- • การบินไทย จะยื่นไฟลิ่ง ออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ในวันที่ 30 กันยายนนี้
- • การยื่นไฟลิ่งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการออกจากแผนฟื้นฟู
- • กลุ่มแปลงหนี้เป็นทุน จะมี "Locked up period" 1 ปี หมายความว่า ไม่สามารถขายหุ้นได้ภายใน 1 ปี
- • หลังจาก 6 เดือน สามารถขายหุ้นได้ล็อตแรก ไม่เกิน 25%
- • คาดว่า การบินไทย จะกลับเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568
การบินไทยพร้อมแล้ว 30 ก.ย.นี้ยื่นไฟลิ่ง ออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน เดินหน้าออกจากแผนฟื้นฟูฯ เผยกลุ่มแปลงหนี้เป็นทุนมี Locked up period ช่วง 1 ปี โดยเริ่มขายหุ้นล็อตแรกได้ไม่เกิน 25% หลังจาก 6 เดือน คาดกลับเข้าเทรดในตลาดไตรมาส 2 ปี 68
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า การบินไทยเตรียมยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการในการออกหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 31,500 ล้านหุ้นในวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567 นี้
การยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) สำหรับการปรับโครงสร้างทุนมีเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณากว่า 1,000 หน้า ได้แก่ ข้อมูลบริษัท แผนธุรกิจ แผนจัดหาเครื่องบิน โดยมั่นใจว่าจะทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในการออกจากแผนฟื้นฟูของการบินไทย
โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 31,500 ล้านหุ้น
1. แปลงหนี้เป็นทุน
- ภาคบังคับ 14,862 ล้านหุ้น (ภาคบังคับ) ให้เจ้าหนี้กระทรวงการคลัง สถาบันการเงิน และเจ้าหนี้หุ้นกู้ เพื่อแปลงหนี้เป็นทุนในราคาหุ้นละ 2.5452 บาท
- ภาคสมัครใจ สามารถแปลงหนี้เป็นทุนเพิ่มเติมได้อีก 4,911 ล้านหุ้น และดอกเบี้ยตั้งพัก (ดอกเบี้ยค้างจ่ายที่พักชำระไว้) 1,904 ล้านหุ้น ในราคาเดียวกัน
2. เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม 9,822 ล้านหุ้น หากไม่หมดก็จะเสนอขายให้กับพนักงาน และ/หรือ นักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) ในราคาสูงกว่า 2.5452 บาท คาดเคาะราคาขายในเดือนพ.ย.-ธ.ค. หลังจากที่ปรึกษาการเงินอิสระ (IFA) จะทำราคาประเมินเบื้องต้นออกมาก่อนในเดือน ต.ค.นี้
สำหรับกระบวนการใช้สิทธิและแจ้งเจตนาแปลงหนี้เป็นทุนเพิ่มเติมของเจ้าหนี้แต่ละกลุ่มคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในเดือนพฤศจิกายน 2567 และกระบวนการเสนอขาย และจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนสำหรับผู้ถือหุ้นก่อนการปรับโครงสร้างทุน พนักงานบริษัทฯ และนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในเดือนธันวาคม 2567
ที่ผ่านมาการบินไทยได้มีการพูดคุย เจรจาให้ข้อมูลกับเจ้าหนี้กลุ่มต่างๆ ที่ต้องแปลงหนี้เป็นทุน ได้แก่ เจ้าหนี้กลุ่มสหกรณ์ เจ้าหนี้กลุ่มสถาบันการเงิน ส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนแผนฟื้นฟูของการบินไทย และเชื่อว่าการปรับโครงสร้างทุนครั้งนี้จะแล้วเสร็จตามเป้าหมาย ทำให้การบินไทยออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้
การบินไทยคาดว่าจะสามารถดำเนินการปรับโครงสร้างทุนให้แล้วเสร็จได้ภายในสิ้นปี 2567 ตามที่กำหนดในแผนฟื้นฟูกิจการ โดยมีวัตถุประสงค์ให้งบการเงินประจำปี 2567 ของบริษัทฯ มีส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวก ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขความสำเร็จของการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อยกเลิกการฟื้นฟูกิจการและหุ้นของบริษัทฯ กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568
สำหรับกลุ่มที่ได้หุ้นเพิ่มทุนจากการแปลงหนี้เป็นทุนที่ราคา 2.5452 บาท ซึ่งถือเป็นราคาต้นทุนที่ต่ำกว่ากลุ่มหลัง จะกำหนดในไฟลิ่งให้มีช่วง Locked up period เป็นเวลา 1 ปี โดยสามารถเริ่มขายหุ้นล็อตแรกได้ไม่เกิน 25% หลังจาก 6 เดือน เพราะไม่เช่นนั้นอาจเทขายเมื่อหุ้น THAI กลับเข้าเทรด และอาจทำให้ผู้ที่มีสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนไม่อยากซื้อ
นายชายกล่าวถึงสัดส่วนการถือหุ้นของภาครัฐว่ายังไม่สามารถตอบอะไรได้ เพราะขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้จะมีการแปลงหนี้เป็นทุนเพิ่มเติมหรือไม่ โดยส่วนของกระทรวงการคลัง แนวโน้มจะถือหุ้นต่ำกว่าเดิม อยู่ระหว่าง 30-45% ซึ่งขึ้นกับหลายปัจจัย โดยเฉพาะเจ้าหนี้ที่จะแปลงหนี้เป็นทุนมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในแผนฟื้นฟูฯ ระบุว่าหน้าที่ผู้บริหารแผนคือ ไม่ทำให้การบินไทยกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจอีก