ผู้จัดการรายวัน360 – “อิเกีย” เดินเกมสู้ภัยเศรษฐกิจซบ ทุ่ม 200 ล้านบาท ปรับลดราคาสินค้าลงกว่า 2,500 รายการ มากกว่าปีที่แล้ว กดราคาเริ่มที่ 29 บาท พร้อมลุยช่องทางB2B เป็นทางการปีนี้ ด้วยเป้าหมายรายได้ที่ 170 ล้านบาท ซุ่มเจรจาพาร์ทเนอร์องค์กรต่างๆหวังออเดอร์ใหญ่ระยะยาวต่อเนื่อง เล็งผุดสาขาภาคอีสาน
นางลีโอนี่ ฮอสกิ้น ผู้จัดการรฝ่ายธุรกิจค้าปลีก อิเกีย ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าวว่า ภาพรวมปีงบประมาณ 2568 ที่ผ่านมา (กันยายน 2567 - สิงหาคม 2568) เศรษฐกิจไทยในปี 2568 เผชิญกับความท้าทายเชิงโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นอุปสงค์ภายในประเทศที่ชะลอตัว ระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ความไม่แน่นอนทางการเมือง และความตึงเครียดทางการค้าโลก ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภค
แม้จะมีแรงกดดันจากภายนอก อิเกีย ประเทศไทยยังสามารถสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 6.3% จากการเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน อิเกียให้ความสำคัญกับการปรับปรุงระบบจัดส่งสินค้าและโลจิสติกส์ เพื่อให้กระบวนการดำเนินงานมีความคล่องตัวและยกระดับการให้บริการทั่วประเทศ
แม้จะสามารถบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์หลายด้าน แต่การเติบโตโดยรวมยังคงทรงตัว โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 1% ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นคงของธุรกิจ และความจำเป็นในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง ส่วนแบ่งยอดขายในปี 2568 มีความสมดุลระหว่างสโตร์ 73% และ IKEA.co.th 27%
ทั้งนี้ปีนี้ได้วางแคมเปญใหญ่ ในการลงทุนด้านราคา – “Everyday More Value คุ้มค่ากว่าในทุกวัน” ของอิเกีย ในการปรับลดราคาสินค้าลงจำนวนมาก โดยใช้งบประมาณมากกว่า 200 - 250 ล้านบาท หรือประมาณ 6 ล้านยูโร ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วที่ใช้ 2.5 ล้านยูโรเท่านั้น และปีนี้จะตรึงราคาที่ปรับลดลงตลอดทั้งปีงบประมาณ มากกว่าปีที่แล้วที่ทำเพียงครึ่งปีเท่านั้น เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจซื้อหาได้ง่ายขี้นท่ามกลางเศรษฐกิจที่เป็นอยู่และกำลังซื้อที่ลดลง
นอกจากนั้นยังได้ใช้กลยุทธ์ดับเบิ้ลเดย์ แต่จะไม่ใช่เป็นการลดราคาเหมือนที่มาร์เก็ตเพลซทำกันรุนแรง แต่จะปรับให้มีความแตกต่าง เช่น 9.9 ลูกค้าสามารถนำเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อที่อิเกียนำมาขายคืนได้ เช่นขายคืนได้ราคา 1,000 บาท ตามเงื่อนไขและเวลาที่กำหนด ก็สามารถเพิ่มราคาที่ขายเป็นสองเท่าคือจะได้รับมูลค่า 2,000 บาท ที่นำไปซื้อสินค้าที่อิเกียต่อได้อีก ซึ่งจะทำต่อเนื่องตั้งแต่ 9.9 , 10.10 , 11.11 และ 12.12
ส่วนการขยายสาขาใหม่จากนี้ มองไปที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นจังหวัดใด แต่เป็นรูปแบบการร่วมมือร่วมทุนกับกลุ่มเดิมคือ ซีพีเอฟซีเหมือนอิเกียที่ทำที่เชียงใหม่ที่ตั้งอยู่ในโครงการไลฟ์ เอ็กซ์เพรส ที่มีแม็คโคร หางดง ด้่วย ซึ่งเรียกว่า จุดสั่งซื้อสินค้า พื้นที่ 750ตารางเมตร อย่างไรก็ตาม การพิจารณาดูทำเลหรือสถานที่จะขยายไปนั้น ปัจจัยหลักหนึ่งอิเกีย มองจากยอดสั่งซื้อทางออนไลน์ว่ามีออเดอร์จากที่ใดมากเป็นพิเศษ
ปัจจุบัน อิเกีย ในไทย มีสาขาและยอดขายดีเรียงลำดับคือ ที่ เมกาบางนา บางใหญ่ ภูเก็ต เอ็มสเฟียร์สุุขุมวิท และเชียงใหม่
นางสาวพรภัคย์ จินตโกวิท ผู้จัดการ หน่วยธุุรกิจ IKEA for Business กล่าวว่า อิเกียมีแผนที่จะรุกธุรกิจช่องทางด้านบีทูบีอย่างเต็มที่ในปีนี้ (ปีงบประมาณ อิเกีย เริ่มกันยายน ค.ศ. 2025 – สิงหาคม ค.ศ.2026) หลังจากที่ได้ตั้งหน่วยธุรกิจนี้มาประมาณ 3 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้เน้นมากนัก โดยปีที่แล้วมียอดขายช่องทางนี้ 137ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 170 ล้านบาท และอีก 4 ปี จะเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท
โดยกลยุทธ์ที่ใช้จะหาพาร์ทเนอร์ในทุกกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม อาคารสำนักงาน รีเทล หมู่บ้าน สถาบันการศึกษา เป็นต้น เพื่อเจาะเข้าหาแต่ละโครงการในการสั่งซื้อจำนวนมาก เนื่องจากออเดอร์เหล่านี้มีจำนวนมากและต่อเนื่อง ซึ่งมีหลายองค์กรที่อยู่ระหว่างการเจรจาก่อนที่จะสรุปอีกหลายรายในปีนี้
ในต่างประเทศของอิเกียหลายแห่งก็มีรูปแบบนี้เช่นกัน แตจ่จะแตกต่างกันในรายละเอียดการทำงาน ซึ่งช่องทางนี้อิเกียมองว่านี้เป็นช่องทางในการสร้างการเติบโตได้อย่างดี ซึ่งขณะนี้ในไทยมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 3%-5%
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานและทิศทางเชิงกลยุทธ์ของอิเกียในปีงบประมาณ
2569
กลยุทธ์ของอิเกีย
ประเทศไทย ปีงบประมาณ2569
(กันยายน
2568
-สิงหาคม
2569)
มุ่งเน้นการเติบโตแบบรอบด้าน
โดยมีสองเสาหลักสำคัญทั้งฝั่งของ
B2C
และ
B2B
ได้แก่
การลงทุนด้านราคาเพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์อิเกียในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น
การเน้นกลุ่มสินค้าIKEA
Complete Kitchen, Cooking and Eatingที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมของคนไทย
พร้อมแผนการขยายการดำเนินงานครั้งใหม่เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงอิเกียได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น
และการพัฒนาIKEA
for Businessให้เป็นโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับลูกค้าธุรกิจ
เพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงขององค์กรธุรกิจไทย
และตอบโจทย์การใช้งานจริง
กลยุทธ์ทั้งสองด้านหลักสะท้อนพันธกิจของอิเกียในความมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในทุกมิติ
สรุปภาพรวมปีงบประมาณ
2568
ที่ผ่านมา
(กันยายน
2567
-สิงหาคม
2568)
เศรษฐกิจไทยในปี
2568
เผชิญกับความท้าทายเชิงโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นอุปสงค์ภายในประเทศที่ชะลอตัว
ระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น
ความไม่แน่นอนทางการเมือง
และความตึงเครียดทางการค้าโลก
ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภค
แม้จะมีแรงกดดันจากภายนอก
อิเกีย ประเทศไทยยังสามารถสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
โดยมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
6.3%
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน
อิเกียให้ความสำคัญกับการปรับปรุงระบบจัดส่งสินค้าและโลจิสติกส์
เพื่อให้กระบวนการดำเนินงานมีความคล่องตัวและยกระดับการให้บริการทั่วประเทศ
แม้จะสามารถบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์หลายด้าน
แต่การเติบโตโดยรวมยังคงทรงตัว
โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นเพียง
1%
ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นคงของธุรกิจ
และความจำเป็นในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง
ส่วนแบ่งยอดขายในปี
2568
มีความสมดุลระหว่างสโตร์
73%
และ
IKEA.co.th
27%
แนวทางกลยุทธ์ปีงบประมาณ
2569
(กันยายน
2568
-สิงหาคม
2569)
อิเกีย
ประเทศไทย ได้ปรับแนวโน้มแผนดำเนินงานปี
2569
เพื่อสะท้อนผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทาย
และการแข่งขันในตลาดค้าปลีกที่รุนแรงขึ้น
กลยุทธ์หลักมุ่งเน้นการเสริมความเป็นผู้นำด้านราคา
ด้วยการลงทุนอย่างมีเป้าหมาย
มุ่งเน้นคุณภาพ ดีไซน์
ประโยชน์ใช้สอย และความยั่งยืนของสินค้า
ในราคาที่จับต้องได้อิเกียมีแผนขยายจุดให้บริการลูกค้า
ทั้งในรูปแบบสโตร์และดิจิทัล
เพื่อเข้าถึงครัวเรือนไทยให้มากขึ้น
ขยายฐานลูกค้า และเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด
โดยในปีงบประมาณ
2569
อิเกีย
ประเทศไทย ตั้งเป้าว่ายอดขายจะเติบโตขึ้นอีก
6%
จากปีงบประมาณ
2568
โฟกัสในปี
2569
การลงทุนด้านราคา
– “Everyday
More Valueคุ้มค่ากว่าในทุกวัน”
-
แคมเปญ
Everyday
More Valueคุ้มค่ากว่าในทุกวัน
ของอิเกีย ประเทศไทย
สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอสินค้าที่ออกแบบดี
มีคุณภาพ และราคาที่เข้าถึงได้จริง
โดยในปีนี้
แคมเปญเน้นการนำเสนอสินค้าที่คงคุณค่าอย่างต่อเนื่อง
พร้อมโซลูชันสำหรับบ้านที่ชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างแท้จริง
ยอดขายและกลุ่มสินค้า
กลยุทธ์สำคัญ:
แคมเปญ
“Everyday
More Valueคุ้มค่ากว่าในทุกวัน”
มุ่งเน้นการนำเสนอคุณภาพ
ดีไซน์ ประโยชน์ใช้สอย
และความยั่งยืนของสินค้า
ในราคาที่จับต้องได้
โดยมีการลงทุนด้านราคากว่า
200-250
ล้านบาท
ปัจจุบันมีสินค้ามากกว่า
2,500
รายการที่มีราคาต่ำกว่า
200
บาท
มอบโซลูชันที่ใช้งานได้จริง
ออกแบบดี และคุ้มค่าอย่างแท้จริง
Food
อาหารมีบทบาทสำคัญสองด้านในอิเกีย:
บริการอาหารในร้าน
เป็นเหตุผลให้ลูกค้าแวะมาใช้เวลา
พักผ่อน และเติมพลังในพื้นที่ของเรา
อาหารบรรจุแพ็ค
เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสรสชาติแบบสวีเดนทั้งที่บ้านหรือระหว่างเดินทาง
โดยเน้นเมนูพิเศษจากสวีเดน
ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของ
IKEA
Food
ความคุ้มค่าและคุณภาพ
– เมนูราคาย่อมเยา เช่น
กาแฟเย็น29
บาทตลอดปี
สะท้อนความมุ่งมั่นในการตั้งราคาที่เข้าถึงได้
พร้อมรักษามาตรฐานคุณภาพด้วยวัตถุดิบที่ได้รับการรับรอง
เช่น Rainforest
certified Coffeeและอาหารทะเลที่ผ่านการรับรอง
ASC/MSC
ข้อเสนอที่ตอบโจทย์ตลาด
– แคมเปญตามฤดูกาล เช่น
Meatball
Month, Salmon Festivalและ
Christmas
Buffetจะยังคงสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า
พร้อมส่วนลดพิเศษสำหรับสมาชิก
IKEA
Family
การขยายสินค้าใน
Swedish
Food Market
–ปัจจุบันมีสินค้ามากถึง
145
รายการ
เพิ่มทางเลือกและความหลากหลายให้ลูกค้าได้สัมผัสรสชาติแบบสวีเดน
ทั้งในร้านและที่บ้าน
2.
IKEA Complete Kitchen, Cooking and Eating
ที่อิเกีย
เราเชื่อว่าครัวคือมากกว่าพื้นที่สำหรับปรุงอาหาร
แต่เป็นจุดศูนย์กลางของชีวิต
เป็นพื้นที่แห่งการเชื่อมโยง
การเฉลิมฉลอง
และการแบ่งปันความรู้ในชีวิตประจำวัน
อีกทั้ง
อิเกียยังเล็งเห็นว่าวัฒนธรรมการกินยังเป็นเรื่องที่อยู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน
ในปีนี้
อิเกียจึงเดินหน้าโฟกัสกลุ่มผลิตภัณฑ์ชุดครัวของอิเกียได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน
ผ่านแคมเปญ ‘แคมเปญWhenever
you're cooking, it's starts in the kitchenความสุขไหนๆ
เริ่มต้นได้ที่ห้องครัว’
เพื่อมุ่งสื่อสารถึงความหลากหลายในการใช้งาน
ความสะดวกสบาย และคุณภาพที่เชื่อถือได้
ในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
มุมมองของอิเกียต่อการปรุงอาหารและการรับประทานอย่างครบวงจร
เรามองว่าการปรุงอาหารและการรับประทานในทุกรูปแบบ
ล้วนมีบทบาทสำคัญในชีวิต
เป็นส่วนหนึ่งของสังคมมาตั้งแต่ในอดีต
มีความเชื่อมโยงทางอารมณ์
และเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิตในบ้าน
อิเกียสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายในพื้นที่นี้ได้อย่างแท้จริง
เราทำให้เป็นเรื่องที่ทำได้
ด้วยความเข้าใจชีวิตในบ้านเป็นศูนย์กลาง
พร้อมสนับสนุนทุกขั้นตอนของการปรุงอาหารและการรับประทาน
เราทำให้เป็นเรื่องที่สนุก
ด้วยการปลดล็อกศักยภาพของการทำอาหาร
ช่วยให้ผู้คนได้ดูแลตัวเองผ่านอาหาร
และใส่ความพิเศษในแบบของตัวเอง
เราทำให้เป็นเรื่องที่เป็นไปได้
ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงได้
ซึ่งช่วยให้ความฝันและแรงบันดาลใจกลายเป็นจริง
3.
การขยายและเพิ่มการเข้าถึงในประเทศไทย
– ความสำเร็จของเชียงใหม่และแผนต่อเนื่อง
ในปีงบประมาณ
2568
อิเกียได้เดินหน้าขยายจุดให้บริการลูกค้าแห่งที่
5
ในประเทศไทย
ด้วยการเปิดตัวIKEA
Chiang Mai Order Point
ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ที่เน้นต้นทุนต่ำแต่เปี่ยมด้วยคุณค่า
โดยนำเสนอสินค้าคัดสรรกว่า
300
รายการสำหรับซื้อกลับทันที
โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเพื่อการจัดเก็บ
พร้อมบริการวางแผนจากผู้เชี่ยวชาญและคาเฟ่
Swedish
Bitesที่เติมเต็มประสบการณ์ในพื้นที่ขนาดกะทัดรัด
ภายใต้แนวคิด “เล็กแต่ครบ”
และสร้างสมดุลยอดขายระหว่างช่องทางดิจิทัล
51%
และหน้าร้าน
49%
สะท้อนถึงประสิทธิภาพของรูปแบบและการมีส่วนร่วมของลูกค้าอย่างแข็งแกร่ง
โดยอิเกียยังคงมุ่งมั่นมองหาโอกาสในการขยายและสร้างการเข้าถึงที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตที่หลากหลายของคนไทยในภูมิภาคอื่น
ๆ อย่างต่อเนื่อง
โดยในปีงบประมาณ
2569
อิเกียวางแผนขยายการดำเนินงานในประเทศไทยเพิ่มเติมในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในเดือนกรกฎาคม2569
IKEA
for Businessประเทศไทย
– ภาพรวมกลยุทธ์
พันธมิตรที่ธุรกิจไทยไว้วางใจ
IKEA
for Business
เป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการนำเสนอทางเลือกด้านการตกแต่งที่ใช้งานได้จริงและคุ้มค่าสำหรับธุรกิจทุกขนาด
สะท้อนถึงพันธกิจของอิเกียในการยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกวัน
ไม่เพียงแต่สำหรับบุคคลและครอบครัว
แต่ยังรวมถึงองค์กร ผู้ประกอบการ
และชุมชนต่าง ๆ ด้วย
อิเกียเข้าใจถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับโซลูชันที่ชาญฉลาด
ยั่งยืน และเข้าถึงได้
และตอบสนองด้วยความคิดสร้างสรรค์
ความใส่ใจ และความเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง
แนวคิดธุรกิจ
IKEA
for Businessให้บริการสำหรับลูกค้าธุรกิจ
ตั้งแต่สตาร์ทอัพและSME
ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
โดยมีการวางแผนร่วมกัน
การจัดส่ง และบริการหลังการขายที่ครอบคลุม
เพื่อมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
เป้าหมายของเราคือการช่วยให้ธุรกิจไทยสร้างพื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจ
มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน
เพื่อรองรับความสำเร็จในระยะยาว
โซลูชันแบบครบวงจร
IKEA
for Businessมอบบริการครบวงจร
ตั้งแต่การวางแผนพื้นที่
การคัดเลือกเฟอร์นิเจอร์
การสั่งซื้อจำนวนมาก การจัดส่ง
การประกอบ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านการเงินสำหรับธุรกิจ
พร้อมบริการให้คำปรึกษาเฉพาะทางที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละอุตสาหกรรมและการดูแลแบบเฉพาะบุคคล
ด้วยระบบซัพพลายเชนที่เชื่อถือได้
สินค้ามีความพร้อมอย่างต่อเนื่องและจัดส่งได้ทั่วประเทศ
อิเกียยังให้บริการหลังการขายอย่างครอบคลุม
ทั้งการดูแลรักษาและบริการผลิตภัณฑ์
เพื่อความอุ่นใจในระยะยาว
ความโดดเด่น
IKEA
for Business
เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทั้งในระดับโลกและในภาคธุรกิจ
B2B
ของประเทศไทย
โดยช่วยให้การออกแบบพื้นที่ทำงานเป็นเรื่องง่าย
ด้วยโซลูชันที่ทนทาน ยืดหยุ่น
และยั่งยืน
พร้อมกระบวนการที่เป็นระบบตั้งแต่การวางแผน
การติดตั้ง ไปจนถึงการบริหารจัดการด้านการเงิน
เพื่อให้ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นไปที่การเติบโตได้อย่างเต็มที่
อิเกียยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ปรับขนาดได้และร่วมมือกับบริษัทชั้นนำของไทย
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของธุรกิจ
พร้อมออกแบบโซลูชันที่ให้คุณค่าในระยะยาวและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เป้าหมายการเติบโต
ในปีงบประมาณ
2568
IKEA for Businessมียอดขายอยู่ที่
137
ล้านบาท
โดยตั้งเป้ายอดขายที่170
ล้านบาทภายในปี
2569
และ
300
ล้านบาทภายในปี
2573
สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในตลาดประเทศไทยและความมุ่งมั่นระยะยาวในการพัฒนา
B2B
อย่างยั่งยืน
โดยแนวโน้มการเติบโตนี้ขับเคลื่อนด้วยผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์
การขยายบริการ
และการมีส่วนร่วมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับหลากหลายอุตสาหกรรม
ซึ่งตอกย้ำบทบาทของอิเกียในฐานะพันธมิตรที่น่าเชื่อถือในภูมิทัศน์ธุรกิจไทยที่กำลังเปลี่ยนแปลง