ผู้จัดการรายวัน 360 – เครื่องดื่ม เอส รุกหนักปี2567 หลังแคมเปญest Cola “Born to be Awesome” อัพเลเวลแบรนด์ครั้งใหญ่ ดันยอดขายพุ่ง23% แชร์เพิ่มเป็น 9.1% ขณะที่ตลาดรวมน้ำอัดลมโตน้อยกว่าที่ 16% แต่ก็โตมากกว่าปีที่แล้วที่โตเพียง 1.8% เท่านั้น
นางสาวสุภรณ์ เด่นไพศาล ผู้อำนวยการสำนักการตลาด สายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ประเทศไทย บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด ในเครือไทยเบฟ กล่าวว่า ในปีงบประมาณหน้า(2567) ของบริษัทฯ(ตุลาคม2566-กันยายน2567ยังคงเดินหน้ารุกตลาดอย่างหนักต่อเนื่อง ด้วยงบตลาดรวมมากกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งปีหน้าถือว่าเป็นปีที่ท้าทายอีกครั้งของแบรนด์เอส (EST ) ซึ่งในประเทศไทยเรามีแผนที่จะขยายตลาดในภาคอีสานให้มากขึ้นซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ จากฐานตลาดหลักของเอสจะอยู่ในกรุงเทพ ปริมณฑลและภาคกลาง การขยายกลุ่มเจนแซด(GEN Z) ให้ชัดเจนมากขึ้น
ส่วนในต่างประเทศนั้น มีแผนที่จะรุกเข้าสู่ตลาดซีแอลเอ็มวีและอาเซียน ขณะนี้ได้เริ่มทำตลาดบ้างแล้วเช่น ที่จีนจำหน่ายผ่านทางตัวแทนจัดจำหน่าย, ที่มาเลเซีย มีการจำหน่ายแล้วโดยใช้ฐานการผลิตของเอฟแอนด์เอ็ม และที่แบรนด์เอสสนใจจะเปิดตลาดใหม่คือ กัมพูชา ลาว เป็นต้น
หลังจากที่ปีนี้ได้เริ่มทำการอัพเลเวลแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ10ปีด้วยแคมเปญ est Cola “Born to be Awesome” เพื่อสร้างความแตกต่างให้แบรนด์ ด้วยการปรับสูตร-ปรับโฉม และการตลาด รวมทั้งดึงไอคอนตัวแทนคนรุ่นใหม่ชาวเอเชียทั้ง “ชาอึนอู” “โบกี้ไลออน” “วง Yes Indeed” และ “3 สาวนักวอลเลย์บอลนิวเจน”มาทำตลาดร่วม 6 เดือน ที่เอสประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ทำให้เป็นฐานตลาดที่ต้องรุกหนักในปี2567
นางสาวสุภรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับตลาดรวมน้ำอัดลมในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (กันยายน2565-สิงหาคม2566) เติบโตมากถึง 16% ด้วยมูลค่าตลาดรวม 62,000 ล้านบาท (สิงหาคม2566) แบ่งสัดส่วนเป็นน้ำดำ75% และน้ำสี 25% จากเดิมรอบก่อนหน้านี้เติบโตเพียง 1.8% เท่านั้น ถือว่าเติบโตมากสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา จากก่อนโควิดตลาดรวมมีมูลค่า ประมาณ 50,000 ล้านบาท
โดยตลาดรวมน้ำอัดลมเติบโตมากในกลุ่มเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ เป็นอันดับที่สองรองจากตลาดรวมชาเขียวพร้อมดื่มที่โต 20% และตลาดรวมน้ำเปล่าโตกว่า 10%
ขณะที่ เครื่องดื่มแบรนด์ เอส ของบริษัทฯ เติบโตมากถึง 23% มากกว่าตลาดรวมและโตมากสุดตั้งแต่วางตลาดมาเกือบ10ปี ส่วนแบ่งการตลาดของเอสเพิ่มจาก 7% เป็น 9.1% โดยที่ผู้นำตลาดน้ำอัดลมมีแชร์มากถึง 54% และแบรนด์อันดับสองมีแชร์ 30% อีกทั้งยังสามารถขยายจุดจำหน่ายจากเดิม 75,000 จุด เพิ่มเป็น 100,000 จุดจำหน่ายทั่วประเทศ ทั้งช่องทาง เทรดดิชันนัลเทรด โมเดิร์นเทรด และเอฟเอสอาร์( Food Shop Restaurante)
ปัจจุบัน เอสสามารถเจาะตลาดวัยรุ่น Gen Zซึ่งมีสัดส่วนถึง 40% จากพอร์ตโฟลิโอของเอส โดยพบว่า 91% ของผู้ร่วมโหวตกว่า 100,000 คน จากแคมเปญดังกล่าวชื่นชอบสูตรใหม่ของ เอส โคล่า เป็นแบรนด์ที่อยูู่่ในใจจาก 19% เพิ่มเป็น 50% เป็นแบรนด์ที่ลองดื่มแล้วจะซื้อดื่มมากขึ้นจาก 13% เป็น39%
สาเหตุที่ตลาดรวมโตและเอสโตมากนั้น เป็นผลมาจากการที่ตลาดเริ่มกลับมาสู่ภาวะปรกติมากขึ้น คนกลับมานั่งทานอาหารในร้านมากขึ้น นักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น การทำตลาดและแคมเปญต่างๆจากผู้ประกอบการกระตุ้นตลาดมากขึ้น อากาศร้อนมาก
“ตลาดรวมน้ำอัดลมในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้ไอ้อีกมากเช่นกัน ยังมีช่อทางร้านค้าจำหน่ายอีกมากกว่า 2 แสนร้านค้าที่เรายังคงเข้าไม่ครบ ขณะที่่อัตราการบริโภคน้ำอัดลมของคนไทยมีเพียง 37.5 ลิตรต่อคนต่อปีเท่านั้น ยังมีโอกาสดื่มได้อีกมาก จากปริมาณรวมที่มี 2,100 ล้านลิตรต่อคนต่อปี” นางสาวสุภรณ์ กล่าว
ล่าสุด เอส ใช้งบประมาณ 80 ล้านบาท กับแคมเปญล่าสุดต่อยอดความแรง ชูกลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้งคอนเนค Gen Z จับมือพันธมิตรความซ่าทางดนตรีชั้นนำ “เอไทม์” และ “จีเอ็มเอ็มโชว์” จัดเต็ม 2 กิจกรรมทางดนตรีหลากหลายแนวให้ Gen Z ที่มีแพชชั่นด้านดนตรีรวมตัวมาปล่อยความซ่า...กล้าเป็นตัวเอง กับการกลับมาของเวทีประกวดดนตรีในตำนาน est Cola Presents Hotwave Music Awards 2023 รวมถึงการสนับสนุนเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมืองกรุงเทพฯ est Cola Presents Monster Music Festival 2023 พร้อมปล่อยแคมเปญ “เอส โคล่า ชวนเจนซ่า…ปล่อยมอนสเตอร์ในตัว” กับหลากหลายกิจกรรมทางการตลาดแบบ 360 องศา ทั้งออนไลน์และออนกราวด์ รวมทั้งเปิดตัวบรรจุภัณฑ์กระป๋อง est Cola Awesome Monster ดีไซน์สุดออซั่มที่นำคาแรคเตอร์มอนสเตอร์ทั้ง 8 ลาย จาก Monster Music Festival มาดีไซน์พิเศษให้แฟนๆ เอส โคล่าสะสม พร้อมหลากหลายของพรีเมียมในคอลเลกชัน est Cola Monster edition ได้ตลอดเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2566