ผู้จัดการรายวัน 360 – “ไมเนอร์” รุกหนัก ธุรกิจเฮลท์แอนด์เวลเนส ล่าสุดรีแบรนด์พร้อมรีโนเวทใหญ่ คลินิก ลา แพรรี เป็น ลองจิวิตี้ ฮับ บาย คลินิก ลา แพรรี พร้อมบริการใหม่ ตอบรับเทรนด์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเติบโตดี
ามสมัยนิยม
นางสาวแซนดี้ โจแฮนเนสสัน ผู้อำนวยการกลุ่มงานสปาและเวลเนส เอ็มสปา อินเตอร์เนชั่นแนล ภายใต้กลุ่มไมเนอร์ เปิดเผยว่า ตลาดรวมเฮลท์แอนด์เวลเนส (Health and Wellness ) ในไทยมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 6% อีกทัั้งเป็นธุรกิจที่รัฐบาลให้การส่งเสริมและสนับสนุน และประเทศไทยเองก็มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของต่างชาติอยู่แล้วในเรื่องเวลเนสนี้ ซึ่งกลุ่มไมเนอร์เองก็ให้ความสำคัญกับธุรกิจเฮลท์แอนด์แวลเนสอย่างมาก สอดรับกับเทรนด์ของทั่วโลกด้วยที่ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น
ทางกลุุ่มไมเนอร์มีการขยายตัวและลงทุนทางด้านธุรกิจเฮลท์แอนด์เวลเนส โดยมีการร่วมมือกับทางพันธมิตรผู้ประกอบอบการหลายราย ในการลงทุนเปิดให้บริการในเชนโรงแรมในเครือในไทยและต่างประเทหลายแห่งแล้ว ซึ่งแต่ละแห่งก็มีโมเดลการลงทุนที่ต่างกันไป เช่น ร่วมมือกับกลุ่มวาริต้าสิงคโปร์เปิดเวลเนสที่โรงแรมอนันตราสยาม ร่วมมือกับกลุ่มวีแอลซีซีของอินเดียเปิดบริการเวลเนสที่โรงแรมอมานีหัวหิน ร่วมมือกับบีดีเอ็มเอสเปิดบริการเวลเนสที่โรงแรมอนันตราริเวอร์ไซด์ และล่าสุดคือการร่วมมือกับทางกลุ่มลองจิวิตี้ ฮับ บาย คลินิก ลา แพรรี (Longevity Hub by Clinique La Prairie)ศูนย์ดูแลสุขภาพ จากสวิสเซอร์แลนด์
นางสาวเปรมจิต โพธิวราพรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มงานสปาและเวลเนส ประจำภูมิภาค บริษัท เอ็ม สปา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ลองจิวิตี้ ฮับ บาย คลินิก ลา แพรรี (Longevity Hub by Clinique La Prairie)ศูนย์ดูแลสุขภาพ จากสวิสเซอร์แลนด์ คือชื่อใหม่ที่บริษัทได้รีแบรนด์ใหม่ล่าสุดพร้อมกับการรีโนเวทปรับปรุงใหม่เพิ่มบริการใหม่ ให้สอดรับกับในสวิสเซอร์แลนด์ ที่เป็๋นเจ้าของแบรนด์ หลังจากเปิดบริการมาแล้ว 3 ปี และถือเป็นลองจิวิตี้ ฮับ บาย คลินิก ลา แพรรี แห่งแรกนอกยุโรปที่มาเปิดบริการในไทย ซึ่งหลังจากนั้นก็จะมีที่อื่นเช่น ที่โดฮา ที่แมดริดสเปน แต่ไม่เกี่ยวข้องกับไมเนอร์
ก่อนหน้าที่จะรีแบรนด์มาเป็น ลองจิวิตี้ ฮับ บาย คลินิก ลา แพรรี ศูนย์สุขภาพแห่งนี้เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2563 สานต่อความตั้งใจของ คลินิก ลา แพรรี (Clinique La Prairie) ซึ่งใช้เวลากว่า 91 ปี ที่ได้ทำการวิจัยมุ่งเน้นศาสตร์การชะลอวัยมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่นำเสนอโปรแกรมการชะลอวัยเพื่อคงความอ่อนเยาว์ ด้วยเครื่องมือต่างๆ และบุคลากรที่เชี่ยวชาญ ตามหลักการของ Professor Dr. Paul Niehans ผู้สร้างตำนานในศาสตร์ของ “Cellular Therapy” ต้นกำเนิดของ Clinique La Prairie Longevity Method โดยเราได้ได้นำศาสตร์นี้มาให้บริการลูกค้าของเราที่ ลองจิวิตี้ ฮับ กรุงเทพฯ แห่งนี้
ลองจิวิตี้ ฮับ บาย คลินิก ลา แพรรี กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนชั้น 15 ของโรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ บนพื้นที่กว่า 1,500 ตร.ม. ให้บริการแบบองค์รวมเฉพาะบุคคล เพื่อการดูแลสุขภาพและความงามทั้งภายในและภายนอก รวมถึงการบริการในรูปแบบสมาชิก 12 เดือน ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ โปรแกรม ลองจิวิตี้ พริวิเลจ ที่รวมการตรวจประเมิน ติดตามผลอย่างต่อเนื่องในหนึ่งปีกับผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ ด้วยแผนการดููแลเฉพาะบุคคลแบบครอบคลุุมรายเดือน และสิทธิพิเศษที่เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ในอัตราค่าสมาชิก 195,000 บาทต่อปี และ ลองจิวิตี้ พรีเมียม ที่รวมการตรวจประเมิน ติดตามผลอย่างต่อเนื่องในหนึ่งปีกับผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ ด้วยแผนการดููแลเฉพาะบุคคลแบบครอบคลุุมรายอาทิตย์ และสิทธิพิเศษที่เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ อีกทั้งได้รับสิทธิพิเศษในการรักษาและบริการ การบำบัดด้วยความเย็นทุกอาทิตย์ ในอัตราค่าสมาชิก 635,000 บาทต่อปี
เอ็มสปา อินเตอร์เนชั่นแนล (MSpa International) ดำเนินธุรกิจสปามามากกว่า 70 แห่งทั่วโลก และถือเป็นแรงผลักดันระดับนานาชาติในด้าน Spa & Wellness การเดินทางของเอ็มสปา เริ่มต้นในประเทศไทยในปี 1999 กับมันดารา สปา และตั้งแต่นั้นมาก็ได้พัฒนาและขยายออกไปจนครอบคลุมถึงแบรนด์อนันตรา สปา และอวานี สปา ที่มีชื่อเสียง จนได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย ทั้งนี้เรายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยย่างก้าวอย่างที่มั่นคง ประกอบกับการพัฒนาและการประยุกต์ให้ Spa & Wellness มีความเหมาะกับความต้องการทางด้านสุขภาพของแขกทุกท่านตามสมัยนิยม