xs
xsm
sm
md
lg

”สมศักดิ์”ควงคมนาคมแก้ปัญหาชาวบ้านศรีสะเกษ เขต7 จับตามีเฮ!ได้ลุ้นโครงการน้ำ-ถนนในจังหวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2566 นาย สมศักดิ์  เทพสุทิน     รองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ     รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นางมนพร  เจริญศรี   รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางตรวจเยี่ยม หน่วยราชการและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ เขต 7 ตำบลปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมี ดร. วิลดา อินฉัตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรให้การต้อนรับ

ต่อจากนั้น นายชิษณุพงศ์ รตนะกมลเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีตำบลปรางค์กู่ กล่าวรายงานว่าอำเภอปรางค์กู่เป็นอำเภอขนาดใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น แต่ประชากรส่วนใหญ่ยังประกอบอาชีพเกษตรกรรม ชีวิตความเป็นอยู่จึงขึ้นอยู่กับธรรมชาติ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญของเกษตรกรในการประกอบอาชีพ ซึ่งถ้ามีการส่งเสริมสนับสนุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็น ถนน ไฟฟ้า แสงสว่าง จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนน พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาเวลาที่ผ่านมา กว่า 60 ปี อำเภอปรางค์กู่ได้ดำเนินโครงการต่างๆ ตามงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด บางครั้งโครงการที่มีความจำเป็น แต่ก็เกินขีดความสามารถที่ท้องถิ่นภายในอำเภอปรางค์กู่จะสามารถดำเนินการได้โดยเฉพาะระบบโครงสร้างที่เป็นปัญหาหลักไม่สามารถนำงบประมาณที่มีอย่างจำกัดมาแก้ไขปัญหาได้  ดังนั้นเพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ช่วยผลักดันโครงการต่างๆ ดังต่อไปนี้

1.โครงการขยายผิวจราจร พร้อมวางท่อระบายน้ำและไฟฟ้าส่องสว่าง ถนนทางหลวงชนบท หมายเลข ศก 3013 สายบ้านพวร - บ้านพิมาย ช่วง กม. 23+500 – 25+100 ได้พาดผ่านเขตเทศบาลตำบลปรางค์กู่ และช่วง กม.ดังกล่าวได้พาดผ่านโรงพยาบาลปรางค์กู่ โรงเรียนบ้านเหล็ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาปรางค์กู่และโรงเรียนปรางค์กู่ จึงทำให้ปริมาณการจราจรของยวดยานพาหนะเป็นไปอย่างแออัดในช่วงเวลาเร่งด่วนและเวลาปกติ อำเภอปรางค์กู่จึงขอความอนุเคราะห์ ขยายช่องจราจรและเสาไฟฟ้าส่องสว่าง เพื่อความสะดวกปลอดภัยต่อผู้ใช้เส้นทางจราจร รวมทั้งรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลปรางค์กู่พร้อมทั้งวางท่อระบายน้ำทิ้ง 2 ข้างทาง ตลอดโครงการ เนื่องจากท่อน้ำเดิมมีขนาดเล็กและมีระดับท่อต่ำไม่เท่ากันเนื่องจากเจ้าของที่ดินข้างถนนทำการวางท่อระบายน้ำเชื่อมทางกันเองจึงมีขนาดท่อและระดับไม่เท่ากันทำให้เวลามีฝนตก น้ำจากพื้นที่เทศบาลตำบลปรางค์กู่ไหลมารวมกันบริเวณดังกล่าว รอการระบายทำให้น้ำท่วมขังบริเวณถนนเทศบาล 11 ,17 และได้เออล้นเข้าไปภายในโรงเรียนปรางค์กู่  ทำให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรได้รับความลำบากและยังส่งผลกระทบกับนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนปรางค์กู่ด้วย

2.โครงการวางท่อระบายน้ำ และขยายผิวจราจรจาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจรพร้อมระบบสัญญาณไฟจราจรและระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 2167 ด้วยเทศบาลตำบลปรางค์กู่ ได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ว่าได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังบริเวณข้างทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 2167 สายตรางสวาย-ท่าด่าน ประมาณช่วง กม. 19+000 - กม.20+000 เนื่องจากไม่มีท่อลอดทางหลวงบริเวณดังกล่าวเพื่อการระบายน้ำในช่วงฤดูฝน ทำให้ฝนตกมีน้ำท่วมขังบริเวณดังกล่าว ทำให้มีความเดือดร้อนเวลาออกจากบ้านเรือนไปทำการประกอบอาชีพต่างๆบางครั้งทรัพย์สินและยานพาหนะที่ใช้ในการสัญจร เกิดความเสียหายจากการขับฝ่าบริเวณน้ำท่วม อนึ่งบริเวณดังกล่าวได้มีท่อลอดเพื่อระบายน้ำแล้ว แต่ระดับท่อ คสล. ระบายน้ำมีระดับสูงกว่าการระบาย เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ขอความอนุเคราะห์ให้แขวงการทางหลวงจังหวัดศรีสะเกษทำการสำรวจและก่อสร้างท่อระบายน้ำ หรือท่อลอดเหลี่ยม เพื่อการระบายน้ำออกจากชุมชนได้สะดวกและเพียงพอต่อปริมาณน้ำที่ต้องการระบาย พร้อมทั้งขยายผิวจราจรจากเดิม 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร พร้อมระบบสัญญาณไฟจราจรและระบบไฟฟ้าส่องสว่าง เพื่อความสะดวกและปลอดภัยต่อผู้ใช้เส้นทางจราจร

3.โครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำทิ้งและขยายช่องจราจรจาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร พร้อมระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ด้วยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2167 สายตรางสวาย – ท่าด่าน ได้ตัดผ่านอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเฉพาะช่วง กม. 21+200 – 21+800 ซึ่งเป็นช่วงที่มีผิวจราจร 6 ช่องจราจร โดยไม่มีเกาะยกระดับกลางถนนและระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ทำให้ผู้ที่ใช้เส้นทางดังกล่าวที่ไม่มีวินัย เลี้ยวกลับรถในช่วงทางดังกล่าวทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง บางครั้งสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน และช่วง กม. 21+800 – 23+000       ขอความอนุเคราะห์ขยายผิวจราจรจากเดิม 2 ช่องจราจร เป็น                                             ผิวจราจร 4 ช่องจราจร พร้อมวางท่อระบายน้ำทิ้ง 2 ข้างทาง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีท่อระบายน้ำทิ้งทำให้น้ำท่วมขังบริเวณดังกล่าวทั้งในช่วงฤดูฝนและไม่ใช่ฤดูฝน
 

4.โครงการก่อสร้างขยายทาง ถนนทางหลวงแผ่นดิน 2167 สายอำเภอปรางค์กู่ – อำเภอสำโรงทาบ มีสภาพสายเดิมเป็นผิวจราจรลาดยาง ขนาด 2 ช่องจราจร และเป็นเส้นทางการสัญจรของประชาชนโดยมีเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดสุรินทร์และเป็นเส้นทางในการขนส่งผลผลิตทางการเกษตรของพี่น้องเกษตรในพื้นที่ ประกอบทั้งเป็นเส้นทางสำคัญที่ถือว่าเป็นประตู่เข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวของอำเภอปรางค์กู่ ซึ่งถือเป็น     ดินแด่นแห่งอารยธรรมโบราณ อันประกอบไปด้วย ปราสาทปรางค์กู่ ที่เป็นโบราณสถานที่       ชาวอำเภอปรางค์กู่และจังหวัดศรีสะเกษ มีความภาคภูมิใจ ที่จะประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ชาวกูย ซึ่งเป็นสถานที่ ที่ได้รวบรวมโบราณวัตถุ เก่าแก่ที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ มารวบรวมไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ซึ่งสถานที่  ที่ได้นำเรียนในเบื้องต้นจะเป็นปัจจัยในการส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวการคมนาคม และการขนส่งของจังหวัดศรีสะเกษ ต่อไป

”ประชาชนชาวอำเภอปรางค์กู่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าปัญหาและความเดือดร้อนของพี่น้องชาวอำเภอปรางค์กู่ที่ได้นำเสนอในวันนี้ จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันและเป็นจุดเริ่มต้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาให้เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป” นายกเทศมนตรี
ตำบลปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ กล่าว

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ ด้านน้ำทุกระบบโดยตรง วันนี้ได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่มีปัญหาเรื่องน้ำแล้ว และ ได้แนะนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถึงขั้นตอนในการประสานงานการของบประมาณเงินอุดหนุน จะต้องมีขบวนการขั้นตอนในการทำโครงการ และผ่านขั้นตอนต่างๆ และท้ายสุดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ช่วยผลักดันในสภา และมาวันนี้ืท่านก็รับทราบถึงปัญหาของ อำเภอปรางค์กู่ และจะได้นำปัญหา ไปตรวจสอบและ หาแนวทางแก้ไข ต่อไป

ขณะที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในวันนี้ ได้มารับทราบถึงปัญหาการคมนาคมในพื้นที่ อำเภอปรางค์กู่ ซึ่งถือว่ามีปัญหาตามข้อร้องเรียนจริง ซึ่งท่านได้รับทราบและจะประสานให้หน่วยงานของกระทรวงคมนาคม เร่งสนับสนุนโครงการถนนในอำเภอปรางค์กู่ เพื่อเชื่อมเครือข่ายถนน สร้างความเจริญให้กับจังหวัดศรีสะเกษ ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น