xs
xsm
sm
md
lg

ขบ.ผนึก กทม.เร่งรัดจัดเก็บภาษีรถค้างชำระกว่า 2.7 ล้านคัน มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ขบ.-กทม.เอ็มโอยู ร่วมมือเพิ่ม ประสิทธิภาพในการเร่งรัดจัดเก็บภาษีประจำปี รถจดทะเบียนใน กทม.พบยอดค้างชำระกว่า 2.77 ล้านคัน คิดเป็นเงินประมาณ 3,100 ล้านบาท

วันที่ 24 สิงหาคม 2566 ณ ห้องประชุมนพรัตน์ ชั้น 5 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) นางสาวอำภา นรนาถตระกูล ผู้อำนวยการสำนักการคลัง และ นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือเพื่อการดำเนินการเร่งรัดจัดเก็บภาษีประจำปี สำหรับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก โดยมีนายไพศาล เหมวัฒนานันท์ นายโอฬาร อัศวพลังกูล นายอดิเรก แตงทอง และนายนุตนันทน์ นุตาลัย ร่วมลงนามเป็นพยาน พร้อมด้วยผู้บริหารจากกรุงเทพมหานคร และกรมการขนส่งทางบก ร่วมพิธี

นางสาวอำภา นรนาถตระกูล ผู้อำนวยการสำนักการคลัง กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินการเร่งรัดจัดเก็บภาษีสำหรับรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพมหานครที่ค้างชำระเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรุงเทพมหานครจะดำเนินการ ดังนี้

1. สนับสนุนด้านเครื่องมือ อุปกรณ์ และการดำเนินการในการจัดพิมพ์และจัดส่งหนังสือเตือนให้มาชำระภาษีประจำปีสำหรับรถที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครที่ค้างชำระ

2. ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้เจ้าของรถที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครที่มีค่าภาษีประจำปีสำหรับรถ
ค้างชำระมาติดต่อชำระภาษีค้าง ในช่องทางที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด

3. วางแผนการเชื่อมโยงระบบสารสนเทศภาษีท้องถิ่นของกรุงเทพมหานคร (BMA Tax) ในส่วนระบบให้บริการตรวจสอบข้อมูล กับข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบค่าภาษีประจำปีสำหรับรถที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครที่ค้างชำระได้

4. สนับสนุนการจัดทำรายงานผลการดำเนินงาน และการติดตามผลสำเร็จของการเร่งรัดจัดเก็บภาษีประจำปีสำหรับรถที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครที่ค้างชำระ

5. ดำเนินการอื่นๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเร่งรัดจัดเก็บภาษีประจำปีสำหรับรถที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครที่ค้างชำระ ตามที่กรมการขนส่งทางบกมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษร และอยู่ในกรอบวัตถุประสงค์ และหน้าที่ความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานครตามบันทึกข้อตกลงนี้


นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ในแต่ละปี ขบ.นำส่งรายได้จากการจัดเก็บภาษีรถให้ กทม. ประมาณ 14,400 ล้านบาท ซึ่งมียอดการจัดเก็บภาษีรถสูงสุดกว่าทุกพื้นที่ และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากยอดการจดทะเบียนรถทุกประเภท แต่ปัจจุบันยังพบว่าผู้ใช้รถที่จดทะเบียนใน กทม.ยังค้างชำระภาษีรถประจำปีตั้งแต่ระยะเวลา 1-3 ปี รวมกว่า 2.77 ล้านคัน คิดเป็นเงินประมาณ 3,100 ล้านบาท การลงนามร่วมกับ กทม.ครั้งนี้จะช่วยเร่งรัดผู้ที่ค้างชำระภาษีรถประจำปีมาชำระภาษีและทำให้ กทม.สามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1,000-1,200 ล้านบาทต่อปี เพื่อนำไปพัฒนาท้องถิ่น

ทั้งนี้ ขบ.ได้ให้ความสำคัญต่อการจัดเก็บภาษีประจำปีสำหรับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร โดยให้ความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครในการสนับสนุนข้อมูลผู้ค้างชำระภาษีซึ่งเงินภาษีและค่าธรรมเนียม เว้นแต่ค่าธรรมเนียมแผ่นป้ายทะเบียนรถในเขตกรุงเทพมหานครทั้งหมดจะจัดส่งให้กรุงเทพมหานครเพื่อเป็นรายได้นำมาพัฒนากรุงเทพมหานครต่อไป ซึ่งในปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกได้พัฒนาระบบการชำระภาษีออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกhttps://eservice.dlt.go.th, แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ซึ่งสะดวก รวดเร็ว และโดยไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง


กำลังโหลดความคิดเห็น