ขสมก.เปิดตัวป้อมนายท่าปล่อยรถโดยสารต้นแบบ อนุสาวรีย์ชัยฯ (ฝั่งเกาะพหลโยธิน) มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ติดโซล่าเซลล์ ไฟฟ้า-แอร์ ด้านนอกมีจอ LED แสดงข้อมูลการเดินรถเมล์ ลุยติดตั้งครบ 41 แห่งทั่วกทม.ยกระดับคุณภาพชีวิตพนักงานและบริการ
วันนี้ (3 พฤษภาคม 2567) นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพันธ์ คุณากรวงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของพนักงานและการใช้งาน ป้อมปล่อยรถโดยสารต้นแบบ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งเกาะพหลโยธิน) โดยมี นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้บริหาร และพนักงาน ขสมก. ให้การต้อนรับ
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า จากที่ตนได้ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พบว่านายท่าปล่อยรถโดยสาร ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในป้อมปล่อยรถ ที่มีสภาพเก่า ทรุดโทรม หลังคารั่ว และไม่มีไฟส่องสว่าง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน และภาพลักษณ์ของ ขสมก. ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้ ขสมก. เร่งดำเนินการจัดหา ป้อมปล่อยรถโดยสารใหม่ที่มีความสวยงามบังแดด กันฝน พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานและประชาชนผู้ใช้บริการ ตามนโยบาย “ราชรถยิ้ม” ที่ต้องการให้บุคลากรในสังกัดกระทรวงคมนาคม มีรอยยิ้มและมีความสุขในการทำงาน เพื่อส่งต่อความสุขให้กับประชาชน
วันนี้ จึงได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจพนักงาน และเยี่ยมชมการทดสอบระบบการใช้งานป้อมปล่อยรถโดยสารของ ขสมก. ซึ่งเริ่มทดสอบระบบการใช้งาน เป็นวันแรก โดยเปิดใช้งานสมบูรณ์ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 จากนั้นจะมีการเก็บข้อมูล ประเมินผลการใช้งานจากพนักงานและประชาชน ประมาณ 15 - 20 วัน และนำไปพัฒนาเพื่อนำไปขยายผลดำเนินการติดตั้งป้อมใหม่สำหรับปล่อยรถโดยสาร ขสมก. ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีอีกจำนวน 40 ป้อม ซึ่งทางกรุงเทพมหานคร(กทม.) ตกลงในเรื่องการให้ใช้พื้นที่ทางเท้าแล้ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายใยระยะเวลา 3 เดือน
สำหรับป้อมปล่อยรถโดยสารเป็นตู้สี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน - เขียว สามารถกันแดดและฝนได้ ภายในตู้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ สัญญาณอินเทอร์เน็ต ระบบโซล่าเซลล์ ระบบไฟฟ้าไว้ให้บริการพนักงานสำหรับการทำงานบริการประชาชน ด้านนอกตู้มีจอ LED ขนาด 32 นิ้ว แสดงข้อมูลเกี่ยวกับการเดินรถเมล์ ขสมก. ที่ผ่านป้อมปล่อยรถโดยสาร ระยะเวลาที่รถจะเข้าป้ายเพื่อให้ประชาชนสามารถบริหารจัดการเวลาได้ และมีไฟฟ้าส่องสว่างเวลาเวลากลางคืนเพื่อความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ
ซึ่งป้อมปล่อยรถโดยสารต้นแบบ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งเกาะพหลโยธิน) นั้น ถือเป็นป้อมขนาดใหญ่ที่สุด ต้นทุนประมาณ 2.6 แสนบาท เนื่องจากทางเท้าจุดนี้มีขนาดใหญ่เพียงพอ สำหรับอีก 40 จุดที่จะทำต่อไปนั้น จะมีขนาดป้อมแตกต่างกันไปตามพื้นที่ทางเท้า ซึ่งจะมีทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งต้นทุนจะลดลงตามไป
สำหรับ การเลือกทดสอบระบบการใช้งานที่เกาะพหลโยธิน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื่องจากมีปริมาณการเดินรถหนาแน่น เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างรถโดยสาร รถตู้โดยสาร และรถไฟฟ้า มีรถเมล์ผ่านกว่า 10 สาย โดยหลังจากนั้น รมช.คมนาคมพร้อมคณะ ได้โดยสารรถประจำทาง ขสมก. สาย 26 จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปยังป้ายหยุดรถสวนจตุจักรด้วย โดยได้กับให้ขสมก.ดูแลการให้บริการและบริหารจัดการหมุนเวียนรถโดยสารให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในแต่ละเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางที่มีความหนาแน่น การโยกย้ายสายรถโดยสารจะต้องไม่กระทบต่อพี่น้องประชาชนผู้ใช้บริการ และมอบให้ ขสมก. เฝ้าติดตาม แก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนของพี่น้องประชาชนอย่างสม่ำเสมอ
นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผอ.ขสมก.กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดหาผู้ดำเนินการซ่อมแซมบำรุงรักษารถโดยสาร NGV ยี่ห้อบอนลัค จำนวน 486 คันรายใหม่ ภายหลังจากที่มีการยกเลิกสัญญาจ้างกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO โดยบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) แล้วว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรรหาผู้รับจ้างคาดว่าจะได้ผู้รับจ้างประมาณเดือนมิถุนายน 2567 จากนั้นจะทยอยซ่อมฟื้นฟูรถโดยสาร NGV เพื่อนำมาวิ่งให้บริการประชาชนโดยเร็ว ซึ่งรถกลุ่มแรกที่เสียไม่มาก เป็นการซ่อมเบา ประมาณ 100 คัน คาดว่าจะใช้ซ่อมบำรุงประมาณ 1-2 สัปดาห์จะทยอยนำออกให้บริการได้ก่อน โดยคาดว่าจะซ่อมเสร็จทั้งหมดในเดือนกันยายน 2567
ส่วนการแก้ไขปัญหารถโดยสารขาดระยะ ไม่เพียงต่อการให้บริการประชาชนนั้น ขสมก. ได้นำรถโดยสารจากสายอื่น มาให้บริการในสายที่มีปริมาณการเดินทางและมีความต้องการเดินทางมากกว่าในชั่วโมงเร่งด่วน รวมถึงเตรียมพร้อมรองรับการเดินทางในช่วงเปิดเทอมอีกด้วย
