“กกพ.” สนองนโยบายรัฐบาลลดค่าไฟฟ้า ก.ย.-ธ.ค. 66 เหลือ 4.10 บาท/หน่วย เตรียมหารือทุกฝ่ายเพื่อประกาศให้มีผลบังคับใช้ภายใน 1 สัปดาห์
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรกของรัฐบาลชุดใหม่ วันที่ 13 กันยายน 2566 โดย ครม.มีมติเห็นชอบปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าที่ประกาศเรียกเก็บกับผู้ใช้ไฟฟ้ารอบเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 ในอัตรา 4.45 บาทต่อหน่วย ลงเหลือในอัตรา 4.10 บาทต่อหน่วยแล้วนั้น สำนักงาน กกพ.ได้รายงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อทราบมติ ครม.ดังกล่าวแล้ว โดย กกพ.จะเร่งปฏิบัติตามมติ ครม.โดยเร็วเพื่อไม่ให้ประชาชนเสียประโยชน์
“สำนักงาน กกพ.จะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กฟผ. กฟน. กฟภ. และ ปตท. เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินการให้ตรงตามเจตนารมณ์ในมติ ครม. โดยคาดว่าจะดำเนินการนำเสนอ กกพ.ให้แล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้” นายคมกฤชกล่าว
ก่อนหน้านี้มติที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ครั้งที่ 34/2566 (ครั้งที่ 862) เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ได้มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 จำนวน 66.89 สตางค์ต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเรียกเก็บในงวดอยู่ที่ 4.45 บาทต่อหน่วย และให้มีผลตั้งแต่รอบบิลเดือนกันยายน 2566 เป็นต้นไป