กกร.เล่นไม้แข็ง ขึ้นบัญชีคุมน้ำตาลทราย กำหนดราคาขายหน้าโรงงานและราคาขายปลีกเหมือนเดิม หลัง สอน. ประกาศให้ขึ้น พร้อมคุมเข้มส่งออกเกิน 1,000 กิโลกรัมต้องขออนุญาต ยันจำเป็นต้องดูแลผู้บริโภค และป้องกันสินค้าขึ้นราคา ส่วนเกษตรกรไม่ได้รับผลกระทบ อุตสาหกรรมจะมีมาตรการดูแล ชง ครม. 31 ต.ค. ก่อนประกาศลงราชกิจจานุเบกษาบังคับใช้ทันที
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า ได้เรียกประชุมคณะกรรมการชุดนี้เป็นการเร่งด่วน และได้พิจารณากำหนดให้สินค้าน้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุมตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 เพื่อป้องกันผลกระทบต่อประชาชน และทุกภาคส่วนที่ใช้น้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบ ทั้งสินค้ากลุ่มอาหารกระป๋อง เครื่องดื่ม ขนมหวาน ที่อาจจะมีการปรับขึ้นราคา หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานใหม่ โดยน้ำตาลทรายขาวจากเดิมกิโลกรัม (กก.) ละ 19 บาท เป็นราคา กก.ละ 23 บาท น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จากเดิม กก.ละ 20 บาท เป็น กก.ละ 24 บาท ส่วนผลให้ราคาจำหน่ายปลีกน้ำตาลทรายขาว เพิ่มจาก กก.ละ 23 บาท เป็น กก.ละ 28 บาท และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ จาก กก.ละ 24 บาท เป็น กก.ละ 29 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หลังจากกำหนดให้เป็นสินค้าควบคุมแล้ว ได้กำหนดมาตรการกำกับดูแล 2 มาตรการ คือ 1. กำหนดราคาจำหน่ายหน้าโรงงานที่ กก.ละ 19 บาท สำหรับน้ำตาลทรายขาว และ กก.ละ 20 บาท สำหรับน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ และควบคุมราคาจำหน่ายปลีก กก.ละ 24 บาท สำหรับน้ำตาลทรายขาว และ กก.ละ 25 บาท สำหรับน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ ซึ่งเท่ากับว่าน้ำตาลทรายจะยังคงจำหน่ายในราคาเดิม ไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด ส่วนจังหวัดอื่นๆ ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล จะมีการกำหนดราคาตามระยะทางและต้นทุนการขนส่งต่อไป
2. ควบคุมการส่งออกตั้งแต่ 1 ตัน หรือ 1,000 กก.ขึ้นไป โดยต้องขออนุญาตจากคณะอนุกรรมการที่จะจัดตั้งขึ้น มีเลขาธิการ สอน.เป็นประธาน มีรองอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นรองประธาน มีตัวแทนจาก สอน.เป็นเลขานุการ และตัวแทนกรมการค้าภายในเป็นผู้ช่วยเลขานุการ ซึ่งจะทำหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการกำกับดูแลต่อไป เพื่อให้น้ำตาลทรายมีเพียงพอใช้ในประเทศ และไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำตาลทรายของไทย
“การนำน้ำตาลทรายกลับมาเป็นสินค้าควบคุม เพื่อให้สามารถบริหารจัดการได้ เพราะกระทรวงพาณิชย์มีความห่วงใยประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ และปัจจุบันมีความยากลำบากอยู่แล้ว และยังกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตอีกเป็นจำนวนมาก จึงต้องเข้ามากำกับดูแล โดยราคาให้ยึดที่ กกร.ประกาศ ส่วนที่ สอน.ประกาศก็ไม่มีผล และให้กลับไปทำให้สอดคล้องกับมติ กกร. ซึ่งจะนำมติ กกร.เสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 31 ต.ค. 2566 และประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เพื่อบังคับใช้ทันที” นายภูมิธรรมกล่าว
สำหรับการดูแลเกษตรกรชาวไร่อ้อย ยืนยันว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ ยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ตามเดิม โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นผู้เข้าไปดูแล และรัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ส่วนผู้ประกอบการ หรือร้านค้า ขอให้จำหน่ายสินค้าในราคาเดิม เพราะน้ำตาลทรายไม่มีการปรับขึ้นราคาแล้ว หากมีการขายเกินราคาควบคุม จะมีความผิด มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีกักตุน จะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยประชาชนหากพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมให้ร้องเรียนสายด่วน 1569 จะเข้าไปตรวจสอบและจัดการให้