บอร์ด กทพ.ยังไม่เคาะทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ (ฉลองรัช-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก) สั่งเช็กความแข็งแรงเสาตอม่อแนวถนนเกษตร-นวมินทร์ กทพ.คาดสรุปเสนอใหม่ มี.ค. 67 ดันเร่งสร้างแก้จราจรแนวตะวันออก ส่วนเฟส 2 ช่วง N1 เดิมรอผลศึกษารูปแบบหน้า ม.เกษตรฯ
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ว่า กทพ.มีแผนการดำเนินงานโครงการในระยะที่ 1 (ถนนประเสริฐมนูกิจ-ถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก) หรือตอน N2 เดิม ระยะทาง 11.3 กม. มูลค่าลงทุน 16,960 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ กทพ.ได้เสนอไปที่กระทรวงคมนาคมแล้ว แต่เนื่องจากมีความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ส่งเรื่องกลับมาที่ กทพ. ปัจจุบัน กทพ.ได้สรุปรายละเอียดและการปรับแผนดำเนินงานและเปลี่ยนชื่อเป็น โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก โดยจะเร่งรัดโครงการในระยะที่ 1 ก่อน และนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.ชุดใหม่ที่มีนายสราวุธ ทรงศิวิไล เป็นประธาน เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2567 พิจารณาอีกครั้ง แต่บอร์ด กทพ.ยังไม่อนุมัติ โดยมีความเห็นให้ กทพ.กลับไปศึกษาเพิ่มเติม เช่น สภาพความแข็งแรงของโครงสร้างเสาตอม่อ ตามแนวถนนประเสริฐมนูกิจ ซึ่งกทพ.จะเร่งทบทวนการศึกษา คาดว่าจะนำเสนอบอร์ด กทพ.พิจารณาอีกครั้งในเดือนมี.ค. 2567
“กทพ.จะปรับแผนดำเนินงานทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ โดยเร่งรัดเส้นทางฝั่งที่อยู่ในแนวถนนประเสริฐมนูกิจ-ถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก ขณะนี้เร่งจ้างที่ปรึกษาเพื่ออัปเดตข้อมูลเรื่องความแข็งแรงของโครงสร้างเสาตอม่อ และข้อมูลต่างๆ ปริมาณจราจร และค่าก่อสร้างในปัจจุบัน และสรุปได้ใน 2 เดือนเพื่อเร่งนำเสนอบอร์ด กทพ.พิจารณา” ผู้ว่าฯ กทพ.กล่าว
สำหรับ เสาตอม่อ จำนวน 281 ต้น บนถนนเกษตร-นวมินทร์นั้นมีอายุ 25 ปีแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบส่วนของฐานรากล่าสุดยังใช้ได้ โดยจะรื้อเสาออกและก่อสร้างเป็นเสาทางด่วนใหม่ และจะใช้เงินกู้ในการก่อสร้าง เนื่องจากเดิมทีโครงการจะใช้เงินจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) วงเงิน 14,374 ล้านบาท แต่ปัจจุบัน กทพ.ได้มีการปรับแผนโยกเงิน TFF ไปใช้ในทางด่วนฉลองรัช ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา ซึ่งขณะนี้เตรียมจะขายเอกสารประกวดราคาแล้ว
สำหรับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ โครงการระยะที่ 2 ส่วนทดแทนตอน N1 (ช่วงทางพิเศษศรีรัช-ถนนงามวงศ์วาน-ถนนประเสริฐมนูกิจ) ระยะทาง 6.7 กม. มูลค่า 5 หมื่นล้านบาท ผู้ว่าฯ กทพ.กล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีประเด็นช่วงผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยแนวทางก่อสร้างเป็นอุโมงค์ใต้ดินเพื่อลดผลกระทบ ซึ่งต้องรอสรุปการศึกษาและรับฟังความเห็นผู้เกี่ยวข้องต่อไป