xs
xsm
sm
md
lg

บริษัทตั้งใหม่ ก.ย. 66 7,107 ราย รวม 9 เดือน 68,665 ราย ทำสถิติสูงสุด 10 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยบริษัทจัดตั้งใหม่ ก.ย. 66 มีจำนวน 7,107 ราย ลด 1.55% เหตุเป็นไปตามฤดูกาลที่จะจัดตั้งสูงในช่วงต้นปีและลดลงในช่วงปลายปี ส่วนยอดเลิกมีจำนวน 2,039 ราย เพิ่ม 4.78% รวม 9 เดือนตั้งใหม่ 68,665 ราย เพิ่ม 12.94% สูงสุดรอบ 10 ปี และเลิก 13,010 ราย เพิ่ม 13.74% ชี้รอบ 9 เดือน ธุรกิจเกี่ยวเนื่องท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งแลกเปลี่ยนเงินตรา ตัวแทนการเดินทาง นำเที่ยว ภัตตาคาร ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ต และห้องชุด

นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือน ก.ย. 2566 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศจำนวน 7,107 ราย ลดลง 4.27% เมื่อเทียบกับ ส.ค. 2566 และลดลง 1.55% เมื่อเทียบกับ ก.ย. 2565 เนื่องจากเป็นไปตามฤดูกาลของการจดทะเบียนที่จะมีแนวโน้มการจดจัดตั้งสูงในช่วงต้นปีและลดลงในช่วงปลายปี มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 24,170.64 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 2,039 ราย เทียบกับ ส.ค. 2566 เพิ่ม 7.50% เทียบกับ ก.ย. 2565 เพิ่ม 4.78% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ 17,229.98 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร

สำหรับการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่รวม 9 เดือน ปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) มีจำนวน 68,665 ราย เพิ่มขึ้น 12.94% โดยเป็นจำนวนการจัดตั้งใหม่รวมสูงสุดในรอบ 10 ปี และจดทะเบียนเลิก จำนวน 13,010 ราย เพิ่มขึ้น 13.74%

นายจิตรกรกล่าวว่า ปัจจัยที่สนับสนุนการจดทะเบียนธุรกิจให้เติบโตสูงขึ้นยังคงมาจากภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในช่วง 9 เดือน ของปี 2566 มีการจัดตั้ง้ใหม่เพิ่มขึ้นถึง 54.32% เช่น ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพิ่ม 185% ธุรกิจตัวแทนการเดินทาง เพิ่ม 116% ธุรกิจจัดนำเที่ยว เพิ่ม 83.65% ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร เพิ่ม 41.74% และธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต และห้องชุด เพิ่ม 35.75% มีสัดส่วนคิดเป็น 8.01% ของจำนวนธุรกิจที่จัดตั้งทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจน่าจับตามองที่เติบโตกว่า 150% เช่น ธุรกิจขายส่งข้าวเปลือกและธัญพืช เพิ่ม 169% คาดว่าเป็นผลมาจากนโยบาย BCG Model ที่ส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตข้าวรักษ์โลก และธุรกิจกิจกรรมบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง เพิ่ม 165% คาดว่าเป็นผลมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กลับมาเติบโต

ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น กรมได้คาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ประมาณ 32,000-39,000 ราย และตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 79,000-86,000 ราย

ปัจจุบันมีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น ณ วันที่ 30 ก.ย. 2566 จำนวน 885,521 ราย มูลค่าทุน 21.50 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 200,156 ราย คิดเป็น 22.60% บริษัทจำกัด จำนวน 683,936 ราย คิดเป็น 77.24% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,429 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ


กำลังโหลดความคิดเห็น