กรมขนส่งทางบก แนะวิธีเช่าเหมารถโดยสารสาธารณะต้องจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ผ่านการตรวจสภาพรถและภาษีถูกต้องสำหรับประชาชนที่เดินทางเป็นหมู่คณะ
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ในช่วงนี้มีประชาชนเดินทางไปทำบุญหรือเดินทางออกไปเที่ยวต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก การเช่าเหมารถโดยสารสาธารณะ เป็นการเดินทางอีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมใช้สำหรับการเดินทางเป็นหมู่คณะ เพื่อให้สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และถึงที่หมายพร้อมเพียงกัน กรมการขนส่งทางบกแนะนำสำหรับการเลือกรถเช่าเหมาให้มีความเหมาะสมและปลอดภัย ดังนี้
ด้านผู้ประกอบการ ประชาชนควรเลือกใช้บริการจากผู้ประกอบการขนส่งที่ได้มาตรฐาน รถโดยสารสาธารณะต้องจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ผ่านการตรวจสภาพรถและภาษีถูกต้องตรงตามระยะเวลา มีการจัดทำประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนด มีการตรวจสภาพความพร้อมของรถและพนักงานขับรถเพื่อความปลอดภัยที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ควรมีการวางแผนการเดินทางอย่างเหมาะสม
หลีกเลี่ยงการเดินทางในเวลากลางคืน และเลือกใช้รถที่มีความเหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสารและสภาพเส้นทาง เช่น หากต้องเดินทางในเส้นทางที่มีความโค้งหรือที่ลาดสูงชันควรใช้รถโดยสารชั้นเดียว และที่สำคัญควรเลือกใช้บริการจากผู้ประกอบการขนส่งที่ไม่มีประวัติการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
ด้านตัวรถ สภาพตัวรถต้องมีความสมบูรณ์ทั้งภายในและภายนอก ระบบเบรก สภาพยางและล้อ ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน มีการติดตั้ง GPS Tracking และอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยครบถ้วน ได้แก่ การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยครบทุกที่นั่งและสามารถใช้งานได้ ไม่มีการดัดแปลงจำนวนที่นั่ง ตำแหน่งการติดตั้งที่นั่งต้องไม่กีดขวางประตูฉุกเฉิน ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก และต้องมีมาตรการในการกำกับดูแลพนักงานขับรถให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและปลอดภัย
ด้านพนักงานขับรถ ต้องมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ก่อนออกเดินทางต้องมีการศึกษาเส้นทางล่วงหน้า พักผ่อนเพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์ (0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) ไม่เสพสารเสพติดให้โทษหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ขณะปฏิบัติหน้าที่ขับรถต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ขับรถด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ห้ามขับรถเกินชั่วโมงการทำงานตามที่กฎหมายกำหนด โดยต้องเปลี่ยนคนขับเมื่อปฏิบัติงานติดต่อกันเป็นเวลา 4 ชั่วโมง หรือหยุดพักขับรถไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะขับรถต่อไปอีกไม่เกิน 4 ชั่วโมง
ในส่วนของผู้โดยสารขอเน้นว่าในขณะเดินทางต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดระยะเวลา เพื่อเป็นการป้องกันตนเองจากการบาดเจ็บรุนแรงหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างเดินทาง นอกจากนี้ ผู้โดยสารควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมและอากัปกริยาของพนักงานขับรถ เช่น มีอาการง่วงซึม หรือมึนเมา จากสุรา สารเสพติดหรือไม่ หรือขับรถเร็วผิดปกติ ไม่เคารพกฎจราจร หากพบเห็นต้องแจ้งเตือนพนักงานขับรถทันที หรือแจ้งสายด่วนกรมการขนส่งทางบก โทร.1584 เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคน