“เจ้าสัวธนินท์” หนุนรัฐบาลแจกเงินดิจิทัล มั่นใจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

“ธนินท์” เชียร์รัฐบาล เข้ามาถูกที่ถูกเวลา หนุนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เหตุเศรษฐกิจไม่ปกติ เผยเงินดิจิทัล ไม่ใช่การช่วยคนจน แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและวินัยการเงินไม่เสีย หวั่นไม่กระตุ้นเศรษฐกิจเจอเงินฝืด เสี่ยงล้มละลาย แนะรัฐบาลดึงคนเก่งในโลกมาทำงานที่ไทย เหตุช่วยจ้างงาน หนุนดึงดูดลงทุน

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยในการปาฐกถาพิเศษในโอกาสครบรอบ 90 ปี หอการค้าไทย ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ว่า ขณะนี้เศรษฐกิจโลกไม่เป็นปกติ เกิดเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ ยกเว้นสหรัฐฯ แม้จะใช้การขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่เงินก็ไหลเข้าสหรัฐฯ เพราะคนเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนไทย รัฐบาลชุดใหม่ถือว่าเข้ามาในเวลาที่ถูกต้อง เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ไม่ได้เป็นแค่นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นนักบริหารการเงินอย่างยอดเยี่ยม

ทั้งนี้ เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเศรษฐกิจไม่ปกติ เกิดวิกฤตขึ้น ไม่ใช่แค่ไทย โดยการพักหนี้เกษตรกรเห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่ได้เป็นการเสียวินัยการเงินการคลัง เป็นการช่วยลดภาระให้เกษตรกร ส่วนสินค้าเกษตร ไม่มีประเทศไหนเจริญรุ่งเรืองได้จากการไม่ปกป้องราคาสินค้าเกษตรให้สูง เพราะสินค้าเกษตรเป็นน้ำมันบนดินของไทย เมื่อผลผลิตการเกษตรออกมา ก็จะเข้าสู่อุตสาหกรรมกลาย เป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร สร้างรายได้เข้าประเทศเพิ่มเป็น 2-3 เท่า และสินค้าเกษตรไม่มีวันหมด ไม่เหมือนกับน้ำมันที่ขุดไปแล้วก็หมดได้

ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้เงินดิจิทัล ต้องช่วยกันพูดว่าไม่ได้ช่วยคนยากจน แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และวินัยการเงินยังไม่เสีย และเมื่อกระตุ้นแล้ว ก็ต้องมีแผนที่จะทำต่อไป เชื่อว่าภายใต้การนำของรัฐบาลชุดนี้ เจริญรุ่งเรืองแน่ เพราะเวลานี้ใครๆ ก็อยากมาไทย แม้มีเงินเฟ้อบ้างก็อย่าไปกลัว กลัวเงินฝืดมากกว่า เพราะเงินฝืด เศรษฐกิจล้มละลาย ประเทศล้มละลายได้

นายธนินท์กล่าวว่า วันนี้ไทยไม่เหมือนยุคต้มยำกุ้ง เป็นประเทศที่น่าลงทุน กำลังเติบโต และเนื้อหอม ถ้าดึงคนเก่งๆ ของโลกมาทำงาน มาอยู่เมืองไทย แค่เพียง 5 ล้านคนจะช่วยสร้างงาน สร้างเศรษฐกิจ และไม่ได้เข้ามาแย่งงานคนไทย เพราะดึงแต่คนที่ทำอาชีพที่คนไทยทำไม่ได้ เช่น กลุ่มอาชีพไฮเทค ถ้าคนเหล่านี้จ้างเลขาฯ 1 คน ก็จะได้การจ้างงาน 5 ล้านคนแล้ว และยังจะทำให้บริษัทท็อปๆ ของโลกด้านไฮเทคก็จะลงทุนในไทยตามมา แต่รัฐบาลต้องอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ด้วย