xs
xsm
sm
md
lg

“เศรษฐา”รับข้อเสนอ"ส.อ.ท."เร่งขับเคลื่อนศก.ห่วงแล้งฝากดูเรื่องน้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ ( 6 ตุลาคม 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เดินทางมาร่วมหารือกับทีมผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) นำโดยนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานส.อ.ท. เพื่อผลักดันแนวทางการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยภาพรวม จากนั้นได้ยื่นหนังสือซึ่งเป็นข้อเสนอแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยที่มีเป้าหมายการพัฒนา 3 ด้านและมีแนวทางหลักๆ ใน 8 ข้อ

นายเกรียงไกร กล่าวหลังการหารือว่า นายกรัฐมนตรีได้รับข้อเสนอของภาคเอกชนโดยจะจัดตั้งทีมงานเพื่อมาทำงานร่วมกับส.อ.ท.อย่างใกล้ชิดโดยได้ขอให้ทางส.อ.ท.จัดทำแผนการดำเนินงาน หรือAction Plan ที่เป็นแนวทางการการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยระยะสั้น กลาง และยาว ในการนำมาเสนออีกครั้งโดยส.อ.ท.จะเร่งจัดทำให้เสร็จเร็วสุดภายใน 1-2 สัปดาห์ในการเสนอต่อไป

“ ข้อเสนอที่เราจัดทำไว้แล้วนั้นก็คงนำมาสรุปย่อยให้ตรงเป้าหมายมากขึ้นและกำหนดระยะเร่งด่วน กลาง ยาว ซึ่งทางนายกฯเองท่านทำงานเร็วก็ถือว่าเป็น Speed เดียวกับเอกชน เราก็จะทำและหาโอกาสในการหารืออีกครั้งให้เร็วสุด”นายเกรียงไกรกล่าว

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้ฝากการบ้านเรื่องการบริหารจัดการน้ำที่อยากให้ช่วยกันแก้ไขโดยจัดทำAction Plan เพราะขณะนี้ต้องยอมรับว่าปรากฏการณ์เอญนีโญมีจะมีผลต่อภัยแล้งในเดือนเม.ย. 67 ที่จำเป็นต้องเร่งแก้ไขทั้งระยะสั้น กลางและยาวเอาไว้เพื่อไม่ให้กระทบต่อทุกภาคส่วนทั้งภาคการผลิต การลงทุนโดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี และภาคการเกษตรซึ่งปัญหาดังกล่าวทำให้เกิดความไม่มั่นคงด้านอาหาร ที่ล่าสุด อินเดียมีการงดส่งออกข้าว หากไทยเตรียมรับมือก็จะทำให้เกิดโอกาสในการส่งออก


นอกจากนี้นายกฯได้ยืนยันจะสนับสนุนการผลิตรถยนต์สันดาปภายใน(ICE) ควบคู่ไปกับการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า(EV) เพื่อความสมดุลซึ่งระบุว่าจะเป็น The last man standing คือเป็นประเทศสุดท้ายในการยกเลิกการใช้ โดยจะไม่มีการหักดิบเพราะการลงทุนยานยนต์ชนิด ICE เป็นอุตสาหกรรมดั้งเดิมที่มีศักยภาพของไทยและก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 6 แสนคนจึงมีระยะเวลาที่จะเปลี่ยนผ่านได้มากขึ้นเพราะขณะนี้น้ำมันเชื้อเพลิงไทยก็มีมีมาตรฐานสูงเช่น ยูโร 6 ก็จะลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน

“ ท่านยืนยันว่าให้ความสำคัญกับการเจรจาทำข้อตกลง FTA กับประเทศต่างๆ มากขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการค้าของไทยจึงไม่ต้องกังวล และเราเองก็ได้เสนอให้มีการหารือในเวทีคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.)ใหญ่หลังจากที่ไม่มีการหารือเลยมา5-6 ปีท่านก็รับปากไว้ว่าจะหาเวลาในการร่วมประชุม รวมถึงการเร่งการดึงการลงทุนหรือการย้ายฐานในอุตสาหกรรมเป้าหมายมากขึ้น”นายเกรียงไกรกล่าว


ทั้งนี้ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงส.อ.ท.ยังคงเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมไทย และพยายามดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายสู่ความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นเรื่องของคลีน (Clean) กรีน (Green) และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จึงได้เสนอแนะ 8 ข้อหลัก จาก 70 ข้อ โดยมุ่งเน้นการพัฒนา 3 ด้าน คือ การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน การขับเคลื่อน GDP ให้เติบโตมากขึ้น และความยั่งยืน ทั้งเรื่องการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาเศรษฐกิจแบบ BCG   

 โดยมี 8 หัวข้อย่อยได้แก่ 1. การปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อส่งเสริม Ease of Doing Business และเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจ 2. การพัฒนาบุคลากร เพิ่มผลิตภาพแรงงาน และแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานทั้งระบบ 3. การบริหารจัดการด้านพลังงานทั้งระบบรองรับการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (Energy Transition)

4. การส่งเสริมการส่งออก การค้า และสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) 5. การยกระดับอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัล 6. การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน (BCG & ESG) การบริหารจัดการทรัพยากรนํ้า และการมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero 7. การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ SMEs 8. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน Logistics และพื้นที่สำหรับอุตสาหกรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น