"พีระพันธุ์” รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ตบเท้าเข้าหารือกับกรมศุลฯ หาข้อมูลการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป พร้อมแก้ไขกฎหมาย จัดหาน้ำมันช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม สั่ง กกพ.ยืดหนี้ กฟผ. ลดค่าไฟ
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังหารือกับผู้บริหารกรมศุลกากร เพื่อรับรู้ข้อมูลการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศทั้งด้านต้นทุน ภาษี ต่างๆ รวมถึงปริมาณการนำเข้าแต่ละปีทั้งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป เพื่อนำไปใช้ปรับโครงสร้างราคาพลังงานของประเทศ หวังลดภาระต้นทุนน้ำมันให้แต่ละกลุ่มอย่างเหมาะสม โดยรัฐบาลมีนโยบายที่จะเปิดทางให้นำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป โดยเฉพาะสมาคมรถบรรทุกเดือดร้อนจากต้นทุนน้ำมัน จึงต้องการเปิดทางให้นำเข้าเองได้โดยตรงเพื่อใช้ในกิจการของตนเอง ด้วยการลงทะเบียนกับกระทรวงพลังงานและขออนุญาตนำเข้าตามมาตรา 7 โดยไม่ต้องรอซื้อจากผู้ประกอบการน้ำมัน หรือโรงกลั่นที่นำเข้าน้ำมันดิบมาเป็นระยะเวลานานนับเดือน แต่เมื่อขายเป็นสำเร็จรูปจะยึดราคาปัจจุบันที่อาจแพงกว่าจึงต้องแก้ไขกฎหมายดูแลทุกกลุ่มอย่างเป็นธรรม
“เป้าหมายคือต้องทำให้เกิดความเป็นธรรมกระทรวงพลังงานได้รับข้อมูลทั้งหมดแล้วก็จะทำมาตรการลดราคาให้กับกลุ่มพิเศษเฉพาะ เช่น เกษตรกร และภาคขนส่ง เช่นเดียวกับกลุ่มประมง ใช้น้ำมันเขียวดีเซล ต่ำกว่าราคาตลาด เตรียมสรุปมาตรการให้เร็วที่สุด ยืนยันว่านโยบายดังกล่าวจะไม่เป็นภาระของประชาชนในอนาคตตามที่นักวิชาการวิตกกังวล” นายพีระพันธุ์กล่าว
สำหรับแนวทางการศึกษาลดราคาเบนซิน ช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มนั้น มุ่งเน้นดูแลกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมันแพง มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานศึกษากลุ่มไหนควรได้รับการช่วยเหลือ ได้รับผลกระทบในช่วงนี้อย่างไรบ้าง อีกไม่นานคงได้ข้อสรุป ส่วนแนวทางการลดค่าไฟฟ้างวดสุดท้ายของปี 66 ขณะนี้ได้สั่งการให้ สำนักงาน กกพ.พิจารณายืดภาระหนี้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ออกไปอีกระยะหนึ่ง ด้วยความเหมาะสม จากเดิมต้องชำระคืนหนี้ 5 งวด
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ปัจจุบันการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป ณ เดือนสิงหาคม 66 น้ำมันเบนซินเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า 5,559 ล้านบาท หรือประมาณ 7 ล้านลิตรต่อปี ดีเซล จำนวน 1,780 ล้านบาท หรือประมาณ 500 ล้านลิตร ยอมรับว่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปไม่สูงมากนัก ส่วนใหญ่นำเข้าจากตะวันออกกลาง ส่วนน้ำมันดิบ ในปี 66 เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า 78,000 ล้านบาท หรือประมาณ 50,000 ล้านลิตรต่อปี เพราะส่วนใหญ่โรงกลั่นของไทยนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง เพื่อใช้โรงกลั่นในประเทศ เพราะไทยไม่ได้เป็นผู้ผลิตน้ำมัน