ผู้จัดการรายวัน 360 - ทีเส็บยื่นขอ “งบพิเศษ” เพื่อทำตลาดอย่างหนักช่วงไตรมาสแรกปีงบประมาณ 67 เหตุยังมีปัจจัยลบหวั่นกระทบการดำเนินงาน แต่มั่นใจสิ้นปีงบ 67 จะมีรวมทั้งสิ้น 23.2 ล้านคน ทำรายได้ 1.4 แสนล้านบาท
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยว่า ทางทีเส็บได้ยื่นเรื่องไปทางรัฐบาล เพื่อขออนุมัติงบประมาณการตลาดพิเศษหรืองบเอ็กซ์ตราที่ไม่เกี่ยวกับงบประมาณประจำปี 2567 เพื่อนำมาใช้ในการทำตลาดและกระตุ้นตลาดของทีเส็บ ในช่วงไตรมาสแรกปีงบประมาณนี้ (1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2567) โดยจะต้องทำตลาดเต็มที่กับการโรดโชว์ในพื้นที่ใหม่มากขี้น
เนื่องจากขณะนี้ยังมีปัจจัยลบหลายประการที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของทีเส็บ โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศที่จะเข้ามาในไทย แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะดีขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังมีปัจจัยลบอื่นอีก เช่น สงครามระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่รุนแรงขึ้น สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยังไม่จบลง เที่ยวบินของสายการบินหลายแห่งยังไม่กลับมาบริการเท่าเดิม
รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ ในระยะยาว เช่น การที่อุตสาหกรรมไมซ์ทั่วโลกต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญ ทั้งในเรื่องของการเดินทางธุรกิจจะลดลง ช่วงการเดินทางเพื่อร่วมงานไมซ์จะสั้นลง และความต้องการเปลี่ยนไป เช่น นวัตกรรมไมซ์ แหล่งประชุมใหม่ ประสบการณ์ใหม่ เป้าหมายทางธุรกิจใหม่ และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ทีเส็บได้กำหนดแนวทางในอนาคตพุ่งเป้าพัฒนาประเทศไทยไปสู่การเป็นแหล่งประชุมที่ให้มูลค่าและคุณค่าสูง (High Value-Added Destination) และสร้างกลยุทธ์ใหม่ โดยผสมผสานอัตลักษณ์ความเป็นไทย ผ่านการใช้นวัตกรรม/ความคิดสร้างสรรค์และกระชับการทำงานร่วมกับภาคีทุกภาคส่วน
สำหรับการดำเนินงานในปี 2567 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเป้าหมาย Springboard of Asia’s Growth นั้น ทีเส็บจะผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. งานเทศกาลนานาชาติ (Festival) 2. การแสดงสินค้านานาชาติ 3. ตลาดไมซ์ในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2567 นี้ทีเส็บตั้งเป้าหมายไว้ว่าประเทศไทยจะมีนักเดินทางไมซ์รวมทั้งสิ้น 23.2 ล้านคน ทำรายได้ 1.4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 9.6 แสนคน รายได้ 6.3 หมื่นล้านบาท และตลาดในประเทศ 22.2 ล้านคน รายได้ 7.3 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ปีงบประมาณ 2566 ที่เพิ่งจบไปนั้น ตัวเลขล่าสุดทางการรวม 3 ไตรมาสเท่านั้น (ตุลาคม 2565-มิถุนายน 2566) ระบุว่ามีนักเดินทางไมซ์รวมทั้งสิ้น 13,102,903 คน สร้างรายได้รวม 58,357 ล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดต่างประเทศ จำนวน 440,946 คน ทำรายได้ 26,274 ล้านบาท และตลาดไมซ์ในประเทศ จำนวน 12,661,957 คน สร้างรายได้ 32,083 ล้านบาท