ขบ.-กรมศุลฯ ลงพื้นที่ติดตาม “ศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม” งานโครงสร้างพื้นฐานกว่า 99% เอกชนติดตั้งระบบเสร็จแล้ว พร้อมตรวจปล่อยสินค้า บริการเต็มรูปแบบ ดันไทยศูนย์กลางขนส่งและโลจิสติกส์อาเซียน
วันที่ 17 ก.ย. 2568 ณ ศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นางสาวรัชนีพร ธิติทรัพย์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม (ด้านอำนวยการ) นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ร่วมกับนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการทั้งในส่วนของการก่อสร้าง การจัดเตรียมพื้นที่สำหรับการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การติดตั้งเครื่องมือและระบบ รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการดำเนินกิจการทางพาณิชย์ของผู้ร่วมลงทุนตามสัญญาร่วมลงทุน โดยมีผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก ผู้บริหารกรมศุลกากร ผู้บริหาร บริษัท เอสเอซีแอล จำกัด (ผู้ร่วมลงทุน) และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม โดยมีการลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับภาคเอกชน (บริษัท เอสเอซีแอล จำกัด) ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ซึ่งโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสถานีปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งระหว่างประเทศไปสู่ภายในประเทศ รวมถึงเชื่อมต่อรูปแบบการขนส่งจากทางถนนไปสู่ทางราง (Modal Shift) ผ่านโครงการรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-นครพนม รองรับการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศบนเส้นทาง R12 เชื่อมต่อทางตอนใต้ของประเทศจีนและตอนเหนือของประเทศเวียดนาม เพื่อเป็นศูนย์รวบรวม และกระจายสินค้าตู้คอนเทนเนอร์หรือสินค้าบรรจุหีบห่อ (Break Bulk Cargo) และศูนย์ให้บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ทำให้สามารถดำเนินพิธีการที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกได้ในจุดเดียว
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมกับกรมศุลกากร เพื่อผลักดันให้ศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมเป็นศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ซึ่งสามารถดำเนินพิธีการศุลกากรภายในโครงการได้ตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ปัจจุบันโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมมีความก้าวหน้าในส่วนที่ภาครัฐรับผิดชอบกว่า 99% ประกอบด้วย โครงสร้างพื้นฐานส่วนกลางและอาคารที่ภาครัฐใช้ประโยชน์ ส่วนการดำเนินการตามสัญญาร่วมลงทุนฯ ของบริษัท เอสเอซีแอล จำกัด ผู้ร่วมลงทุน เสร็จแล้ว 100% ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานอาคารที่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น อาคารรวบรวมและกระจายสินค้า อาคารคลังสินค้าและอาคารซ่อมบำรุง รวมถึงการติดตั้งเครื่องมืออุปกรณ์ และงานระบบต่างๆ
อนึ่ง ศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมแห่งนี้จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลางด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน” ช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุน และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ของประเทศไทยได้ในอนาคต
นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ในช่วงปี 2568 จนถึงเดือนสิงหาคม ด่านศุลกากรนครพนม ณ สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) มีมูลค่าการค้าชายแดนรวมทั้งสิ้น 133,973 ล้านบาท โดยสินค้านำเข้าส่วนใหญ่คือ พลังงานไฟฟ้า แบตเตอรี่ และปุ๋ยเคมี ส่วนสินค้าส่งออกคือ ผลไม้สด เครื่องดื่มชูกำลัง และโคกระบือมีชีวิต ซึ่งการเปิดให้บริการของศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมจะส่งเสริมให้จังหวัดนครพนมเป็น “ศูนย์กลางด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน”
กรมศุลกากรมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งในการเข้ามาปฏิบัติพิธีการทางศุลกากร ณ ศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสินค้า สนับสนุนการค้าชายแดน และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนม และประเทศไทย