ผู้จัดการรายวัน 360 - ”อาร์เซลิก ฮิตาชิ“ ปักธงไทยฐานกำลังการผลิตใหญ่สุดในโลก ย้ำชัดลงทุนต่อเนื่องแม้ไทยเตรียมปรับค่าแรง ล่าสุดเปิดเกมบุกปี 66 ด้วยโกลบอลแคมเปญ "The Art of Ease" เข้าถึงทุกเจนผ่านศิลปะการใช้ชีวิตเรียบง่าย ชู 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่นำทัพ คือ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องดูดฝุ่น เชื่อใน2-3 ปีจากนี้รายได้จะดีขึ้น
นายซาแฟร์ อัสทูเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ เปิดเผยว่า หลังร่ยมทุนกันระหว่างบริษัท อาร์เซลิก จำกัด ถือหุ้น 60% กับบริษัท ฮิตาชิ โกลบอล ไลฟ์ โซลูชั่นส์ จำกัด ถือหุ้น 40% เพื่อผลิต จัดจำหน่าย และให้บริการหลังการขาย เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแบรนด์ฮิตาชิทั่วโลก (ภายนอกตลาดญี่ปุ่น) ตั้งแต่มี.ค. 2564 ซึ่งช่วงเวลากว่า 2 ปี ที่ผ่านมานั้น บริษัทมุ่งเน้นศึกษาตลาด ความต้องการของผู้บริโภค และพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำไปสู่การวางกลยุทธ์ และโพซิชั่นนิ่งแบรนด์ใหม่
โดยยังคงให้ความสำคัญในเรื่องการลงทุนต่างๆด้วย เชื่อว่าใน 2-3 ปีจากนี้จะเห็นการเติบโตที่น่าสนใจ ขณะที่ช่วงโควิดที่ผ่านมา ยอดขายอาจจะลดลงตามสถานการณ์ และเริ่มฟื้นคืนกลับมา โดยปีหน้าจะเห็นภาพยอดขายชัดเจนขึ้น
ทั้งนี้บริษัทพร้อมลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง แม้หากไทยจะมีนโยบายปรับค่าแรงขึ้นก็ตาม เพราะหากเราต้องการเติบโตในไทย เราก็ต้องมีการลงทุนต่อไปในอนาคต จากปัจจุบันไทยเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งกำลังการผลิตกว่า 85% ส่งเป็นการส่งออกไป 65 ประเทศทั่วโลก และ 15% สำหรับการขายในประเทศ โดยไทยเป็นตลาดสำคัญรองจากญี่ปุ่น ตามด้วยจีน โดยเฉพาะจีนนั้นมองว่าหากเศรษฐกิจในจีนกลับมาดีขึ้นจะส่งผลต่อภาพรวมยอดขายทั่วโลกด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการที่บริษัทตั้งเป้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ตู้เย็นมัลติ-ดอร์ ไซส์ใหญ่แบบพรีเมียม เครื่องซักผ้าฝาหน้า และเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย รวมถึงขยายหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น เครื่องล้างจาน เครื่องอบผ้า และเครื่องชงกาแฟนั้น ปัจจุบันพบว่า ตู้เย็นมัลติดอร์ ยังอยู่ใน Top 3 ซึ่งแผนการดำเนินงานจากนี้ตั้งเป้าให้สินค้าตัวอื่นๆ ขึ้นมาอยู่ในอันดับ Top 3 ต่อไป
นายซาแฟร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางภูมิทัศน์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา อาร์เซลิก ฮิตาชิ ไม่หยุดนิ่งที่จะขยายฐานการเติบโตทั้งในตลาดเดิม โดยเฉพาะในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และตะวันออกกลาง รวมถึงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยวางกลยุทธ์ใหม่ทางการตลาดที่มุ่งขยายการรับรู้ การเพิ่มคุณค่า และการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ ผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านคุณภาพพรีเมียมที่ช่วยสร้างความภูมิใจให้ลูกค้าเมื่อได้เป็นเจ้าของ
ล่าสุดอาร์เซลิก ฮิตาซิ โฮม พร้อมส่งแคมเปญใหม่ "The Art of Ease" ชวนทุกเจนเนอเรชั่นได้สัมผัสศิลปะแห่งการใช้ชีวิตอันเรียบง่ายและสะดวกสบาย ผ่านโซลูชันเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจากแบรนด์ "ฮิตาชิ" ตอกย้ำเอกลักษณ์การออกแบบอย่างพิถีพิถันตามแบบฉบับญี่ปุ่น สำหรับ "The Art of Ease" ถือเป็นโกลบอลแคมเปญ ซึ่งมีแนวคิดมาจากโลกยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ผู้คนในเมืองต่างใช้ชีวิตเร่งรีบและวุ่นวายตลอดเวลา จึงล้วนมองหาพื้นที่พักใจที่สงบ ผ่านความรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง
”เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าการเปิดตัวโกลบอลแคมเปญ The Art of Ease จะเป็นก้าวสำคัญที่จะเชื่อมฮิตาชิกับผู้บริโภคให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ในอนาคตของเราจะพัฒนาไปในทิศทางเดียวกันกับแนวคิดเบื้องหลังแคมเปญนี้ พร้อมมุ่งเน้นกิจกรรมสื่อสารทางการตลาดทั้งออฟไลน์และดิจิทัล เป้าหมายของเราคือการขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการตอกย้ำจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ และการเน้นกลยุทธ์ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง“ นายซาแฟร์ กล่าว
การเปิดตัวแคมเปญนี้ มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ 1. ตู้เย็นพรีเมียมแบบ 4 ประตู ดีไซน์ทันสมัย มาพร้อมฟีเจอร์ Selectable Zone ช่องแช่อเนกประสงค์ พร้อมช่องแช่อาหารระบบสุญญากาศที่ช่วยรักษาความดันบรรยากาศไว้ที่ 0.8 , 2.ตู้เย็นฮิตาชิ คาร์บอน ไลน์ใหม่ ผสมผสานดีไซน์และฟังก์ชันการทำงาน ด้วยช่องแช่แบบ Flexible Fresh Select ที่เลือกปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับอาหารที่แช่ ตู้เย็นฮิตาชิ คาร์บอน ไลน์ วางจำหน่ายแล้วทั่วโลก (ยกเว้นประเทศจีน), 3. เครื่องซักผ้ารุ่น BD-D120XGV เทคโนโลยีการตรวจจับอัจฉริยะ 8 ขั้นตอน ระบบจ่ายน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มอัตโนมัติ (Auto-Dosing) โปรแกรมกำจัดแบคทีเรียที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส, 4.เครื่องอบผ้าระบบปั๊มความร้อนรุ่นใหม่จากฮิตาชิ รุ่น TD-100XFVEM ด้วยเทคโนโลยีไอน้ำ เพื่อการพร้อมใส่ และ 5.เครื่องดูดฝุ่นฮิตาชิ รุ่น PV-XH3M ซึ่งมีน้ำหนักเบา1.8 กิโลกรัม ปรับเปลี่ยนกำลังและความเร็วรอบของแปรงตามวัสดุพื้นด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับอัตโนมัติ พร้อมกับอุปกรณ์เสริมหลากหลาย