xs
xsm
sm
md
lg

บางจากจับมือ สปสช.เพิ่มช่องทางให้ ปชช.เข้าถึงบริการสาธารณสุขได้ที่ปั๊ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บางจากฯ จับมือ สปสช.พัฒนาสถานีบริการน้ำมันบางจากเป็น One Stop Service ด้านสุขภาพและสาธารณสุข เพื่อส่งต่อสุขภาพแข็งแรง

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกความตกลงความร่วมมือโครงการ “เพิ่มช่องทางการเข้าถึงนวัตกรรมบริการสาธารณสุข” สำหรับประชาชน ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มุ่งเพิ่มช่องทางการเข้าถึงนวัตกรรมบริการสาธารณสุขและยกระดับการให้บริการด้านสาธารณสุขในสถานีบริการ โดยมี นายเสรี อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บางจากฯ และ นายแพทย์ จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นผู้ลงนาม และมีนายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เกียรติเป็นสักขีพยาน ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท บางจากฯ อาคาร เอ็ม ทาวเวอร์


นายเสรี อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจเป็นเวลา 40 ปีของบางจากฯ เราได้ร่วมพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของสังคมไทย

สำหรับความร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช.ในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของบางจากฯ ในการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมผ่านการส่งต่อสุขภาพที่แข็งแรงให้กับพี่น้องชาวไทย ช่วยยกระดับและพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศในมิติใหม่ๆ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงนวัตกรรมบริการสาธารณสุขได้เพิ่มขึ้นที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก


ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ บางจากฯ จะร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยการจัดหาพื้นที่ แนะนำและอำนวยความสะดวกสถานีบริการน้ำมันที่จะเข้าร่วมโครงการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขกับ สปสช.ในพื้นที่สถานีบริการน้ำมันของบางจาก และร่วมศึกษาและพัฒนาระบบการแพทย์ทางไกล หรือ Telehealth ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อขยายขอบเขตการสนับสนุนบริการด้านการแพทย์ รวมถึงศึกษาและพัฒนาการแพทย์รูปแบบใหม่นอกโรงพยาบาล ช่วยประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาและคำปรึกษาจากแพทย์ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว

ปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันของบางจากฯ มีกว่า 2,200 แห่งทั่วประเทศนั้น นอกจากจะเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการทุกช่วงวัยภายใต้แนวคิด Greenovative Destination for Intergeneration แล้ว ยังใช้พื้นที่ภายในสถานีบริการให้เกิดประโยชน์และเป็นศูนย์กลางในการสนับสนุนหรือเปิดพื้นที่ช่วยเหลือสนับสนุนเกษตรกรในภาวะราคาตกต่ำ จนถึงการระดมทรัพยากรและกระจายความช่วยเหลือในช่วงภาวะวิกฤตต่างๆ เช่น ระหว่างสถานการณ์โควิด-19 เป็นพื้นที่สำหรับกระจายยา ให้บริการตรวจคัดกรองผู้ป่วย แจกแอลกอฮอล์เจล จำหน่ายหน้ากากอนามัย ฯลฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น