ผู้จัดการรายวัน 360 - ฉลองครบ 5 ปี “ไอคอนสยาม” เตรียมจัดชุดใหญ่ไฟกะพริบ ทุ่มงบมากกว่า 1,700 ล้านบาท ใช้ตั้งแต่ปลายปีนี้ไปจนปีหน้า ชูเวิลด์อีเวนต์ทุกเดือนตลอดปี 67 พร้อมรีโนเวตเสริมทัพแม็กเน็ตและพันธมิตรใหม่อีก 40-50 ราย ตอกย้ำปีหน้ารีเทลก้าวสู่จุดพีกสุดในรอบ 10 ปี
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันไอคอนสยามดำเนินธุรกิจครบ 5 ปี ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ในการสร้างเมืองไอคอนสร้างความเจริญให้ฝั่งธนฯ โดยมีการสร้างงานกว่า 3 แสนอัตรา อีกทั้งยังได้รับการยกย่องจากนักท่องเที่ยวไทยและจากทุกมุมโลกให้เป็นโกลบอลเดสติเนชัน สัญลักษณ์ประเทศไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างแท้จริง
หลังจากพ้นโควิดมา หรือในปี พ.ศ. 2565 พบว่านักท่องเที่ยวและธุรกิจไอคอนสยามเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ไอคอนสยามมีการเติบโตของยอดขายจากร้านค้า 25% ทราฟฟิกโตขึ้น 70% หรือต่อวันเฉลี่ยอยู่ที่ 1 แสนราย เสาร์-อาทิตย์ 1.2-1.4 แสนราย
“ตลอด 5 ปี ไอคอนสยามถือเป็นตัวแทนในแง่มุมต่างๆ เป็นซอฟต์เพาเวอร์เดสติเนชันที่ต่างชาติจะนึกถึง โดยเฉพาะในเรื่องของชอปปิ้ง อาหารและสินค้าไทย และเป็นห้างที่มีวิวแม่น้ำที่สวยงาม มีระบำน้ำพุที่ไม่ควรพลาดมาชม อีกทั้งเป็นเดสติเนชันที่ถูกใช้เป็นโลเกชันของการถ่ายทำภาพยนตร์ ซีรีส์ ทั้งไทยและต่างประเทศมาแล้วนับพันเรื่อง โดยยังได้รับรางวัลกว่า 25 รางวัลทั้งจากในไทยและต่างประเทศอีกด้วย”
ล่าสุดไอคอนสยามฉลองครบรอบ 5 ปีตลอด 5 เดือนนับตั้งแต่ ต.ค.-ก.พ. 67 นี้ พร้อมทุ่มงบกว่า 500 ล้านบาทในการจัดเวิลด์คลาสอีเวนต์ โปรโมชันเร้าใจ และกิจกรรมบันเทิงมากมาย โดยต้องการให้มีเวิลด์คลาสอีเวนต์ใหญ่ทุกๆ เดือนตลอดปี 67 ซึ่งมีทั้งอีเวนต,ไทยและต่างประเทศ โดยจะนำซอฟต์เพาเวอร์ของไทยมาเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเยี่ยมชม ทั้งนี้ ในวันที่ 9 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ไอคอนสยามยังได้ อีจุนโฮ-พระเอกซีรีส์ดัง 'King the Land' เมมเบอร์บอยแบนด์สุดฮอตวงทูพีเอ็ม' (2PM) และ มาร์ค ต้วน (Mark Tuan) สมาชิกวง GOT7 หนึ่งใน K-POP ขวัญใจชาวไทย มาร่วมฉลองครบรอบ 5 ปีอีกด้วย
นอกจากนี้ ในปี 67 ไอคอนสยามมีแผนที่จะรีโนเวตเป็นครั้งแรก คาดว่าจะใช้งบมากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการรีโนเวตในหลายๆ ชั้นไปจนถึงชั้น 8 เพื่อปรับพื้นที่ใหม่ สำหรับรองรับพันธมิตรเข้ามาเพิ่มอีก 40-50 ราย ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่ไอคอนสยามยังขาดอยู่ ไม่ว่าจะเป็นลักชัวรีแบรนด์ ร้านอาหารและเครื่องดื่มจากต่างประเทศที่ยังไม่เคยเปิดในไทยมาก่อน เป็นต้น
นอกจากนี้ยังพร้อมเดินหน้าใช้งบอีก 200 ล้านบาท สร้าง ริเวอร์มิวเซียม บนชั้น 8 บนพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร เชื่อว่าจะทำให้เกิดแม่เหล็กใหม่ๆ ดึงดูดให้มีผู้เข้าใช้บริการในไอคอนสยามได้มากขึ้น
“ปัจจุบันพื้นที่เช่าในไอคอนสยามถือว่าเต็ม 100% แล้ว แต่ก็ยังคงมีผู้ที่สนใจต้องการขอเช่าพื้นที่อยู่เรื่อยๆ ทั้งจากในไทยและต่างประเทศ บวกกับครบรอบ 5 ปีที่เป็นช่วงเวลาเหมาะสมของการรีโนเวต จึงมีแผนปรับพื้นที่ใหม่ในครั้งนี้ ที่สำคัญเพื่อให้สามารถเพิ่มพันธมิตรใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพได้มากขึ้น โดยคาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ตั้งแต่กลางปี 67 เป็นต้นไป อีกทั้งในปีหน้าจะมีการปรับราคาค่าเช่าพื้นที่ขึ้นด้วย เพราะครบรอบสัญญาการเช่าพื้นที่พอดี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเช่าแบบ 3 ปีเป็นอย่างต่ำ” นายสุพจน์กล่าว
นายสุพจน์กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดรีเทลในปี 2567 มองว่าน่าจะดีขึ้นมาก หากภาครัฐสามารถทำตามนโยบายหาเสียงได้ตามสัญญา อีกส่วนสำคัญคือ ปีหน้าเป็นปีที่จะมีการเปิดห้างสรรพสินค้าใหม่ๆ มากที่สุดในรอบ 10 ปีเลยทีเดียว บวกกับสถานการณ์ตัวเลขการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และแผนการปรับตัวของไอคอนสยามที่หันมาเน้นโลคัลมากขึ้น จะเป็นส่วนสำคัญให้เกิดทราฟฟิกสูงขึ้น และเปลี่ยนสัดส่วนผู้ใช้บริการ จากเดิมเป็นโลคัล 60% ต่างชาติ 40% เป็นทั้งสองกลุ่มมีสัดส่วน 50% เท่าๆ กันได้ เชื่อว่าจะส่งผลต่อผลประกอบการของไอคอนสยามให้เติบโตเป็นไปตามแผนที่วางไว้