xs
xsm
sm
md
lg

สุวรรณภูมิครบ 17 ปี 28 ก.ย.นี้ เปิด SAT-1 ประเดิม 2 แอร์ไลน์ เผยอีก 10 สายจ่อคิว ทอท.ทุ่ม 3.7 พันล้านเพิ่มระบบสายพานกระเป๋าขาเข้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุวรรณภูมิพร้อมเปิด SAT-1 Soft Opening 28 ก.ย.นี้ 2 แอร์ไลน์นำร่อง 18 ไฟลต์/วัน เผยอีก 10 สายสนใจ คาด พ.ย.เปิดเต็มรูปแบบ เล็งลดค่าบริการจูงใจ พร้อมทุ่มงบ 3.7 พันล้านติดระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าขาเข้า ส่วนวีซ่าฟรี ดันเที่ยวบินจีนเพิ่มกว่า 300 เที่ยวบิน/เดือน

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) หรือ AOT เปิดเผยภายหลังนำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ตามแผนงานจะเปิดให้บริการแบบ Soft Opening ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 17 ปี การเปิดสนามบินสุวรรณภูมิพอดี จากนั้น 1 เดือนจะประเมินการให้บริการของระบบต่างๆ เพื่อความมั่นใจ หากไม่มีปัญหา ระบบมีความพร้อม จะมีการพิจารณากำหนดการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในเดือน พ.ย.นี้ โดยจะพิจารณามาตรการลดค่าใช้จ่ายให้สายการบิน ที่อาจจะต้องมีพนักงานและพื้นที่ปฏิบัติการ 2 แห่ง คือ อาคารหลัก และอาคาร SAT-1 เพื่อจูงใจ เช่น ค่าเช่าพื้นที่สำนักงาน ค่าใช้บริการสะพานเทียบเครื่องบิน ค่าจอดเครื่องบิน เป็นต้น

สำหรับการเปิดให้บริการ SAT-1 มีร้านค้า และดิวตี้ฟรีพร้อมบริการแล้ว โดยสัญญา คิงเพาเวอร์เริ่มเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2566 โดยทอท.ค่าใช้จ่าย SAT-1 เพิ่มขึ้นประมาณ 300 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าจะมีรายได้ครอบคลุมรายจ่ายใน 1 ปี


ปัจจุบันมีอีก 10 สายการบินที่สนใจเข้าใช้บริการอาคาร SAT-1 ได้แก่ สายการบิน มหันต์แอร์ (ประเทศอิหร่าน) สายการบินเอทิฮัด สายการบินอิหร่าน สายการบินเอมิเรตส์ สายการบินกาตาร์ สายการบินออลนิปปอน สายการบินสแกนดิเนเวีย ส่วน สายการบินไทย และอีก 4-5 สายการบินกำลังพูดคุยกัน ทั้งนี้ จุดเด่นของ SAT-1 มีพื้นที่กว้างใหญ่รองรับเลานจ์ขนาดใหญ่ 6 แห่ง และสามารถรองรับเครื่องบินลำใหญ่ อย่างแอร์บัสเอ 380 และมีหลุมจอด 28 หลุม ทำให้หลายสายการบินสนใจ


@ทุ่มงบ 3.7 พันล้านบาท เพิ่มระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าขาเข้า SAT-1 สู่อาคารหลัก

นายกีรติกล่าวว่า ปัจจุบันอาคาร SAT-1 มีระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ (ICS : Individual Carrier System) เฉพาะขาออก ส่วนระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระขาเข้า อยู่ระหว่างออกแบบ และจัดทำทีโออาร์ งบประมาณก่อสร้าง 3,700 ล้านบาท โดยคาดว่ายะตั้งงบประมาณปี 2567 ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี โดยปัจจุบันจะใช้รถลำเลียงกระเป๋าขาเข้าซึ่งไม่พบปัญหาอุปสรรคในการให้บริการ


@ วีซ่าฟรี ดันเที่ยวบินจีนเพิ่มเป็นกว่า 300 เที่ยวบินต่อเดือน

ปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารภายในประเทศกลับมาเต็ม 100% เท่าปี 62 แล้ว ส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศกลับมาประมาณ 70% เมื่อเทียบกับปี 62 ก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งผู้โดยสารยุโรป ตะวันออกกลาง กลับมาน่าพอใจ รอผู้โดยสารจีนที่ยังไม่กลับมาเท่าเดิม ซึ่งนโยบาย วีซ่าฟรี จะช่วยกระตุ้นได้ โดยช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.มีเที่ยวบินจากจีนประมาณ 200 เที่ยวบินต่อเดือน ขณะที่ตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไปมียอดจองเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 300 เที่ยวบินต่อเดือน ขณะที่ ปริมาณผู้โดยสาร ช่วงเดือน ส.ค.ถึง ก.ย. อยู่ที่ประมาณ 3.5 แสนคนต่อเดือน เดือนตุลาคมมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 6.2 แสนคนต่อเดือน คาดเฉพาะช่วงวีซ่าฟรี 5 เดือนนี้ จะเพิ่มผู้โดยสารจีนจากเดิม 2.4 ล้านคนเป็น 5 ล้านคน ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนให้ข้อมูลว่ามียอดจองโรงแรมเพิ่มจากเดิมเกือบ 10 เท่า

@ปี 67 คาดผู้โดยสารสุวรรณภูมิฟื้น 60 ล้านคน

นายกีรติกล่าวว่า ปีงบประมาณ 2566 คาดว่าสนามบินสุวรรณภูมิจะมีผู้โดยสารรวมจำนวน 40 ล้านคน ขณะที่ภาพรวมทั้ง 6 สนามบินของ ทอท.จะอยู่ที่ 100 ล้านคน และคาดการณ์ว่าปี 2567 ผู้โดยสารสุวรรณภูมิจะกลับขึ้นไปที่ระดับ 60 ล้านคน และภาพรวมทั้ง 6 สนามบินของ ทอท. จะอยู่ที่ 150 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าช่วงปี 62 ก่อนเกิดโควิดที่มีประมาณ 140 ล้านคน

"ที่ผ่านมาสุวรรณภูมิได้พัฒนารันเวย์ที่ 3 และอาคาร SAT-1 ที่รองรับผู้โดยสารได้ 15 ล้านคนต่อปี หรือประมาณ 1 แสนคนต่อวัน มี 28 หลุมจอด รองรับได้ 350 เที่ยวบินต่อวัน ดังนั้นจะสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นได้เพียงพอ"


@ 2 แอร์ไลน์ ประเดิมบริการ 18 เที่ยวบินต่อวัน

ด้าน นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ผู้โดยสารทั้งขาออกและขาเข้าระหว่างประเทศจะเดินทางเชื่อมระหว่างอาคารผู้โดยสารหลักกับอาคาร SAT-1 ด้วยบริการระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover: APM) ที่ผ่านมา

ได้ทำการทดลองปฏิบัติการเต็มรูปแบบอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1(SAT-1 Full - Scale Trial Operations) เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งได้ปฏิบัติการร่วมกับสายการบิน ผู้ประกอบการให้บริการภาคพื้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมด 3 ครั้ง ในวันที่ 8 และ 12 ก.ย. 2566 ช่วงเวลากลางวัน และวันที่ 20 ก.ย. 2566 ช่วงเวลากลางคืน เพื่อสร้างความมั่นใจในความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการแบบ Soft Opening ในวันที่ 28 ก.ย. 2566 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนต่อปีเป็น 60 ล้านคนต่อปีต่อไป


ทั้งนี้ สายการบินที่จะเข้าทำการบินที่อาคาร SAT-1 ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 2566 เป็นต้นไป ในระยะแรกมีจำนวน 2 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ และสายการบินไทยเวียตเจ็ท โดยเที่ยวบินแรกที่ทำการบินเข้ามาที่อาคาร SAT-1 ในวันที่ 28 กันยายน 2566 เป็นเที่ยวบินของสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ 0761 เดินทางจาก SHANGHAI ถึง ทสภ. เวลา 10.15 น.

ในสัปดาห์แรกที่เปิดให้บริการ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์จะให้บริการวันละประมาณ 14 เที่ยวบิน และสายการบินไทยเวียตเจ็ทจะให้บริการวันละประมาณ 4 เที่ยวบิน และจะพิจารณาจัดสายการบินอื่นเข้าให้บริการที่อาคาร SAT-1 เพิ่มเติมในระยะต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น