“สุรพงษ์” ตรวจจุดเกิดเหตุรถร่วมฯ เสียหลักตกข้างทางที่ทับสะแก และเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ย้ำดูแลเต็มที่ สั่ง ขบ.-บขส.เชิญสภาวิศวกร, สถาบันยานยนต์ และ AIT ร่วมตรวจสอบและวิเคราะห์สภาพรถทั้งหมด เพื่อถอดบทเรียน กำหนดมาตรการรองรับช่วงปีใหม่ 67 เล็งปรับทดสอบสมรรถนะคนขับรถโดยสารสาธารณะเป็น 1 ปี
วันนี้ (6 ธ.ค. 2566) นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงศ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง) นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และนางสาวระพิพรรณ วรรณพินทุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบกรณีรถโดยสารร่วมเอกชนของ บริษัท ศรีสยาม เดินรถ จำกัด เสียหลักตกข้างทางบริเวณถนนเพชรเกษม กม.331 ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมได้เข้าเยี่ยมและส่งมอบกำลังใจให้ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทับสะแก และโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคมกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยต่อเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และได้กำชับให้กรมการขนส่งทางบก และ บขส.ร่วมกันดูแลให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารอย่างเต็มที่ โดยผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยตามสิทธิ์ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าประจำศูนย์ช่วยเหลือฯ อำนวยความสะดวกในการตรวจสอบการคุ้มครองของประกันภัยให้ผู้โดยสารที่ประสบอุบัติเหตุ ณ โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง
นอกจากนี้ได้ให้ ขบ.และ บขส.ร่วมกับสภาวิศวกร, สถาบันยานยนต์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ดำเนินการสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุ โดยทาง AIT จะส่งทีมร่วมสอบสวนอุบัติเหตุในสัปดาห์นี้
นายสุรพงษ์ย้ำว่า กระทรวงคมนาคม มีเป้าหมายในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ซึ่งการดำเนินการสอบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้จะมีการรวบรวมสถิติ และอุบัติเหตุเคสสำคัญที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อเป็นข้อเสนอแนะในการออกมาตรการและนโยบายของกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะเป็นการถอดบทเรียนเพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีกในอนาคต รวมทั้ง บขส.ได้เชิญ AIT เป็นที่ปรึกษา เพื่อประเมิน วิเคราะห์ ตรวจสอบ มาตรการเชิงปฏิบัติการ และความมั่นคงแข็งแรงของรถ Safety Audit ทั้งรถ บขส.และรถร่วมบริการทั้งหมด
รมช.คมนาคมกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย และตั้งเป้าลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน จึงฝากให้ บขส. และผู้ประกอบการรถร่วมทุกรายหมั่นตรวจเช็กความพร้อมของรถโดยสารอยู่เสมอก่อนนำมาให้บริการ, รถโดยสารทุกคันต้องมีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย เช่น เข็มขัดนิรภัย ถังดับเพลิง ทางออกฉุกเฉินและค้อนทุบกระจก ติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทาง (GPS) เป็นต้น และแนะนำให้มีการตรวจสุขภาพพนักงานขับรถทุกๆ 6 เดือน เพื่อประเมินความพร้อมและสมรรถนะทางร่างกายของพนักงานขับรถ และให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณาปรับการทดสอบสมรรถนะทางด้านการขับขี่ของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ จาก 3 ปี เป็น 1 ปี และให้เน้นย้ำให้ผู้ขับขี่รถโดยสารปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ดี หลังจากนี้กระทรวงคมนาคมจะกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนเพิ่มเติม โดยจะประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางในการออกมาตรการด้านความปลอดภัย ในการขับขี่บนท้องถนน และมีผลบังคับใช้ก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้