“สุริยะ”กระตุ้นทุกหน่วย”คมนาคม” เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนปี 68 ล่าสุดถึง ก.ค. 68 เบิกไปแล้ว 1.27 แสนล้านบาทสัดส่วน 60.14% มั่นใจก.ย.ทำได้ตามเป้า เช็ก มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน–นครราชสีมา สร้างโยธาคืบหน้า 98.08 % พร้อมเปิดวิ่งตลอดเส้นปี 69
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ได้ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินงานโครงการสำคัญ ตามนโยบาย ครั้งที่ 3/2568 เพื่อติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 ที่ปัจจุบัน มีผลการเบิกจ่ายสะสม 127,629.81 ล้านบาท คิดเป็น 60.14% (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน กรกฎาคม 2568) นอกจากนี้ ได้ติดตามความคืบหน้าโครงการมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน – นครราชสีมา โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางจิระ รวมทั้งหารือแผนการจัดการจราจรระหว่างการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมฯ และการเตรียมความพร้อมรับการตรวจประเมินประสิทธิภาพการกำกับดูแลการบินพลเรือนจาก ICAO
นายสุริยะ กล่าวว่า ภาพรวมการเบิกจ่ายเงินกันเหลื่อมปี 2567 วงเงิน 47,373.50 ล้านบาท ขณะนี้ กระทรวงคมนาคมเบิกจ่ายสะสมรวม 43,161.39 ล้านบาท คิดเป็น 91.11% (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2568) ขณะที่งบรายจ่ายลงทุนปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กระทรวงคมนาคมได้รับจัดสรรงบประมาณ 212,213.68 ล้านบาท มีผลการเบิกจ่ายงบรายจ่ายลงทุน 127,629.81 ล้านบาท คิดเป็น 60.14% (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2568) อย่างไรก็ตาม ได้เร่งรัดทุกหน่วยงานติดตามและตรวจสอบทุกการดำเนินงานในทุกโครงการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล และช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศ ด้านงบลงทุนปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงฯ วงเงิน 101,676.55 ล้านบาท มีผลการเบิกจ่ายสะสม 81,351.16 ล้านบาท คิดเป็น 80.01% (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน กรกฎาคม 2568) ทั้งนี้ มีแผนเบิกจ่ายได้ 100% ในเดือนกันยายน 2568 นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมมีแผนลงนามในโครงการสำคัญเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 5,137 รายการ วงเงิน 47,395.43 ล้านบาท ซึ่งในเดือนกันยายน 2568 สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 กระทรวงคมนาคมได้รับการจัดสรรงบประมาณ วงเงิน 265,406.77 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่วนราชการ 9 หน่วยงาน วงเงิน 199,955.92 ล้านบาท รัฐวิสาหกิจ 5 หน่วยงาน 65,450.84 ล้านบาท ซึ่งได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 20,829.80 ล้านบาท คิดเป็น 8.52%
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สาย M6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานโยธาและงานระบบ โดยมีความก้าวหน้า (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2568) งานโยธา 98.08% ก่อสร้างแล้วเสร็จ 33 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 7 สัญญา ได้แก่ บางปะอิน - หินกอง (ตอน1, 4 และ 5), หินกอง - แก่งคอย - ปากช่อง (18, 19, 21 และ 23) ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งรัดก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 ด้านงานระบบ มีความก้าวหน้า 77.75% คาดว่าแล้วเสร็จภายในปี 2569 สำหรับงาน Rest Area ซึ่งเป็นที่พักริมทางจำนวน 15 แห่ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โดยมีแผนเริ่มก่อสร้างปลายปี 2569 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบปี 2571
ด้านความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ งานเวนคืนสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา - คลองขนานจิตร และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ ซึ่งการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินในส่วนที่เหลือมีจำนวนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น 107 แปลง ปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการ ในส่วนของการปรับแบบสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนาดจิตร - ชุมทางถนนจิระ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมเสนอรายงานขออนุมัติดำเนินโครงการต่อคณะกรรมการบริหารจัดการของ รฟท. และคณะอนุกรรมการกลั่นกรองของ รฟท. ในเดือนกันยายน 2568 และเสนอรายงานขออนุมติดำเนินโครงการต่อคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย (คกร.) และจัดทำรายงานขออนุมัติดำเนินโครงการต่อกระทรวงคมนาคมในเดือน ตุลาคม 2568
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมได้หารือแผนการจัดการจราจรในระหว่างการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมฯ ซึ่งแนวส้นทางที่มีการก่อสร้างบนถนนสายต่าง ๆ เช่น ถนนราชดำเนิน ถนนหลานหลวง ถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนราชปรารภ ถนนเพชรบุรี ถนนวิภาวดีรังสิต อาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ศึกษา/วิเคราะห์ ปริมาณจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้างและจัดทำรูปแบบการปิดเบี่ยงจราจรระหว่างก่อสร้างที่เหมาะสม รวมทั้งประสานงานรับความเห็นจากส่วนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดและบรรเทาผลกระทบในระหว่างการก่อสร้าง โดยได้มีการประชาสัมพันธ์การปิดเบี่ยงจราจรล่วงหน้า ติดตั้งป้ายแนะนำเส้นทางและเส้นทางหลีกเลี่ยงพื้นที่ก่อสร้างให้ประชาชนทราบ สำหรับแผนการดำเนินการบริเวณสะพานข้ามแยกประตูน้ำ จะเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม 2569 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2569
สำหรับการเตรียมความพร้อมรับการตรวจประเมินด้านการกำกับดูแลความปลอดภัยในโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยสากล (Universal Safety Oversight Audit Programme - Continuous Monitoring Approach: USOAP CMA) จากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization (ICAO) ที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เตรียมพร้อมทุกขั้นตอนเพื่อเข้ารับการตรวจประเมินจาก ICAO ซึ่งการตรวจประเมินมีความสำคัญมากเนื่องจากจะเป็นการยืนยันมาตรฐานด้านการบินของประเทศไทย ที่จะสร้างความเชื่อมั่นในระดับนานาชาติต่ออุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค