กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ยังเดือดร้อนจากโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ เหตุงานก่อสร้างล่าช้า สร้างปัญหารอบด้าน เจ๊งระนาว ขณะที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดแจงที่ผ่านมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ยืนยันผู้รับเหมาไม่ทิ้งงาน
จากกรณีตัวแทนชาวบ้านหัวโนนโก เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เรียกร้องผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก บรรเทาปัญหาน้ำท่วมชุมชนเมืองกาฬสินธุ์ เร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ หลังจากได้รับผลกระทบหนัก และเผชิญกับปัญหามากว่า 3 ปี เหตุผู้รับเหมาทำงานทิ้งงาน ปล่อยชาวบ้านทนทุกข์ทรมาน จนต้องเขียนป้ายประจาน ข้อความ “ถนนสายอัปยศ ชั่วโคตรที่ 7...ไม่รู้จะเสร็จหรือเปล่า” และ “หนูเดือดร้อนนะเนี่ย...เมื่อไหร่จะทำให้เสร็จๆ บ้านร้าว ดินทรุด ฝุ่น...มลพิษ # กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย (โครงการสร้างระบบระบายน้ำ 7 ชั่วโคตร) ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (2 พ.ย.) นายวิจิตร งามชื่น โยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะกรรมการตรวจรับงานโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า รับทราบปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น ซึ่งได้ประสานงานกับผู้รับเหมาตลอด ขณะเดียวกันยังได้ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้าน แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ล่าสุดเร่งปิดฝาท่อ ซ่อมกำแพง แก้ปัญหาให้ชาวบ้าน ผู้ใช้รถใช้ถนน
โครงการดังกล่าวกรมโยธาธิการฯ ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 148,200,000 บาท ถือเป็นโครงการใหญ่ เป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษ เป็นคู่สัญญากับกรมโยธาธิการฯ เริ่มทำสัญญาก่อสร้าง 12 เม.ย. 62 กำหนดในสัญญาแล้วเสร็จ 26 มิ.ย. 64 แต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 และผู้รับจ้างประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง จึงทำให้งานก่อสร้างล่าช้า
โครงการดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือผ่อนผันให้คิดค่าปรับในอัตราร้อยละ 0 แผนงานได้รับการขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไปถึงเดือน ก.พ. 68 กรมโยธาธิการฯ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงผู้รับจ้าง และได้เร่งรัด ให้ผู้รับจ้างทำงานโดยเร่งด่วน ให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดและแล้วเสร็จโดยเร็ว ขณะนี้ผู้รับจ้างได้แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยปิดฝาท่อระบายน้ำทั้งหมดแล้ว พร้อมซ่อมแซมกำแพงบ้านที่เสียหายจากการก่อสร้างเสร็จ 5 หลัง อยู่ระหว่างซ่อมแซม 2 หลัง สิ้นฤดูฝน ผู้รับเหมาจะเข้ามาทำงานต่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ตามปกติโดยเร็ว
ด้านนายเศรษฐชัย ธารชัย อายุ 46 ปี ตัวแทนชาวบ้านที่เดือดร้อน กล่าวว่า หลังทราบสาเหตุปัญหา ถ้าเป็นในกรณีโรคระบาดโควิด-19 ชาวบ้านพอรับฟังได้ แต่ถ้าอ้างว่าผู้เหมาขาดสภาพคล่อง ชาวบ้านไม่เชื่อและรับไม่ได้ เพราะเมื่อเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ “ชั้นพิเศษ” ต้องมีความพร้อมทุกด้าน ถ้าไม่พร้อมจะมารับงานนี้ทำไม ชาวบ้านเดือดร้อนสะสมกว่า 3 ปีมาแล้ว ทุกวันนี้ชาวบ้านโดยเฉพาะผู้สูงอายุ อยู่กันอย่างอมทุกข์ทั้งร่างกายและจิตใจ
เมื่อรู้ว่าผู้รับเหมารายนี้ขาดสภาพคล่อง อยากจะถามกรมโยธาฯ ว่าทำไมไม่หาคนอื่นมาทำแทน มีหลักการอย่างไรจึงยังให้ผู้รับเหมารายนี้ทำต่อไป และมั่นใจแค่ไหนว่าจะไม่เกิดปัญหา สร้างความเดือดร้อนอีก ที่ผ่านมาไม่มีการติดตั้งสัญญาณใดๆ ทั้งป้ายบอกโครงการ ป้ายไฟ สัญญาณจราจรอื่นๆ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทางกรมโยธาฯ เปลี่ยนตัวผู้รับเหมาจะดีกว่า เพื่อสร้างความมั่นใจให้ชาวบ้าน
ขณะที่นายโกสินทร์ กล้าขยัน อายุ 41 ปี ตัวแทนชาวบ้านอีกรายที่ได้รับผลกระทบกล่าวว่า ตามที่ทราบผู้รับเหมาโครงการนี้คือห้างหุ้นส่วนจำกัด ประชาพัฒน์ ที่ผ่านมาทำงานไม่ต่อเนื่อง เกิดปัญหาต่อการจราจร การดำเนินชีวิต การค้าขาย ของชาวบ้านตามแนวสองฝั่งถนนมาก เจ้าของบ้านเช่า ร้านอาหารบางคนถึงกับจะคิดสั้นฆ่าตัวตายกิจการเจ๊ง ไม่มีเงินชำระหนี้ธนาคาร วันที่มีฝนตกน้ำท่วมสูง วันที่ฝนไม่ตกเกิดฝุ่นละออง อุบัติเหตุ สารพัดปัญหาที่รุมเร้า ทำให้การดำเนินชีวิตลำบากมาก
ปัญหาที่เกิดขึ้น ที่ชาวบ้านรับรู้กันคือผู้รับเหมาที่มารับช่วงทิ้งงาน และมีการขายงานเป็นทอดๆ การก่อสร้างจึงสะดุด ยังดีที่มีเจ้าหน้าที่โยธาการ จ.กาฬสินธุ์ออกมาสอดส่องดูแล คอยประสานงานให้ผู้รับเหมา เข้ามาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ หากจะดีที่สุด ให้รีบก่อสร้างให้เสร็จ