ขสมก.เตรียม 6 โครงการใหญ่เสนอบอร์ดชุดใหม่ เรื่องด่วน ยกเลิกสัญญา "กิจการค้าร่วม SCN-CHO" ซ่อมบำรุงรถเมล์ NGV 489 คัน พร้อมเรียกค่าเสียหาย เผยสุดทนรถพังไม่ซ่อม เหลือวิ่งล่าสุดแค่ 36 คัน ผู้โดยสารเดือดร้อน ขสมก.ขาดรายได้
นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บอร์ด ขสมก.) แล้ว ซึ่ง ขสมก.อยู่ในภาวะไม่มีบอร์ดบริหารตามอำนาจมานานถึง 15 เดือน ที่ผ่านมา ขสมก.ได้เตรียมแผนงานและความพร้อมของโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมนำเสนอบอร์ด ขสมก.ชุดใหม่พิจารณาขอความเห็นชอบ เดินหน้าแก้ปัญหาและขับเคลื่อนองค์การฯ ซึ่งคาดหมายว่าบอร์ด ขสมก.จะประชุมได้ในสัปดาห์หน้า
โดยประเด็นที่จะนำเสนอบอร์ด ขสมก.ชุดใหม่ ได้แก่ 1. แผนขับเคลื่อน ภายใต้แผนฟื้นฟู ขสมก. (BMTA Moving Plan) 2. การจัดหารถโดยสารพลังงานสะอาด เพื่อทดแทนรถเมล์เดิมที่มีอายุมากกว่า 30 ปี 3. เห็นชอบโครงการ ระบบบริหารจัดการเดินรถ (BMTA GPS - Fleet Management System) 4. การเร่งรัดแก้ปัญหา รถเสีย-ค้างซ่อม-ออกวิ่งไม่ได้ ภายใต้สัญญาเหมาซ่อม 5. แผนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ (อู่บางเขน, อู่มีนบุรี) 6. การปรับปรุงโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ในปัจจุบัน
ผอ.ขสมก.กล่าวว่า ปัญหาเร่งด่วนคือ เรื่องรถโดยสารปรับอากาศสีฟ้า (NGV) ยี่ห้อบอนลัคเสีย เกิดจากการซ่อมบำรุงไม่เป็นไปตามสัญญา เรื่องนี้จะเสนอบอร์ด ขสมก.ขออนุมัติ ยกเลิกสัญญากับกิจการค้าร่วม (Consortium) SCN-CHO” (บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO บริษัท สแกน อินเตอร์ จํากัด (มหาชน) หรือ SCN พร้อมเรียกค่าเสียหาย และเร่งรัดจัดหาบริษัทซ่อมบำรุงรายใหม่ ซึ่ง ขสมก.ต้อง ดำเนินการตามเงื่อนไขสัญญาเพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายมากไปกว่านี้ ซึ่งตามสัญญา เมื่อรถเสียวันแรก บริษัทฯ ต้องซ่อมให้กลับมาวิ่งตามปกติ ดังนั้นก็ถือว่าผิดเงื่อนไขสัญญา ดังนั้น ขสมก.มีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาได้แล้ว
ปัจจุบัน ขสมก.ประสบกับปัญหารถไม่เพียงพอ ทำให้ได้รับความเสียหาย และผู้ใช้บริการได้รับความเดือดร้อน ซึ่งรถ NGV จัดซื้อตามสัญญาจำนวน 489 คัน ล่าสุดเหลือวิ่งให้บริการได้เพียง 36 คัน เท่านั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้มีรถถูกไฟไหม้เสียหายไป 3 คัน บริษัทฯ ไม่ได้จัดหารถใหม่มาทดแทน ทำให้มีรถที่ 486 คัน แต่มีปัญหาการซ่อมบำรุง ทำให้ตอนนี้มีรถจอดถึง 450 คัน
“ขสมก.เชิญบริษัทฯ มาประชุมเมื่อ ม.ค. ที่ผานมา บริษัทฯ บอกว่าจะซ่อมคืนสภาพให้วิ่งบริการได้ในเดือน ม.ค.ทั้งหมด แต่ก็ทำไม่ได้ ซึ่งบริษัทกลับไปให้ข่าวว่า ขสมก.ค้างชำระค่าซ่อมบำรุง 8-9 เดือน ข้อเท็จจริง ขสมก.ไม่ค้างชำระใดๆ มีหลักฐานการจ่ายเช็ค อาจจะมีล่าช้าเพียงเล็กน้อยช่วงปลายปี 2566 ที่มีการเปลี่ยนระบบการเหมาซ่อม ไม่เกิน 3 เดือน โดยปัจจุบันมีการจ่ายเงินให้ตามปกติทุกเดือน ปัญหาอยู่ที่ ช ทวี ที่เมื่อได้รับเงินไปแต่ไม่นำไปจ่ายค่าเหมาซ่อม ให้บริษัทรับเหมาช่วง ขสมก.จะเดินหน้าบอกเลิกสัญญา ช ทวี กับสแกนฯ ซึ่งเป็นสัญญาเรื่องการซ่อมบำรุง 10 ปี ซึ่งยังเหลืออีกประมาณ 5 ปี ซึ่งบริษัทผิดเงื่อนไข ที่ห้ามไปเหมาช่วงซ่อมบำรุงแล้วยังทำงานไม่เป็นไปตามเงื่อนไขอีกด้วย ทำให้ ขสมก.เสียหาย มีรถวิ่งให้บริการไม่ครบ สูญเสียรายได้ ผู้ใช้บริการเดือดร้อน และ ขสมก.ยังเสี่ยงที่อาจจะถูกเอกชนที่ซื้อพื้นที่โฆษณาไว้แต่รถไม่ได้นำวิ่งตามเงื่อนไข เรียกค่าเสียหายอีก ขสมก.กำลังรวบรวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 300-500 ล้านบาท” ผอ.ขสมก.กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2560 ขสมก.ได้ลงนามสัญญาการซื้อขายรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน พร้อมซ่อมแซม และบำรุงรถโดยสาร กับกิจการค้าร่วม SCN-CHO มูลค่าโครงการ 4,261 ล้านบาท โดยเป็นราคาที่สูงกว่าราคากลาง ประมาณ 6% (ราคากลาง 4,021 ล้านบาท) ข้อเสนอตัวรถที่ 1,891 ล้านบาท หรือคันละประมาณ 3.9 ล้านบาท วงเงินค่าซ่อมบำรุง 2,370 ล้านบาท ตลอด 10 ปี โดยเอกชนเสนอค่าซ่อมปีที่ 1-5 เสนอที่ราคา 925 บาท/คัน/วัน ปีที่ 6-10 อยู่ที่ 1,700 บาท/คัน/วัน ซึ่งสูงกว่าราคากลางเล็กน้อย (ราคากลาง 1,635 บาท/คัน/วัน) เริ่มส่งมอบรถล็อตแรกเมื่อเดือน มี.ค. 2561
สำหรับคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพชุดใหม่ จำนวน 9 คน ประกอบด้วย นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ เป็นประธานกรรมการ กรรมการมีดังนี้ นางสาวรัชนีพร ธิติทรัพย์, พลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย, นางสาวกมลพัฒน์ ปุงบางกะดี่, นายจิรายุ ห่วงทรัพย์, นายธนพล โตโพธิ์ไทย, นายจิรพล สังข์โพธิ์, นายภูมินทร์ บุตรอินทร์, นางสาวพิมพ์เพ็ญ ลัดพลี (ผู้แทนกระทรวงการคลัง)