xs
xsm
sm
md
lg

“จิม ทอมป์สัน” แตกธุรกิจผ้าไหม จ่อผุดบูทิคโฮเต็ล-ลุยเอฟแอนด์บี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 – “จิม ทอมป์สัน” ขยับครั้งใหญ่ ปูทาง แผนลงทุน 4 โปรเจ็คต์ในช่วงแผน 3-5 ปี เตรียมร่วมทุนผุดโรงแรมบูทิค ขยายกลุ่มตกแต่งบ้าน ขยายร้านพร้อมเปิดนิวคอนเซ็ปท์สโตร์ ทำซีรีส์ประวัติ คาดปีนี้รายได้โต 50% พร้อมเห็นกำไร


นายแฟรงก์ แคนเซลโลนี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อุตสาหกรรมไหมไทย จำกัด แบรนด์ จิม ทอมป์สัน กล่าวว่า บริษัทฯได้วางแผนการขยายธุรกิจในช่วง 3-5 ปีจากนี้ไว้ ด้วยงบลงทุนรวมมากกว่า 150 ล้านบาท ใน4 ธุรกิจทั้งเดิมและใหม่ประกอบด้วย

1.การลงทุนธุรกิจด้านโรงแรมและที่พักอาศัย ในแบรนด์ จิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) ซึ่งจะเน้นโรงแรมบูทิคโฮเต็ล โมเดลการลงทุนคาดว่าจะลงทุนร่วมกับผู้สนใจหรืออาจจะเป็นการให้ใช้ไลเซ่นส์ของแบรนด์ มองการลงทุนในไทยก่อน ขณะนี้ก็มีผู้สนใจหลายรายแล้วเช่นกัน ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการระยะยาว

2.การขยายธุรกิจทางด้านสินค้าผ้าตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะเป็นผ้าทออันประณีตบรรจง ผ้าที่มีคุณสมบัติเส้นใยพิเศษตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งาน ผ้าตกแต่งผนัง ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ และผ้าปักประเภทต่าง ๆ เพื่อการอยู่อาศัยอันเหนือระดับ ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาและวิจัยตัวผลิตภัณฑ์

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา มีจำนวนกว่า 35% ของโรงแรมชั้นนำระดับโลกในลิสต์ The World’s 50 Best Hotels เลือกใช้สินค้าผ้าตกแต่งของจิม ทอมป์สัน อาทิ แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ, เดอะ สยาม, โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ, เชอวัล บลังก์ ปารีส, ปาร์ก ไฮแอท ว็องโดม ปารีส, เดอะ ซาวอย ลอนดอน, คาเปลลา สิงคโปร์, ปาร์ก ไฮแอท มิลาน, อามันโซ กรีซ และวันแอนด์โอลี่ แมนดารินา เม็กซิโก โดยจิม ทอมป์สัน มีโชว์รูมสินค้าผ้าตกแต่งบ้านในเมืองใหญ่มากมาย ได้แก่ กรุงเทพฯ ลอนดอน แอตแลนตา นิวยอร์ก และปารีส


3. การขยายจิม ทอมป์สัน คอนเซ็ปต์สโตร์ ซึ่งมีร้านเริ่มแรกที่ถนนสุรวงษ์ เปิดมานานแล้ว จะปรับเปลี่ยนใหม่ให้เป็นนิวคอนเซ็ปท์สโตร์ ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนชั้น 4-5 เรียบร้อยแล้ว เหลือชั้น 1-2-3

นอกจากนั้นก็จะมีการขยายสาขาร้านจิม ทอมป์สัน เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือกับ King Power เพื่อเปิดสโตร์ใหม่ในคิงเพาเวอร์ ภูเก็ตและสนามบินดอนเมือง รวมทั้งการเปิด ‘ไลฟ์ไตล์สโตร์’ อันกว้างขวางในสไตล์ดูเพล็กซ์ ในเมกะโปรเจ็กต์ระดับโลกอย่าง One Bangkok ปัจจุบัน จิม ทอมป์สัน มีสโตร์ทั้งสิ้น 25 แห่งในประเทศไทย โดยในแต่ละปีมีปริมาณลูกค้ามากกว่า 2 ล้านคน และมีการซื้อเฉลี่ย 7,000 บาทต่อบิล ลูกค้าหลักคือ ไทย จีน ญี่ปุ่น สัดส่วนยอดขายตามผลิตภัณฑ์คือ เสื้อผ้าผู้หญิง 27% ผ้าพันคอ 22% เสื้อผ้าผู้ชาย 16% และอื่นๆ

4.เรื่องการผลิตทีวีซีรีส์ ประวัติของ จิม ทอมป์สันที่ผ่านมา เนื่องจากยังไม่เคยมีเคยมีการผลิตเรื่องราวชีวประวัติของจิม ทอมป์สัน มาก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ คาดว่าจะมีประมาณ 50 ตอน ตอนละ 50 นาที


นอกจากนั้นจะยังมีการขยายธุรกิจและบริการใหม่ในร้านจิม ทอมป์สันและนอกร้านนอีกหลากลหลาย พร้อมโซนอาหารและเครื่องดื่มใหม่ล่าสุดในดีไซน์สุดไอคอนิก ทั้ง ‘ร้านอาหารไทย จิม ทอมป์สัน’ ‘The O.S.S. Bar’ บาร์สุดฮิป ‘The O.S.S. Room’ ห้องชายามบ่าย ‘Jim’s Terrace’ คาเฟ่สไตล์ไทย-ทาปาสริมระเบียงวิวบ้านไทยแสนงดงาม Silk Café คาเฟ่สวยในบรรยากาศร่มรื่น รวมถึง Moonlight Hall ห้องจัดอีเวนต์อเนกประสงค์ที่ตกแต่งอย่างงดงาม โดยสถานที่ทั้งหมดนี้ยังอยู่ใกล้กับ ‘Jim Thompson Art Center’ พื้นที่แห่งความคิดสร้างสรรค์เพื่อคนรักศิลปะ

อย่างไรก็ตามงบประมาณลงทุน 150 ล้านบาทนี้ ไม่นับรวมถึงการขยายธุรกิจในส่วนของโรงแรมแต่อย่างใด ขณะที่ปี2566 นี้
วางเป้าหมายที่จะต้องมีการเติบโตด้านยอดขายสูง 50% และสร้างผลกำไรกลับคืนมาให้ได้คาดว่าจะมากกว่ากำไรของสามปีก่อนหน้ารวมกันคือ 2560-2562 โดยคาดว่าในปีหน้ามูลค่าแบรนด์ของบริษัทฯจะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ


กำลังโหลดความคิดเห็น