xs
xsm
sm
md
lg

RATCH ตั้งเป้า EBITDA ปี 67 โตกว่า 5% ทุ่มงบลงทุน 1.5-3 หมื่นล้านขยายกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



RATCH มั่นใจปี 67 มี EBITDA โตไม่ต่ำกว่า 5% จากโรงไฟฟ้าทยอยจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ตามแผนราว 459 เมกะวัตต์ พร้อมทุ่มงบลงทุนปีหน้าราว 1.5-3 หมื่นล้านบาท เดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าในมือ และรุก M&A เน้นพลังงานหมุนเวียนเป็นหลัก

นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องจากกำลังการผลิตใหม่ที่จะทยอยจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ตามแผนงาน จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 10,807.35 เมกะวัตต์ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาการอีก 2,918.23 เมกะวัตต์ในช่วง 10 ปีนี้ (ปี 2566-2576) ซึ่งในปีหน้าจะมีโครงการที่กำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) รวม 459.06 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าหินกอง หน่วยที่ 1 กำลังการผลิต 392.70 เมกะวัตต์, โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม อาร์ อีเอ็น โคราช เอนเนอร์ยี่ (REN) 12.48 เมกะวัตต์, โรงไฟฟ้านวนคร(NNGE) 12 เมกะวัตต์, โครงการโซลาร์ฟาร์ม (Calabanga Solar) ที่ฟิลิปปินส์ กำลังผลิต 36.33 เมกะวัตต์ และโครงการ Song Giang 1 ที่เวียดนาม กำลังการผลิต 5.55 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ บริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2567 โตมากกว่า 5% เนื่องมาจากรับรู้รายได้และกำไรจากกำลังการผลิตใหม่ที่เข้ามาเพิ่มขึ้นตามแผนงานและการควบรวมหรือเข้าซื้อกิจการ (M&A) โครงการโรงไฟฟ้าในอนาคต

สำหรับงบลงทุนปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 15,000-30,000 ล้านบาท ขึ้นกับโครงการที่พิจารณาแล้วว่าน่าสนใจและเป็นไปตามเงื่อนไขการลงทุน เช่น โครงการอยู่ระหว่างพัฒนา (Greenfield), โครงการพลังงานทดแทน (Renewable) ทั้งนี้ งบลงทุนดังกล่าวแบ่งเป็น 8,000 ล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาในโครงการที่ดำเนินการตามแผนงาน (Pipeline) และที่เหลือเตรียมสำรองเพื่อการควบรวมกิจการของธุรกิจ (M&A) ส่วนใหญ่เป็นโครงการพลังงานหมุนเวียน (Renewable) ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนกำลังการผลิต Renewable อยู่ที่ 27% และจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ได้เร็วกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปี 2573


นางสาวชูศรีกล่าวว่า กรณีที่รัฐมีการปรับลดค่าไฟฟ้าโดยปรับค่า Ft ลงนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทมากนัก เนื่องจากมีสัดส่วนโรงไฟฟ้า SPP เพียง 20% ของรายได้รวมทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้มีสัดส่วนขายไฟลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) กระทบในแง่รายได้ราว 5% ของรายได้รวมทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคาต้นทุนก๊าซฯ ที่ไม่สูงมากนัก ทำให้บริษัทยังสามารถสร้างผลกำไรที่ดีต่อเนื่อง

ความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ในปัจจุบัน ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าหินกอง ยูนิต 1-2 อยู่ระหว่างพัฒนาแล้ว 95% คาดรับรู้รายได้เชิงพาณิชย์ (COD) ยูนิตที่ 1 ตั้งแต่ 1 มี.ค. 2567 ส่วนยูนิต 2 ต้นปี 2568, โครงการนวนคร เฟส 3 ส่วนขยาย COD ได้ ธ.ค. 2567, โครงการ REN Korat (IPS) คาด COD ต้นปี 2567, โครงการพลังน้ำเซกอง 4A &4B สปป.ลาว คาดลงนามซื้อขายไฟฟ้า (PPA) อย่างช้าไม่เกินไตรมาส 1/2567, ความคืบหน้าการลงทุนซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าไพตัน บริษัทฯ คาดหวังจะดำเนินการชำระเงินและโอนหุ้นแล้วเสร็จช่วงไตรมาส 1/2567 ส่วนโรงไฟฟ้าราชบุรี (RG) ในปี 2568 ที่จะสิ้นสุดสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ปัจจุบันบริษัทฯ เตรียมสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ทดแทน


กำลังโหลดความคิดเห็น