xs
xsm
sm
md
lg

EGCO ลั่นครึ่งปีหลังโตขึ้น เร่งปิดดีล M&A โรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอ็กโก กรุ๊ปมั่นใจผลประกอบการครึ่งปีหลังโตกว่า 6 เดือนแรกปีนี้ เหตุรับรู้รายได้เพิ่มเติมจากโรงไฟฟ้าพลังลม Yunlin ในไต้หวันและปิดดีล M&A โรงไฟฟ้าก๊าซฯและพลังงานหมุนเวียน เพิ่มทั้งในสหรัฐฯ และอาเซียน รวมทั้งโครงการท่อส่งน้ำมัน TPN แย้มเร่งปิดดีล M&A โรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ มั่นใจปีนี้มีกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่เพิ่มตามเป้า 1,000 เมกะวัตต์

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) หรือเอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปี 2566 ว่า บริษัทมั่นใจว่าครึ่งหลังปีนี้จะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากการรับรู้รายได้จากการปิดดีลควบรวมหรือเข้าซื้อกิจการ (M&A) โครงการโรงไฟฟ้าใหม่ประเภท Conventional และพลังงานหมุนเวียน ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาหลายโครงการในสหรัฐอเมริกาและอาเซียน รวมถึงรับรู้รายได้จากโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (TPN) ที่อยู่ระหว่างทดสอบเดินเครื่องเต็มรูปแบบคาดจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 3 ปีนี้ โครงการโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 1 ในลาว มีปริมาณน้ำเต็มเขื่อน คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าและจ่ายไฟได้เพิ่มขึ้น และโรงไฟฟ้าพลังงานลม Yunlin ในไต้หวัน ที่เริ่มทยอยจ่ายไฟเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น

สำหรับโครงการท่อส่งน้ำมัน TPN มีลูกค้าแล้ว คือ ไทยออยล์, บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) และเชฟรอน มีบางรายอยู่ระหว่างเตรียมทำสัญญาอีก เช่น เชลล์ และบางจาก

ในปีนี้บริษัทตั้งงบประมาณอยู่ที่ราว 30,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 1,000 เมกะวัตต์ คาดว่าจะใช้งบทั้งหมดเพื่อปิดดีล M&A กว่า  1,000 เมกะวัตต์


นายเทพรัตน์กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ Apex Clean Energy (APEX) ในสหรัฐฯ ว่า ขณะนี้ APEX อยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการใหม่ 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการ กำลังผลิตรวม 395 เมกะวัตต์ โครงการพลังงานลม 1 โครงการ กำลังผลิต 129 เมกะวัตต์ และโครงการ Battery Storage 2 โครงการ กำลังผลิตรวม 133 เมกะวัตต์ จะทยอย จ่ายไฟเชิงพาณิชย์ต่อเนื่องในปี 2566-67

ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Yunlin ในไต้หวันที่ล่าช้าไปจากแผนเนื่องจากติดปัญหาโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาและเกิดลมมรสุมทำให้เป็นอุปสรรคต่อการก่อสร้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับแผนการดำเนินงาน เพื่อให้โครงการติดตั้งกังหันลมแล้วเสร็จ ครบ 80 ต้น ภายในปี 2567 โดยขณะนี้ติดตั้งแล้ว 24 ต้น ขณะที่โรงไฟฟ้า “เอ็กโก โคเจนเนอเรชั่น ส่วนขยาย” คาดว่าจะทยอย COD ได้ในช่วงต้นปีหน้า

โรงไฟฟ้าเคซอน ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงถ่านหิน และใกล้จะหมดอายุลงในปี 2568 ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อต่อสัญญา ซึ่งก็มีแนวโน้มที่ดี

นายเทพรัตน์กล่าวถึงกรณีรัฐบาลมีแผนจะปรับลดค่าความพร้อมจ่าย (AP) เพื่อแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพงว่า โรงไฟฟ้าแต่ละแห่งได้จัดทำสัญญาซื้อ-ขายไฟฟ้า (PPA) ไปแล้ว การจะปรับเปลี่ยนสัญญาก็เป็นเรื่องยาก แต่ก็สามารถทำได้โดยเจรจาเป็นรายโรงไฟฟ้า ขณะเดียวกันการแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพงในระยะยาวจะต้องดูแลเรื่องต้นทุนค่าเชื้อเพลิง โดยเฉพาะต้นทุนก๊าซธรรมชาติ ซึ่งรัฐบาลก็เปิดให้มีการนำเข้าก๊าซ LNG ไว้แล้ว

ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,317 เมกะวัตต์ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา


กำลังโหลดความคิดเห็น