“พาณิชย์” ชง นบข. 1 พ.ย.นี้ไฟเขียว 4 มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปี 66/67 วงเงิน 69,043.03 ล้านบาท ตั้งเป้าดูดซับข้าวปริมาณรวม 14 ล้านตัน ทั้งให้สินเชื่อชะลอการขาย สินเชื่อรวบรวมข้าว ชดเชยดอกเบี้ยเก็บสต๊อก และจ่ายไร่ละ 1,000 บาท ให้เกษตรกร 4.68 ล้านครัวเรือน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ว่า ได้แจ้งเกษตรกรว่ากระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกปี 2566/67 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ได้มีการหารือร่วมกับเกษตรกร โรงสี และผู้ส่งออก โดยมีจำนวน 4 มาตรการที่จะนำมาใช้ดูแลผลผลิตข้าวที่กำลังจะออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือน พ.ย. 2566 เป็นต้นไป มีวงเงินที่จะนำมาใช้รวม 69,043.03 ล้านบาท และจะนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาในวันที่ 1 พ.ย. 2566
สำหรับ 4 มาตรการ ประกอบด้วย 1. สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี เป้าหมาย 3 ล้านตัน วงเงิน 10,120.71 ล้านบาท โดยช่วยค่าฝาก 1,500 บาท/ตัน ในกรณีเข้าร่วมกับสหกรณ์ สหกรณ์รับ 1,000 บาท/ตัน เกษตรกรรับ 500 บาท/ตัน เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง 1-5 เดือน เริ่ม 1 ต.ค. 2566-29 ก.พ. 2567 และเกษตรกรสามารถนำข้าวไปขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยข้าวหอมมะลิตันละ 12,000 บาท ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ตันละ 10,500 ล้านบาท ข้าวหอมปทุมธานีตันละ 10,000 บาท ข้าวเจ้าตันละ 9,000 บาท และข้าวเหนียวตันละ 10,000 บาท หากข้าวราคาขึ้น เกษตรกรสามารถไปไถ่ถอนออกมา เพื่อนำมาจำหน่ายได้
2. สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร เป้าหมาย 1 ล้านตัน วงเงิน 481.25 ล้านบาท โดยสหกรณ์จ่ายดอกเบี้ย 1% รัฐช่วยดอกเบี้ย 3.85% ระยะเวลา 15 เดือน ระยะเวลาการจ่ายสินเชื่อ 1 ต.ค. 2566-30 ก.ย. 2567
3. ชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการเก็บสต๊อก เป้าหมาย 10 ล้านตัน วงเงิน 2,120 ล้านบาท โดยรัฐช่วยดอกเบี้ย 4% เก็บสต๊อก 2-6 เดือน ระยะเวลารับซื้อ 1 พ.ย. 2566-31 มี.ค. 2567
4. การสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำนวน 4.68 ล้านครัวเรือน ช่วยไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือครัวเรือนละ 20,000 บาท วงเงิน 56,321.07 ล้านบาท
“ทั้ง 4 มาตรการนี้ถือเป็นมาตรการเร่งด่วน ที่จะนำมาใช้ในการดูแลราคาข้าว เพราะรัฐบาลไม่มีนโยบายจำนำข้าว และประกันรายได้ โดยมั่นใจว่าจะสามารถดูแลราคาข้าวเปลือกให้เกษตรกรได้ และวงเงินที่นำมาใช้รวม 69,043.03 ล้านบาท ไม่มีปัญหาเรื่องเพดานหนี้ เพราะได้คุยกับกระทรวงการคลังแล้วสามารถดำเนินการได้” นายภูมิธรรมกล่าว