xs
xsm
sm
md
lg

BCP เผยไตรมาส 3/67 ค่าการกลั่นดีขึ้น ชี้ราคาน้ำมันดิบลงจ่อขาดทุนสต๊อกฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

  • • ค่าการกลั่นไตรมาส 3/67 ปรับตัวดีขึ้นแตะ 4-5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
  • • ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง ส่งผลให้บางจากอาจบันทึกขาดทุนสต็อกน้ำมัน
  • • มั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตแตะ 6 แสนบาทตามเป้าหมาย


บางจากชี้ไตรมาส 3/67 ค่าการกลั่นปรับตัวดีขึ้นแตะ 4-5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงจ่อบันทึกขาดทุนสต๊อกน้ำมัน มั่นใจปีนี้รายได้โตแตะ 6 แสนบาทตามเป้าหมาย

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 มีปัจจัยบวกจากค่าการกลั่นสิงคโปร์ที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ระดับ 4-5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่โรงกลั่นบางจาก พระโขนง ได้กลับมาเดินเครื่องเต็มที่หลังจากปิดซ่อมบำรุงใหญ่ตามวาระเป็นเวลา 30 วัน แต่มีปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง ส่งผลให้ในไตรมาส 3 นี้บางจากมีการบันทึกขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน

อย่างไรก็ดี ทั้งปี 2567 บางจากมีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 600,000 ล้านบาท จากครึ่งแรกปีนี้ทำได้ 3 แสนล้านบาท โดยวางเป้าหมายในปี 2573 บริษัทมีรายได้แตะระดับ 1 ล้านล้านบาท และมี EBITDA อยู่ที่ 100,000 ล้านบาท


นายชัยวัฒน์กล่าวต่อไปว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2568 คาดว่ารายได้เติบโตเฉลี่ย 15-20% จากปีก่อน มาจากธุรกิจโรงกลั่นจะเดินเครื่องการผลิตได้เต็มกำลังที่ระดับ 2.8 แสนบาร์เรลต่อวัน และโครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ที่จะเดินเครื่องการผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2/2568 ด้วยกำลังการผลิต เฟสแรก 7,000 บาร์เรลต่อวัน หากคำนวณจากราคาขาย SAF ที่ 65-70 บาทต่อลิตร ทำให้ในปี 2568 บริษัทจะรับรายได้จาก SAF ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท และในปีถัดไปจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.5-3 หมื่นล้านบาทต่อปี

ส่วนธุรกิจการตลาด ในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตขึ้น 20% จากการขยายสถานีบริการน้ำมันบางจากและร้านกาแฟอินทนิล รวมทั้งแผนขยายธุรกิจ Non oil เพิ่มมากขึ้นและธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) หรือธุรกิจต้นน้ำ คาดว่าจะเติบโต 40-50%


นอกจากนี้ ในปี 2568 บางจากฯ ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน 4,500 ล้านบาท, ธุรกิจการตลาด 2,900 ล้านบาท, ธุรกิจพลังงานสีเขียว 20,000 ล้านบาท, ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ 1,000 ล้านบาท และธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ หรือ E&P 20,000 ล้านบาท, ธุรกิจใหม่อีก 1,600 ล้านบาท

ส่วนงบลงทุน 6 ปีข้างหน้า (ปี 2568-2573) บางจากตั้งไว้ที่ 1.2 แสนล้านบาท เน้นลงทุนในธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติสัดส่วน 35% หรือประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ธุรกิจโรงกลั่น จะใช้เงินลงทุนในสัดส่วน 30% และธุรกิจ Green Power สัดส่วน 25% และ Bio-based และธุรกิจใหม่ สัดส่วน 10% ทั้งนี้บางจากมีแผนเครือข่ายสถานีบริการเป็นกว่า 2,400 แห่งภายในปี 2573 จากปัจจุบัน 2,214 แห่ง พร้อมทั้งเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 33% จากปัจจุบันอยู่ที่ 29%


กำลังโหลดความคิดเห็น