xs
xsm
sm
md
lg

ส.อ.ท.อัดร่าง AEDP 2024 ทำลายจุดแข็ง ปท. แนะส่งเสริม E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานแทน E10

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ส.อ.ท.อัดเละ! (ร่าง) AEDP 2024 มีการจัดแบบเร่งรัด ขาดความโปร่งใส และทำลายศักยภาพของประเทศ ขัดแย้งยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาของประเทศในการมุ่งสู่ Net Zero เสนอแนะให้ (ร่าง) AEDP 2024 ส่งเสริมให้ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน เป็นการสนับสนุนจุดแข็งของประเทศ และเร่งเปิดเสรีเอทานอลบริสุทธิ์ เพื่อต่อยอดเอทานอลสู่อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ อาหารเสริม

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต
รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สซอ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่ส.อ.ท.ร่วมกับภาคเกษตรกร และภาคเอกชนต่างๆ ได้เข้าร่วมงานรับฟังความคิดเห็น (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2567-2580 (AEDP 2024) ณ โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ กรุงเทพมหานคร มีความเห็นต่างในประเด็นเชื้อเพลิงชีวภาพที่ AEDP2024 มีแนวทางในการปรับลดจากแก๊สโซฮอล์ E20 ลงเหลือ E10 และให้เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานนั้น ทาง ส.อ.ท.ไม่เห็นด้วย ต้องส่งเสริมให้ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานแทน E10 นับเป็นการสนับสนุนจุดแข็งของประเทศ บูรณาการข้ามกระทรวง เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ กรมธุรกิจพลังงานเคยระบุว่าการใช้แก๊สโซฮอล์ E20 ที่ผลิตเองในประเทศ เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐาน ช่วยลดการนำเข้าน้ำมันดิบ 10,493 ล้านลิตร/ปี รวมทั้งสร้างรายได้ต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรม 56,000 ล้านบาท/ปี นับเป็นการสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ

ส.อ.ท.มีข้อเสนอ ดังนี้ คือ 1. สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตรที่เป็นจุดแข็งของประเทศ โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตรลดการพึ่งพา สินค้าและพลังงานฟอสซิลจากต่างประเทศ ช่วยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยและมันสำปะหลังกว่า 170,000 ล้านบาทต่อปี กระจายรายได้สู่เกษตรกร 1.2 ล้านครัวเรือน รวมทั้งสร้างอำนาจต่อรอง สินค้าเกษตรเป็น Hub ของมันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกันการกดราคามันเส้นจากประเทศจีน

ขณะเดียวกันต้องพัฒนาประสิทธิภาพการเกษตรต้นน้ำ ลดต้นทุนการผลิต โดยเพิ่มผลผลิต (Yield) ต่อไร่ ใช้เทคโนโลยีในการเพาะปลูก เก็บเกี่ยว บริหารจัดการวัตถุดิบ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนเชื้อเพลิงเอทานอลและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องในอนาคต

2. ส่งเสริมการพัฒนาของอุตสาหกรรมเอทานอลด้วยเศรษฐกิจโมเดล BCG โดยสร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมเอทานอลด้วยแก๊สโซฮอล์ E20 เพื่อให้อุตสาหกรรมอยู่รอด เติบโต ก่อนเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงพร้อมเร่งสร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรม พร้อมเร่งเปิดเสรีเอทานอลบริสุทธิ์ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และพัฒนาสู่อุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ เช่น อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ สารสกัดสมุนไพร เครื่องสำอาง อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เป็นต้น ด้วยเศรษฐกิจโมเดล BCG และ ESG

และ 3. สนับสนุนการบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero โดย E20 ช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนราว 3.45 ล้านตัน ลดการปลดปล่อยได้มากกว่าการใช้ E10 0.89 ล้านตัน หรือเทียบเท่ากับการดูดซับของป่าโกงกาง 3.13 แสนไร่ต่อปี รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีและเชื้อเพลิงใหม่เช่นไฮโดรเจน เพื่อลดการปลดปล่อยคาร์บอนมากขึ้น และส่งเสริมตลาดสินค้าอุตสาหกรรมสีเขียวและพลังงานสะอาดด้วย Carbon tax เช่น เชื้อเพลิงเอทานอล เอทานอลสำหรับอุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ สารสกัดสมุนไพร เครื่องสำอาง อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) และไบโอเอทิลีน (Bio Ethylene) เป็นต้น 


นายอิศเรศกล่าวต่อว่า (ร่าง) AEDP 2024 ส.อ.ท. เห็นว่า 1. มีกระบวนการจัดทำขาดความโปร่งใส จัดทำแบบเร่งรัด ไม่เป็นไปตามเสียงส่วนใหญ่ ขาดการมีส่วนร่วมจากภาคเกษตรกร ภาคการค้า

2. ทำลายศักยภาพของประเทศ ปิดเส้นทางการแข่งขัน ตัดระบบรายได้ของเกษตรกรมากกว่า 1.2 ล้านครัวเรือน เพิ่มโอกาสให้ต่างชาติกดราคาสินค้าเกษตร ทำลายโอกาสในการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ลดความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมเอทานอล

3. ขัดแย้งยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาของประเทศ จากการบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero และการพัฒนาเศรษฐกิจโมเดล BCG ควรวาง Roadmap การพัฒนาอุตสาหกรรมเอทานอล ระยะสั้น กลาง ยาว เพื่อปรับไปสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานเป็นอุตสาหกรรมเอทานอลมูลค่าสูง ได้ตามระยะเวลาที่สมเหตุสมผล


กำลังโหลดความคิดเห็น