xs
xsm
sm
md
lg

TOPเร่งจ้างผู้รับเหมาโครงการCFPเพิ่ม ลุ่ยก่อสร้างให้แล้วเสร็จในปี71

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไทยออยล์เร่งจัดจ้างผู้รับเหมาเพิ่มเพื่อลุยก่อสร้างโครงการพลังงานสะอาดหรือ CFP ให้แล้วเสร็จตามกำหนดในไตรมาส3/2571 แย้มครึ่งปีหลังค่าการกลั่นปรับตัวดีขึ้นกว่า6เดือนแรกปีนี้ และธุรกิจอะโรเมติกส์มาร์จินสูงขึ้นจากกำลังการผลิตใหม่ที่ดีเลย์ไป สวนทางธุรกิจโอเลฟินส์ยังหืดขึ้นคอ

นางธาริกา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้จัดการฝ่ายวางแผนการเงิน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)หรือ TOP เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีการจัดจ้างผู้รับเหมา EPCM (Engineering, Procurement, and Construction Management) เรียบร้อยแล้ว เพื่อทำหน้าที่ผู้จัดการโครงการ
โดยนับตั้งแต่วันนี้จนถึงไตรมาส 4/2568 บริษัทจะจัดจ้างผู้รับเหมาเพิ่มเติมเพื่อเร่งก่อสร้างโครงการพลังงานสะอาด(CFP)ให้แล้วเสร็จตามที่กำหนดไว้ในไตรมาส3/2571

โดยบริษัทตั้งงบลงทุน5ปีนี้(2568-2572) เป็นเงินราว 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่ใช้ลงทุนในโครงการCFP โดยแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและไทยออยล์มีแผนออกหุ้นกู้ Perpetual Bond ซึ่งจะรอภาวะตลาดที่เหมาะสมเพื่อใช้ในการลงทุนโครงการCFP และรักษาระดับความน่าเชื่อถือของบริษัทด้วย

นางธาริกา กล่าวถึงภาพรวมตลาดในครึ่งหลังปี2568ว่า มีหลายปัจจัยที่ต้องจับตามอง คือ มาตรการภาษีของสหรัฐฯ มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อรัสเซีย ,การเพิ่มกำลังการผลิตของโอเปกพลัสตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และสูงกว่าแผนเดิม คาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากนอกกลุ่มโอเปกที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยผู้นำหลักคือสหรัฐฯ ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังการผลิตน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ จะมีอัตราชะลอตัวลง ขณะที่สต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น

“แนวโน้มราคาน้ำมันดิบจะอ่อนตัวลงจากกลุ่มโอเปกพลัสขยายกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าแผนที่กำหนด 2.2ล้านบาร์เรล/วัน และสต๊อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ส่วนราคาน้ำมันดิบพรีเมียมในตะวันออกกลางจะปรับตัวสูงขึ้น จากกรณีสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรประเทศที่นำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย โดยจีน อินเดียและตุรกีนำเข้าน้ำมันดิบรัสเซีย ทำให้อินเดียหันมาซื้อน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางแทน “


สำหรับแนวโน้มค่าการกลั่น (GRM)ของไทยออยล์ในไตรมาส3 ปี2568 จะปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 โดยครึ่งแรกปี 2568 ค่าการกลั่นอยู่ที่ 4.3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ครึ่งปีหลังนี้น่าจะดีขึ้น เนื่องจากมีการทยอยปิดตัวโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐและยุโรปทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกสิ้นปีนี้หายไป 8แสนบาร์เรล/วัน

สำหรับทิศทางราคาอะโรเมติกส์ในครึ่งหลังปีนี้ จะปรับตัวดีขึ้นจากกำลังผลิตใหม่ที่มีจำกัด และการดีเลย์การเปิดเชิงพาณิชย์โรงงานใหม่ไปเป็นปีหน้าแทน รวมทั้งการเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ทำให้มีความต้องการใช้สารอะโรเมติกส์เพื่อผลิตเสื้อผ้าและสินค้าปลายน้ำเพิ่มขึ้น

ส่วนโอเลฟินส์ยังคงได้รับแรงกดดันจากกำลังการผลิตใหม่ที่เข้ามาสู่ตลาดและกำลังการผลิตที่ล้นตลาดในขณะนี้ ส่วนน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน มีแนวโน้มดีขึ้นจากราคาน้ำมันเตาที่ลดลงและมีโรงงานปิดซ่อมบำรุงทำให้อุปทานลดลง ส่วนยางมะตอยปรับตัวดีขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น