ผู้จัดการรายวัน 360 - “แอนิเทค” แตกไลน์เพิ่มกลุ่มสินค้าที่ 5 สู่กรีนเทคโนโลยี ประเดิมด้วย "Anitech EV-ONE" เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพกพาเจ้าแรกที่ผลิตในไทย ตั้งเป้าถึงสิ้นปีนี้ยอดขายกว่า 1,000 เครื่อง ดันรายได้ปี 66 แตะ 300 ล้านบาท และปีหน้าขยับเพิ่มเป็น 350 ล้านบาท
นายพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีกลุ่มสินค้าที่จำหน่ายอยู่ 4 กลุ่มหลัก คือ 1. อุปกรณ์เกี่ยวเนื่องทุกอย่างที่ใช้บนโต๊ะทำงาน 2. ปลั๊กไฟ 3. เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กภายในบ้าน และ 4. เพอร์ซันนัลแคร์ ซึ่ง 3 กลุ่มแรกมีสัดส่วนรายได้เท่าๆ กันที่ 30% ขณะที่กลุ่มที่ 4 มีสัดส่วนราว 10% น้อยสุดแต่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง ส่วนสินค้าที่ขายดีที่สุด คือ เมาส์ไวร์เลส และปลั๊กไฟ 4 ช่อง มาพร้อมช่องเสียบ USB
อย่างไรก็ตาม จากที่พบว่าเทรนด์การใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งแบบแบตเตอรี่และแบบปลั๊กอินไฮบริดมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี 2566 มีปริมาณกว่า 15 ล้านคัน และในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นรวมกว่า 17.9 ล้านคันทั่วโลก ขณะที่ประเทศไทยก็มีส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV และ PHEV มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียนกว่า 59.29% จึงเป็นโอกาสและที่มาของการแตกไลน์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอนิเทคในวันนี้
ล่าสุดบริษัทพร้อมเปิดตัวกลุ่มธุรกิจใหม่ลำดับที่ 5 คือ กรีนเทคโนโลยี ด้วยการเปิดตัว Anitech EV-ONE (แอนิเทค อีวี วัน) เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบพกพา จำหน่ายในราคา 12,990 บาท ซึ่งในช่วงพรีออเดอร์จัดโปรโมชันในช่วงแรกนี้ พิเศษสำหรับ 50 ท่านแรกเป็นเจ้าของได้ในราคาเพียง 7,990 บาท พร้อมรับสิทธิ์พิมพ์ชื่อลงบนเครื่องชาร์จฟรี ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่าภายในปี 2566 นี้เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Anitech EV ONE จะสร้างยอดขายได้มากกว่า 1,000 ชิ้น และจะสูงขึ้นในปีต่อๆ ไปตามเทรนด์
ทั้งนี้ Anitech EV ONE เป็นหัวปลั๊กในรูปแบบ Type2 ที่ปรับกำลังไฟฟ้าได้ 4 ระดับตั้งแต่ 16 แอมป์, 13 แอมป์, 10 แอมป์ และ 8 แอมป์ พร้อมกำลังขับ 3.5 กิโลวัตต์ หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 3 นิ้ว ไฟแสดงสถานะแบบ LED พร้อมปุ่มทัชสกรีน มีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP65 ปริมาณกระแสไฟฟ้า Input/ Output : 250 VAC 50 Hz ตัวขาปลั๊กรองรับการใช้งานสำหรับที่อยู่อาศัยในทุกรูปแบบไม่ว่าจะมีการติดตั้งสายดินไว้หรือไม่ก็ตาม อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยโหมดการตั้งเวลาชาร์จ และสายไฟที่มีความยาวถึง 5 เมตร ในด้านระบบการป้องกันครอบคลุมทุกความปลอดภัย ได้แก่ ป้องกันแรงดันไฟฟ้าเกิน, ป้องกันไฟฟ้าไหลเกินกำลัง, ป้องกันแรงดันไฟฟ้าตก, ระบบสายดินป้องกันไฟฟ้ารั่วไหล, ป้องกันอุณหภูมิสูงเกินไป รวมถึงป้องกันฟ้าผ่า ใช้ได้กับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งระบบแบตเตอรี่และระบบปลั๊กอินไฮบริด
”ทีมใช้เวลาในการพัฒนา Anitech EV-ONE ร่วมกับวิศวกรรถยนต์ EV กว่า 1 ปี ด้วยงบประมาณกว่า 5 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในกลุ่มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่คุณภาพสูงและบริการหลังการขายที่เข้าถึงได้ การันตีด้วยความเชี่ยวชาญกว่า 18 ปี ในตลาดอุปกรณ์คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแอนิเทคถือเป็นแบรนด์แรกที่ผลิต Portable EV Charger ในประเทศไทยเป็นเจ้าแรก ด้วยการนำ มอก.11 และ มอก.166 มาใช้กับผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้แก่ผู้บริโภค และยังรับประกันสินค้า 1 ปี วงเงินการรับประกันสูงสุดถึง 300,000 บาท พร้อมบริการหลังการขายที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอดอายุการใช้งาน“
นายพิชเยนทร์กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทมีเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากมาย รวมกว่า 150 รายการ รวมแล้วปีนี้มีสินค้าวางจำหน่ายในตลาดมากกว่า 1,000 รายการ ซึ่งในปีหน้าบริษัทมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่มีสินค้าหลากหลายตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกมิติผ่านผลิตภัณฑ์ โดยคาดว่าจะเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 200 รายการ ส่งผลให้แอนิเทคมีสินค้ารวมกันมากกว่า 1,200 รายการ ที่สำคัญ บริษัทพร้อมเดินหน้าสู่อุตสาหกรรม Green Technology ที่กำลังเป็นเทรนด์ของโลกยุคใหม่และมีผลกระทบต่อคนทั่วโลก โดยจะมีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ Green Technology ตามมาอีกมากมาย ตัวอย่างเช่น Anitech EV-ONE V2L ที่คาดว่าจะเปิดตัวต้นปีหน้า
ขณะที่ภาพรวมรายได้ในปีนี้คาดว่าจะทำได้ 300 ล้านบาท ไม่รวมกับยอดขาย Anitech EV-ONE แต่ในปีหน้าหลังจากรุกกลุ่มกรีนเทคโนโลยีแล้ว คาดว่าจะผลักดันให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาทได้
