“มนพร” เปิดไทม์ไลน์ ขสมก.จัดหารถใหม่ 3,390 คัน แก้ปัญหารถเสีย-รอนาน แบ่ง 3 เฟส ปักธงรับรถล็อตแรก 350 คันใน พ.ย. 67 เฟส 2 จำนวน 1,520 คัน เม.ย. 68 โชว์ 12 โครงการเด่น ช่วง 8 เดือนนโยบายเข้าเป้า ลุยเพิ่มเทคโนโลยียกระดับบริการประชาชน
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการจัดหารถโดยสารปรับอากาศขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการรถโดยสารนั้น ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้วหลังจากคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก.ได้เห็นชอบการจัดหารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด โดยในระยะที่ 1 จัดหารถโดยสารปรับอากาศจำนวน 350 คัน ด้วยวิธีการเช่า คาดได้รับรถช่วงเดือน พ.ย. 2567 ส่วนระยะที่ 2 จะเช่ารถโดยสารปรับอากาศ EV จำนวน 1,520 คัน คาดได้รับรถ ช่วงเดือน เม.ย. 2568
ซึ่งจะทำให้ ขสมก.มีรถโดยสารใหม่รวมจำนวน 1,870 คัน เพื่อนำมาวิ่งให้บริการแทนรถโดยสารเดิมที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล และมีอายุการใช้งานนานกว่า 30 ปี
ส่วนระยะที่ 3 จะดำเนินการจัดหารถโดยสารพลังงานสะอาด จำนวน 1,520 คัน โดยใช้วิธีการร่วมลงทุนกับเอกชน (PPP) ตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอน เสนอบอร์ดขอรับทุน เพื่อว่าจ้างที่ปรึกษาจัดทำรายงานการศึกษา PPP เบื้องต้นคาดว่าจะจัดหาผู้ร่วมลงทุน PPP พร้อมทยอยรับรถได้ในช่วงปลายปี 2571 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การจัดหารถรวมทั้ง 3 ระยะมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 3,390 คัน ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีรถโดยสารที่เพียงพอต่อการให้บริการ ไม่ต้องรอรถนาน ประกอบกับปัจจุบันประชาชนมีแนวโน้มที่จะใช้บริการเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
@โชว์คืบหน้า 12 โครงการ พัฒนาบริการและองค์กร
นางมนพรกล่าวว่า จากที่ตนได้มอบนโยบายการบริหารงานให้ ขสมก.ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2566 เป็นต้นมา ปัจจุบันเป็นระยะเวลา 8 เดือนแล้ว (ก.ย. 66-พ.ค. 67) ขณะนี้ ขสมก.ได้มีการพัฒนาทุกด้าน ทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการ และสำเร็จเป็นรูปธรรม ตรงตามนโยบายที่ได้มอบหมายไว้
โดย ขสมก.ได้รายงานโครงการเด่นจำนวน 12 โครงการ ได้แก่ 1. การจัดหารถโดยสารให้ครบ จำนวน 3,390 คัน 2. การผลักดันแผนขับเคลื่อนกิจการองค์การขนส่งมวลชน 3. โครงการพัฒนาป้อมนายท่าปล่อยรถ เพื่อทดแทนป้อมเดิมที่มีสภาพเก่าและทรุดโทรม และติดตั้งจอ LED ที่เชื่อมต่อกับระบบ GPS ของรถโดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ 4. โครงการสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล (เบิกตรง) ทำให้พนักงานไม่ต้องสำรองเงินสด เพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล 5. โครงการเช่ารถไฟฟ้าเพื่อใช้งานในสำนักงาน จำนวน 51 คัน
6. โครงการจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) 7. โครงการติดตั้งระบบ GPS ติดตามตำแหน่งรถโดยสาร เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้บริการ และผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไป 8. โครงการติดตั้งกล้อง CCTV ในรถโดยสาร 9. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพ BMTA MIS บริหารจัดการเดินรถ ขสมก. (Web Application และ Mobile Application) 10. โครงการประกันเวลาการเดินทางโดยรถโดยสาร ขสมก. (Just In Time) 11. การยกเลิกสัญญาเหมาซ่อมรถโดยสาร NGV ยี่ห้อ BLK พร้อมหาบริษัทเหมาซ่อมบำรุงรถโดยสารรายใหม่ที่มีประสิทธิภาพเข้ามาทดแทน และ 12. โครงการจัดการข้อมูลบุคคลและสวัสดิการพนักงาน
สำหรับแนวทางการสร้างการเติบโตของรายได้ของหน่วยงาน ขสมก. ดำเนินการภายใต้แนวคิด 4 เพิ่ม 4 ลด ได้แก่ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเดินรถและปรับปรุงเส้นทาง, เพิ่มคุณภาพการให้บริการจากการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย, เพิ่มรายได้ค่าโดยสารจากการปรับเปลี่ยนการจัดเก็บค่าโดยสาร, เพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์จากทรัพย์สินที่มีอยู่ในปัจจุบัน, ลดค่าใช้จ่ายของการเดินรถ, ลดค่าใช้จ่ายของสำนักงาน, ลดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง, ลดค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุง เพื่อเสริมสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนของหน่วยงาน ขสมก.ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ตามมติที่ประชุมบอร์ดขสมก.เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 อนุมัติโครงการจัดหารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด จำนวนไม่เกิน 1,870 คัน โดยวิธีการเช่า โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 (เร่งด่วน) (ปี 2567-2571) ระยะเวลาเช่า 5 ปี จำนวนไม่เกิน 350 คัน ภายในวงเงิน 2,350 ล้านบาท เพื่อนำมาเติมเต็มบริการแก้ปัญหาขาดแคลนรถที่จอดซ่อมบำรุงและไม่เพียงพอต่อการบริการ
ระยะที่ 2 (ปี 2568-2574) ระยะเวลาเช่า 7 ปี จำนวนไม่เกิน 1,520 คัน วงเงินไม่เกิน 23,094 ล้านบาท เพื่อนำมาทดแทนรถโดยสารที่มีสภาพเก่า ที่มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 30-33 ปี
