กฟผ.เตรียมจัดงาน 30 ปี การจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า (DSM) พร้อมเปิดตัวฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 โฉมใหม่ เพื่อยกระดับการลดใช้พลังงานและลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม มุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ของประเทศ ชวนชอปเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ราคาสุดพิเศษ และลุ้นรับของรางวัลมากมาย ระหว่างวันที่ 20-24 ก.ย. นี้ ณ Hall 9 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
วันนี้ (31 สิงหาคม 2566) นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน 30 ปี การจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า กฟผ. (Demand Side Management : DSM) และ LED Expo Thailand 2023 ร่วมกับนายลอย จุน ฮาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด นายนพดล ใจซื่อ อุปนายกวิชาการ สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรรยาพร สไตเลอร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและนวัตกรรมการส่องสว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นายปิยะวัฒน์ มิชชีร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท ดับบลิวไอพีอีเลคทริค จำกัด และนางสาวไอศุรีย์ เมธากิจหิรัญ ผู้จัดการฝ่ายขาย FATEK Group ณ หอประชุมเกษม จาติกวาณิช 1 กฟผ. สำนักงานใหญ่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. เปิดเผยว่า กฟผ.มุ่งมั่นดูแลความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ เปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ควบคู่กับส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ดูแลสังคมชุมชนและสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ของประเทศ ภายในปี ค.ศ. 2050 ด้วยกลยุทธ์ Triple S ได้แก่ Sources Transformation เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และพัฒนาเทคโนโลยีทางเลือกเพื่อรองรับพลังงานหมุนเวียน Sink Co-creation เพิ่มแหล่งดูดซับกักเก็บคาร์บอน และ Support Measures Mechanism ส่งเสริมการมีส่วนร่วมลดก๊าซเรือนกระจกในภาคประชาชน โดยเฉพาะการจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า กฟผ. หรือ Demand Side Management (DSM) ซึ่งดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2536 ภายใต้กลยุทธ์ 3 อ. ได้แก่ อุปกรณ์ พัฒนาเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงาน และติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 รวม 22 ผลิตภัณฑ์ อาคาร ส่งเสริมมาตรการการใช้พลังงานในอาคาร การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพภายในบ้านและอาคาร ครอบคลุมทั้งบ้านอยู่อาศัย สำนักงาน สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล และอุปนิสัย สร้างการเรียนรู้และปลูกฝังนิสัยการใช้พลังงานอย่างประหยัดสู่เยาวชนภายใต้โครงการห้องเรียนสีเขียวกว่า 1,300 แห่ง
ส่งผลให้ตลอด 30 ปีที่ผ่านมากระตุ้นให้เกิดการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้ากว่า 3.5 หมื่นล้านหน่วย หรือประมาณ 1.7 แสนล้านบาท กฟผ. จึงเตรียมเปิดตัวฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 รูปแบบใหม่ ซึ่งจะเริ่มใช้งานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป และเปิดตัวโครงการโรงเรียนเบอร์ 5 เป็นครั้งแรกในงานมหกรรม 30 ปี DSM ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 20 - 24 กันยายน 2566 ณ Hall 9 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อยกระดับการจัดการใช้พลังงานของภาคประชาชนและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น พร้อมร่วมชมบ้านเบอร์ 5 จำลองที่รวบรวมนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต นิทรรศการผลสำเร็จ 30 ปี DSM ผลงานและนวัตกรรมจากโรงเรียนในโครงการห้องเรียนสีเขียว
ภายในงานยังมีกิจกรรม “DSM 30 ปี 30 นาทีทอง” ชวนคนไทยร่วมช้อปสินค้าเบอร์ 5 ในราคาสุดพิเศษจากผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 กว่า 60 ราย และเมื่อซื้อสินค้าครบทุก 500 บาท ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลมากมาย ส่งเสริมการใช้หลอด LED ประสิทธิภาพสูงเพียงนำหลอดไฟเก่ามาแลกหลอดไฟใหม่วันละ 100 ชุด (เฉพาะวันที่ 20-22 กันยายน 2566)
นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 20-22 กันยายน 2566 ยังมีการจัดงาน Building Construction Technology Expo 2023 (BCT Expo 2023) เพื่อขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีด้านสถาปัตยกรรม นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างอาคารสีเขียว การบริหารจัดการอาคารอัจฉริยะ และงาน LED Expo Thailand 2023 จัดแสดงเทคโนโลยีไฟฟ้าและแสงสว่างระดับนานาชาติ เพื่อเปิดประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี LED และระบบไฟฟ้าอัจฉริยะที่ทันสมัยแบบเสมือนจริง” ณ Hall 7-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดย กฟผ.ได้ร่วมจัดแสดงนิทรรศการ Thailand Pavilion Powered by EGAT ซึ่งรวบรวมเทคโนโลยี LED & Smart Lighting ภายใต้แนวคิด “โซลูชันแสงสว่างที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ” โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนวัตกรรมไฟฟ้าและแสงสว่างอัจฉริยะ รวมถึงการเปิดเวทีเจรจากับคู่ค้าในภาคธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย
“กฟผ.ขอเชิญชวนคนไทยร่วมชมงาน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 ทั้งในงานมหกรรม 30 ปี DSM งาน BCT Expo 2023 และ LED Expo Thailand 2023 เพื่อร่วมส่งเสริมและขับเคลื่อนการใช้อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ของประเทศในอนาคต”