xs
xsm
sm
md
lg

“สุรพงษ์” ปักธงปีนี้เข็นไฮสปีด "ไทย-จีน" เฟส 2 ชง ครม. ด้านบอร์ด รฟท.ติงข้อมูลไม่ครบสั่งทำเพิ่มเติมก่อนเสนอคมนาคม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุรพงษ์” ดัน "รถไฟไทย-จีน" เฟส 2 ชง ครม.ในปีนี้ ลงทุน 3.4 แสนล้านบาทเชื่อมนครราชสีมา-หนองคาย ล่าสุดบอร์ด รฟท.ยังไม่ผ่านหลังมีความเห็นให้ปรับปรุงเพิ่มเติม คาดพิจารณาใหม่ใน ก.ย.นี้ ส่วนเฟส 1 ยังติดหล่ม 2 สัญญา “มรดกโลกอยุธยา-โครงสร้างร่วม” ลั่นต้องจบในปีนี้ เข็นเปิดบริการปี 71

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายในปีนี้จะผลักดันโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย) ระยะทาง 357.12 กิโลเมตร (กม.) รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 341,351.42 ล้านบาท เสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเดินหน้าประกวดราคาก่อสร้างต่อไป คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2572-2573 โดยทราบว่าคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีการพิจารณาแล้วแต่ยังไม่ส่งเรื่องมาที่กระทรวงคมนาคม

โครงการถือว่ามีความพร้อมเนื่องจากมีการออกแบบงานโยธาเสร็จเรียบร้อย โดยอยู่ระหว่างจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2567 คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการโครงสร้างพื้นฐานทางบก และทางอากาศ (คชก.) ได้ให้ความเห็นชอบรายงาน EIA แล้ว รอ รฟท.จัดทำ EIA ฉบับสมบูรณ์ภายในเดือน ก.ค. 67 เพื่อเตรียมเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) อนุมัติต่อไป


“ไฮสปีดเฟส 2 จะถอดบทเรียนจากเฟส 1 ในจุดที่มีปัญหามาปรับใช้เพื่อไม่ให้เกิดซ้ำ เพราะที่ผ่านมางานล่าช้าติดขัดมาก ดังนั้นเชื่อว่าเฟส 2 จะก่อสร้างได้เร็วและเสร็จตามเป้าหมาย

นายสุรพงษ์กล่าวถึงวงเงินลงทุนสูงถึงกว่า 3 แสนล้านบาทนั้นจะกระทบต่อเพดานเงินกู้และทำให้โครงการต้องชะงักหรือไม่ว่า เรื่องนี้ ครม.จะหาแนวทางหรือรูปแบบในการลงทุนที่เหมาะสม โดยพิจารณาร่วมกับสำนักงบประมาณ ซึ่งการบริหารโครงการขนาดใหญ่มีหลายรูปแบบ เป้าหมายเพื่อให้โครงการเสร็จตามกำหนดและได้ใช้ประโยชน์ เกิดความคุ้มค่า สร้างผลตอบแทนในการลงทุนตามแผนงาน จึงไม่น่ากังวล


@เร่งเคลียร์ 2 สัญญา เฟส 1 “มรดกโลกอยุธยา-โครงสร้างร่วม” จบในปีนี้

นายสุรพงษ์กล่าวถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ระยะทาง 250 กิโลเมตร ว่า ขณะนี้เหลือ 2 สัญญาที่ยังไม่ได้ก่อสร้างจากทั้งหมด 14 สัญญา คือ สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม.นั้น ช่วงสถานีอยุธยามีประเด็นมรดกโลก ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จะจัดส่งรายงานการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก หรือ Heritage Impact Assessment (HIA) ให้ยูเนสโกพิจารณา คาดว่าจะได้ข้อสรุปใน เร็วๆ นี้

ส่วนผู้รับเหมาที่ได้รับการคัดเลือกและรอการลงนามสัญญาคือ บริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด สัญญาวงเงิน 10,325 ล้านบาท นั้นล่าสุดได้แจ้งยืนราคาต่ออีก 1 เดือน ยอมรับว่าหากผู้รับเหมาไม่ยืนราคาก็ต้องเปิดประมูลสัญญานี้ใหม่

ส่วนสัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.2 กม. ที่มีประเด็นโครงสร้างร่วมกับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) นั้น ในส่วนของรถไฟไทย-จีน ตกลงที่ปรับสเปกลดความเร็วจาก 250 กม./ชม. เป็น 160 กม./ชม.ในช่วงดังกล่าว ส่วนการก่อสร้างตามสัญญาทางอีอีซี โดยบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด (ซี.พี.) เป็นผู้ก่อสร้างทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเพื่อเดินหน้าเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยืดเยื้อมานาน ดังนั้น หากสุดท้ายโครงการมีปัญหารถไฟก็จะเป็นผู้ก่อสร้างเองเพื่อไม่ให้กระทบต่อรถไฟไทย-จีน


@บอร์ด รฟท.ยังไม่ผ่าน หลังท้วงติงข้อมูล ต้องทบทวนเฟส 2 รอเสนอใหม่ใน ก.ย.นี้

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธาน เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2567 ได้มีการพิจารณาโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย) แล้ว ซึ่งที่ประชุมรับทราบโครงการแต่เนื่องจากบอร์ดมีความเห็นเพิ่มเติมในหลายประเด็นที่มีนัยสำคัญ จึงให้รฟท.นำไปปรับปรุงข้อมูลเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับความเห็นของบอร์ด และต้องมีการเสนอบอร์ดพิจารณาอีกครั้ง คาดว่าจะสามารถเสนอบอร์ดได้ประมาณเดือนก.ย. 2567 จากนั้นจึงจะเสนอกระทรวงคมนาคมได้

เช่น ขอให้ปรับปรุงเรื่องแบบและราคากลาง เพื่อให้เป็นไปตามสภาพพื้นที่ก่อสร้างที่มีการเปลี่ยนแปลงและไม่ต้องมีการมาแก้ไขแบบในภายหลัง รวมไปถึงไม่มีปัญหาในเรื่องการขยายเวลาทำงาน และเพิ่มวงเงิน ค่างาน หลังเซ็นสัญญาไปแล้ว

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย มีมูลค่าการลงทุน 341,351.42 ล้านบาท โดยแบ่งงานเป็น 2 ส่วน คือ 1. งานรถไฟความเร็วสูง วงเงินลงทุน 335,665.21 ล้านบาท ได้แก่ ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและชดเชยทรัพย์สิน วงเงิน 10,310.10 ล้านบาท, ค่าก่อสร้างงานโยธา วงเงิน 235,129.40 ล้านบาท, ค่าลงทุนระบบราง วงเงิน 30,663.75 ล้านบาท, ค่าระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล วงเงิน 29,007.08 ล้านบาท, ค่าจัดหาขบวนรถไฟ วงเงิน 17,874.35 ล้านบาท, ค่าจัดหาขบวนรถซ่อมบำรุงทาง วงเงิน 2,620.43 ล้านบาท, ค่าที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างงานโยธา วงเงิน 6,466.06 ล้านบาท, ค่าที่ปรึกษาบริหารโครงการและที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างงานระบบรถไฟ วงเงิน 2,792.38 ล้านบาท และค่าที่ปรึกษาวิศวกรอิสระ วงเงิน 801.66 ล้านบาท

ในส่วนของการก่อสร้างแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 357.12 กม. วงเงิน 235,129.40 ล้านบาท แบ่งงานโยธาเป็น 11 สัญญา เฉลี่ยมูลค่าสัญญาละประมาณ 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผู้รับจ้างก่อสร้างที่มีคุณภาพ และการเข้าร่วมประมูลไม่มากราย หรือไม่น้อยรายจนเกินไป นอกจากนี้ ยังมีงานศูนย์ซ่อมบำรุงนาทา 1 สัญญา และศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย 1 สัญญา


กำลังโหลดความคิดเห็น