“นภินทร” เปิดงาน “เชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน วางรากฐานการค้าการลงทุนด้วย FTA ไทย-ศรีลังกา” นำผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชน ให้ข้อมูลโอกาสทางการค้าและการลงทุน แชร์ประสบการณ์การทำธุรกิจ หวังช่วยผู้ประกอบการไทยวางแผนทำการค้า การลงทุนกับศรีลังกาได้ดีขึ้น ชี้การทำ FTA กับศรีลังกาจะช่วยสร้างโอกาสทางการค้า สามารถใช้เป็นประตูสู่เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาได้
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “เชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน วางรากฐานการค้าการลงทุน ด้วย FTA ไทย-ศรีลังกา” และการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ในช่วงการประชุมเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-ศรีลังกา ณ โรงแรมเรเนซองส์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับกระทรวงการค้า พาณิชย์ และความมั่งคงทางอาหารของศรีลังกา จัดงานในครั้งนี้ขึ้น โดยได้รับความสนใจจากภาคเอกชนไทยและศรีลังกากว่า 200 ราย และมีผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชนทั้งสองฝ่ายมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสทางการค้าและการลงทุน รวมทั้งแบ่งปันประสบการณ์การทำธุรกิจระหว่างไทยกับศรีลังกา ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำไปวางแผนทางธุรกิจและการลงทุนในศรีลังกาได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ การจัดทำ FTA ไทย-ศรีลังกา ถือเป็นโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุนไปตลาดใหม่ในภูมิภาคเอเชียใต้ เนื่องจากศรีลังกาตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์เส้นทางการเดินเรือของมหาสมุทรอินเดีย เชื่อมโยงไปยังเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมทั้งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในเส้นทางสายไหมทางทะเลของจีน และมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ เช่น อัญมณี สัตว์น้ำ และสินแร่ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่อุตสาหกรรมภายในของไทยต้องการ
สำหรับผลการศึกษา พบว่า FTA ไทย-ศรีลังกา จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น 4,130 ล้านบาท การลงทุนของไทยในศรีลังกาเพิ่มขึ้น 1,912 ล้านบาท และขยายมูลค่าการส่งออกของไทยไปศรีลังกา 1,499 ล้านบาท โดยสินค้าไทยที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ ได้แก่ สิ่งทอ ยานยนต์และชิ้นส่วน อัญมณี พลาสติกและผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ ในส่วนของธุรกิจบริการ ได้แก่ บริการคอมพิวเตอร์ บริการโทรคมนาคม บริการแฟรนไชส์ บริการสิ่งแวดล้อม บริการด้านการเงิน บริการโรงแรมและร้านอาหาร บริการด้านการกีฬาและนันทนาการ และบริการขนส่งทางทะเล
ส่วนการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ มีสินค้าที่มีศักยภาพเข้าร่วม ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ การท่องเที่ยว การเกษตร สินค้าประมง เทคโนโลยีสารสนเทศ สินค้าและเครื่องดื่มออร์แกนิก และการดูแลสุขภาพ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการของศรีลังการเป็นอย่างมาก
ในช่วง 9 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) การค้าระหว่างไทยกับศรีลังกา มีมูลค่า 285.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปศรีลังกามูลค่า 187.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากศรีลังกามูลค่า 97.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ยางพารา ผ้าผืน อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องเพชรพลอยและอัญมณี เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และเคมีภัณฑ์