข้าจากจีน และบริษัทใช้งบกว่า 20 ล้านบาท เพื่อสื่อสารการตลาดเชิงรุกสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้ว่า Seagull ไม่ได้มีแค่เครื่องครัว แต่ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมกิจกรรมมากมายผ่านงานอีเวนต์ต่างๆ และช่องทางออนไลน์ของบริษัท ไปสู่กลุ่มเป้าหมายหลัก โดยเฉพาะกลุ่มคนเมือง คนรุ่นใหม่ ที่มองหาความสะดวกในการใช้งาน
“กลุ่มเป้าหมายหลักของ Seagull Electric คือคนเมืองและครอบครัวยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ ต้องการอุปกรณ์ที่ใช้ง่าย ดีไซน์สวย และเข้ากับบ้านหรือคอนโด Seagull Electric แตกต่างจากคู่แข่งด้วยคุณภาพแบบ Seagull ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ผสานกับดีไซน์ร่วมสมัย และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ในราคาที่คุ้มค่า โดยมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างและเป็นจุดแข็งของเรา โพซิชั่นนิ่งเป็นพรีเมี่ยมแมสแบรนด์ ถูกกว่ายุโรปและญี่ปุ่น 20-30% แต่แพงกว่าจีน 20%“
อย่างไรก็ตามไลน์อัปสินค้าของ Seagull Electric ช่วงแรกจะเปิดตัว 40 ไอเท็ม ปีหน้าเพิ่มอีก 30-40 ไอเท็ม ครอบคลุมการใช้งานครัวและไลฟ์สไตล์ประจำวัน เช่น หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าแบบตั้งโปรแกรม, เครื่องทำน้ำเต้าหู้, เครื่องปั่นอเนกประสงค์, เครื่องบดสับ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสินค้าเหล่านี้มาพร้อมกับดีไซน์ทันสมัย และฟังก์ชันการใช้งานที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานของคนยุคใหม่ มีคุณภาพที่ดีใช้งานได้ยาวนาน มาพร้อมการให้บริการหลังการขาย และการรับประกันที่มั่นใจได้ พร้อมดูแลลูกค้าตลอดการใช้งาน
นายอรุณ กล่าวว่า ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เราต้องการให้ Seagull Electric กลายเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ผู้บริโภคคิดถึงเป็นลำดับแรก เมื่อมองหาสินค้าที่ใช้ง่าย ดีไซน์ทันสมัย และเชื่อถือได้ เราจะขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุมการใช้งานในบ้านมากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคไทยให้สะดวกและมั่นใจได้ในทุกวัน Seagull Electric ไม่ใช่แค่เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่คือเพื่อนคู่บ้านที่เข้าใจการใช้ชีวิตของทุกคน
โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายจาก 4 เดือนจากนี้ 50 ล้านบาท ในปี 2569 คาดว่าจะทำได้ 200 ล้านบาท และในปี 2570 วางไว้ที่ 500 ล้านบาท หรือใน 3 ปี ทำรายได้คิดเป็น 40% ของยอดขายรวม
อย่างไรก็ตามในส่วนของธุรกิจเครื่องครัว ช่วง 2 ปีก่อน บริษัทมียอดขายลดลง 20% ปีนี้คาดกลับโต 20% มาจากเร่งการขาย เร่งโปรโมชั่น เพิ่มสินค้าแฟชั่นมากขึ้น หรือในสิ้นปีนี้คาดปิดรายได้ 1,000 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งในตลาด 30% ขณะที่ยอดขายต่างประเทศคิดเป็น 10% ของรายได้ ส่วนใหญ่เป็นตลาดเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา กัมพูชา ซึ่งกัมพูชานั้น ปกติทำยอดขายปีละ 10 กว่าล้านบาท ตอนนี้ไม่ได้ขาย เพราะส่งออกไปไม่ได้ จึงเน้นขายในประเทศมากขึ้น รวมถึงมองหาตลาดอื่นทดแทน.