ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดแว่นตา 14,000 ล้านบาทเริ่มฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น คาดปีหน้ายังโตต่อเนื่องทะลุ 15,600 ล้านบาท ด้าน “วิชั่น เวนเจอร์ส” เปิดแนวตลาดใหม่ร้าน แว่นตา “Glassiq” กลาสสิค ผุดสโตร์แรกที่ดิเอ็มสเฟียร์ พร้อมขยายต่อปีหน้าอีก 2 สาขา
นายพิริยะ ตันตราธิวุฒิ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์แว่นตา Glassiq และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท วิชั่น เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดแว่นตาและอุปกรณ์ในไทยปี 2566 โดยยูโรมอนิเตอร์คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น แว่นสายตาและแว่นสายตาแบบแฟชั่น 7,700 ล้านบาท แว่นกันแดด มูลค่า 4,400 ล้านบาท คอนแทกต์เลนส์ มูลค่า 2,400 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตลาดรวมแว่นตาในช่วงเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระทบตลาดรวมเช่นเดียวกับธุรกิจอื่น เพราะการซื้อแว่นการตัดแว่นตานี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมาที่ร้านเพื่อทำการวัดค่าสายตา และเลือกอุปกรณ์ แต่ว่าช่วงที่มีการปิดเมืองนั้นธุรกิจร้านแว่นตากระทบมาก
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์เริ่มดีขี้นตามลำดับแล้ว ตลาดเริ่มฟื้นตัวกลับมา ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาผู้บริโภคที่ต้องการตัดแว่นตาก็ทำไม่ได้ จึงทำให้เกิดดีมานด์ในช่วงนี้มากเป็นพิเศษ อีกทั้งในช่วงที่ทำงานที่บ้านหรือเวิร์กฟรอมโฮม (Work from home ) ทำให้ผู้บริโภคใช้สายตาอย่างหนัก ทั้งจากการใช้โซเชียล การใช้มือถือ การใช้คอมพิวเตอร์เกิดภาวะอาการตาล้า ทำให้ต้องใช้แว่นตามากขึ้น
โดยยูโรมอนิเตอร์มีการคาดการณ์ว่า ตลาดแว่นตารวมในไทย ในแง่มูลค่านั้น ในปี 2567 จะมีมูลค่าประมาณ 15,600 ล้านบาท หรือประมาณ 36 ล้านยูนิต ปี 2568 จะมีมูลค่ารวม 16,700 ล้านบาท หรือประมาณ 38 ล้านยูนิต ปี 2569 จะมีมูลค่าประมาณ 17,700 ล้านบาท หรือประมาณ 40 ล้านยูนิต ปี 2570 จะมีมูลค่าประมาณ 18,800 ล้านบาท หรือประมาณ 43 ล้านยูนิต เป็นตลาดที่มีการเติบโตต่อเนื่องแม้จะไม่สูงมากนัก
สำหรับแผนธุรกิจของบริษัท ในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายสาขาร้านกลาสสิคอีกอย่างน้อย 2 แห่ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ คือที่เซ็นทรัลนครสวรรค์ และบริเวณตึกซิลลิค ถนนสีลม พื้นที่อย่างต่ำ 100 กว่าตารางเมตร ลงทุนสาขาละประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีสาขา 3 ทำเล คือ สาขาแรกในศูนย์การค้ากลางเมืองกรุงเทพฯ สาขาสองในศูนย์การค้าต่างจังหวัด และสาขาสามเป็นสแตนด์อะโลนหรือสตรีทสโตร์
ล่าสุดได้เปิดร้านกลาสสิค ( Glassiq) สาขาแรกที่ศูนย์การค้าดิเอ็มสเฟียร์ที่เพิ่งเปิดศูนย์การค้าใหม่เช่นกันบนถนนสุขุมวิท เมื่อเดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา ถือเป็นการเปิดหน้าร้านสาขาแรก พื้นที่ประมาณ 140 ตารางเมตร ชั้น 2 ลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นสาขาเต็มรูปแบบ ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมสาขาแรกนี้เฉลี่ย 10-15 ยูนิตต่อวัน ส่วนอีกสองสาขาใหม่วางเป้าหมายยอดขายรวมเช่นเดียวกัน 10-15 ล้านบาทต่อสาขา โดยมีราคาขายที่ 4,000 บาทต่ออัน
บริษัทจับกลุ่มเป้าหมายหลักคืออายุ 25-40 ปี และผู้ที่มีปัญาหาทางด้านสายตา โดยร้าน “Glassiq @Emsphere” (กลาสสิค แอท เอ็มสเฟียร์) งัดจุดเด่นด้านเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เน้นความเป็น ‘Omni-Channel’ เพื่อมอบประสบการณ์การเลือกซื้อแว่นตาที่แตกต่างจากเดิมให้ลูกค้า
1. เลือกกรอบแว่นได้ง่ายบนเว็บไซต์ตั้งแต่ที่บ้าน ทีม Glassiq ออกแบบเว็บไซต์ให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์ ใช้ง่าย พร้อมโชว์แค็ตตาล็อกกรอบแว่น รายละเอียดของแว่นแต่ละรุ่น ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกซื้อแว่นตาได้ง่ายเหมือนเลือกซื้อเสื้อผ้าจากที่บ้าน 2. ฟิลเตอร์กรองหาแว่นพร้อมค้นหา Lookbook สไตล์ที่ใช่ ลูกค้าสามารถทดลองเล่นฟิลเตอร์บนเว็บไซต์เพื่อกรองหาแว่นที่เหมาะกับใบหน้า พร้อมเลือกดู Inspiration Lookbook ที่แมตช์กับตัวเองได้ง่ายๆ
3. เช็กข้อมูลสินค้าได้สะดวกแค่ปลายนิ้วไม่ว่าอยู่ที่ไหน ลูกค้าสามารถเช็ก Product Availability จากเว็บไซต์ได้ ว่ามีสินค้าให้ลองที่หน้าร้านหรือไม่ อยู่โซนใดของร้าน และหากต้องการรู้สตอรีของแว่นที่สนใจขณะที่อยู่ในร้าน ทำง่ายเพียงสแกน QR Code ของสินค้านั้นๆ 4. คัดสรรเทคโนโลยีใหม่มอบประสบการณ์เหนือระดับอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Glassiq มีเทคโนโลยีใหม่ เช่น สายพานที่ช่วยส่งแว่นเข้าห้องฝนเลนส์อัตโนมัติได้รวดเร็ว เครื่องฝนเลนส์ที่มีความแม่นยำ และเครื่องวัดสายตารุ่นล่าสุดที่วัดได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
“ในด้านคุณภาพสินค้าทั้งกรอบแว่นและเลนส์ของ Glassiq มั่นใจคุณภาพดีไม่แพ้แบรนด์ และราคาสมเหตุสมผล โดยแว่นตามีความโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สวย คุณภาพดี ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เพราะทีมงาน Glassiq นำความต้องการที่ได้จากลูกค้ามาพัฒนาสินค้า และออกแบบเอง ส่งตรงผลิตกับโรงงานในประเทศเกาหลีใต้ที่เชี่ยวชาญด้านการใช้วัสดุคุณภาพและกระบวนการผลิตแว่นตา ทำให้สามารถตัดระบบพ่อค้าคนกลาง และมอบแว่นตาในราคาที่เข้าถึงง่ายแด่ลูกค้าได้ อีกทั้งยังมีพาร์ตเนอร์โดยตรงกับ Thai Optical Group หนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกเลนส์รายใหญ่ชั้นนำของโลก ทำให้ได้เลนส์สายตาที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม โดยราคาสินค้า กรอบพร้อมเลนส์เริ่มต้นเพียง 1,990 บาท” นายพิริยะกล่าว